เริ่มตั้งแต่เจ้าชายแกเบรียล พระโอรสองค์แรกของ ราชวงศ์เบลเยี่ยมทรงจบหลักสูตร IB จาก International School of Brussels เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และทรงย้ายไปเรียนหลักสูตร STEM ที่ The National Mathematics and Science College ที่วอร์ริคเชียร์ สหราชอาณาจักร เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ทรงเลือกเรียน A-Level วิชาคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ชั้นสูง และฟิสิกส์

ทางด้านดัชเชสออฟบราบันท์ พระธิดาองค์ใหญ่ก็ทรงผ่านการคัดเลือกให้เข้าเรียนประวัติศาสตร์และการเมืองที่ Lincoln College แห่ง University of Oxford ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องไม่คาดคิด เพราะก่อนหน้านี้ทรงเข้าร่วมโครงการ Yale Young Global School ที่ Yale University ทำให้คนที่ทราบข่าวเข้าใจว่าจะทรงเข้าศึกษาที่ Yale University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแถวหน้าของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแน่
ประสบการณ์ใน University of Oxford จะทำให้ดัชเชสออฟบราบันท์ได้เจริญรอยตามสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปที่ Trinity College คณะหนึ่งใน University of Oxford โดยจะทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์เบลเยี่ยมรุ่นที่ 2 ที่ได้รับปริญญา
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดัชเชสออฟบราบันท์ทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษ เพราะก่อนหน้านี้ทรงเรียนหลักสูตร IB ที่ UWC Atlantic College ในแคว้นเวลส์ เป็นเวลานานสองปี

ถ้าจะย้อนกลับไป สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปเองก็ทรงจบปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์จาก Stanford University ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนสมเด็จพระราชินีมาทิลด์ก็ทรงจบปริญญาตรีสองใบ ใบแรกทางด้านอรรถบำบัด (Speech Therapy) จาก Institute Libre Marie Haps และทางด้านจิตวิทยาจาก Catholic University of Louvain

ด้านเจ้าชายเอ็มมานูเอล ภายหลังทรงจบการศึกษาจาก St John Berchman College เมื่อปี 2012 ก็ทรงเข้าศึกษาต่อที่ Eureka Special School ซึ่งนอกจากจะสอนเด็กธรรมดาแล้ว ยังเปืดรับเด็กพิเศษ ซึ่งเจ้าชายทรงเป็นดิสเล็กเซีย (ภาวะการอ่านไม่เข้าใจ) จากนั้นทรงเจริญรอยตามพระเชษฐาเข้าศึกษาต่อที่ International School of Brusselsในปี 2020-2022

ส่วนเจ้าหญิงเอเลโอนอร์นั้นยังทรงพระเยาว์เกินกว่าเราจะทราบว่า จะทรงศึกษาทางด้านใดบ้าง แต่ที่แน่ๆทรงเรียนที่ St John Berchman College จนถึงปี 2020 จากนั้นทรงย้ายไปเรียนที่ Heilig Hart Secondary School

ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการศึกษาของสมาชิกราชวงศ์เบลเยี่ยมรุ่นเยาว์ ตามรอยพระบาทพระบิดาและพระมารดา เพื่อจะเป็นราชวงศ์รุ่นใหม่ที่เป็นตัวแทนของประเทศ
ที่มา : royalcentral.co.uk Photo: Getty Images