เปิดคลังแสงกระเป๋า Hermès ของ ‘แม่อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย’ ประเมินค่าไม่ได้!
Hermès คือแบรนด์ที่แม่ชอบมากที่สุด และเก็บสะสมมากว่า 20 ปี
หลังจาก ‘คุณอุ๊ มณฑ์ลัชชา – คุณพะเพื่อน ชุติมณฑน์ สกุลไทย’ สร้างบ้านหลังใหม่เสร็จเป็นที่เรียบร้อย HELLO! ก็ได้มีโอกาสไปบุกบ้านให้สองแม่ลูกสายแฟชั่นพาทัวร์ทุกมุมทุกดีเทลกันไปแล้ว เราก็ไม่วายติดใจโซน กระเป๋า Hermès ของ “แม่อุ๊” ที่ต้องขอใช้คำว่าคลังกระเป๋าเสียมากกว่า เพราะมีสะสมเยอะสมศักดิ์ศรีแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ชนิดที่ต้องแบ่งห้องไว้สำหรับดูแลโดยเฉพาะ จึงขอแยกย่อยพาทุกคนมาเปิดกรุกระเป๋ากันแบบเอ็กซ์คลูซีฟหลังชมบ้านกันเรียบร้อย
ของสะสม 2 ทศวรรษ
คุณอุ๊พาเราเดินขึ้นมายังชั้นบนของบ้าน พร้อมเปิดประตูต้อนรับสู่ห้องที่มีมูลค่ามากที่สุดของบ้านอย่างห้องเก็บกระเป๋า ผนังห้องรายล้อมไปด้วยตู้สูงจรดเพดานที่ออกแบบมาเพื่อวางกระเป๋าโดยเฉพาะ ขณะที่บริเวณกึ่งกลางห้องมีไอซ์แลนด์สำหรับแยกเก็บกระเป๋าใบเล็กลงมาเพิ่มเติม
“Hermès คือแบรนด์ที่เราชอบมากที่สุด แล้วมันมีมูลค่า ซื้อมาก็เหมือนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง” คุณอุ๊เลื่อนบานตู้กระจกใสออกให้เราเห็นกระเป๋าที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านในอย่างชัดเจนมากขึ้น พร้อมเอ่ยปากเล่าถึงระยะเวลา 20 ปีที่ค่อยๆ เก็บสะสมกระเป๋าทุกใบมา “ณ เวลานี้ ทุกใบที่แม่ซื้อมา มันคือกำไรหมดแล้ว”
“แม่เก็บสะสม Hermès มานานมากแล้ว ถ้าให้นับจริงๆ คงประมาณ 20 ปีได้ แม่ไม่ได้ซื้อทีเดียวเยอะๆ แต่ค่อยๆ ตามหา ค่อยๆ ซื้อเก็บไป ปกติก็ซื้อปีละใบ แต่ด้วยความที่ระยะเวลาที่เราตามสะสมมามันนาน เลยมีจำนวนประมาณหนึ่ง” คุณอุ๊ขยายความเพิ่มเติม
กระเป๋าใบไหนแพงที่สุดในตู้ ?
แน่นอนว่าคำถามยอดฮิตที่เหล่านักสะสมคงหนีไม่พ้นก็คือ “กระเป๋าใบไหนซื้อมาแพงที่สุด ?” ซึ่งทันทีที่เราถามจบ คุณอุ๊ก็ชี้ขึ้นไปยังกระเป๋ารุ่นคลาสสิก Kelly หนังจระเข้สี Himalayan โดดเด่นชนิดไม่ต้องนั่งคิดทบทวนนานถึงราคาที่เคยจ่ายไป ซึ่งคุณอุ๊ซื้อมาในราคา 3.4 ล้านบาท ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 7 ล้านบาทแล้ว
“จริงๆ ก่อนซื้อ แม่คิดแล้วคิดอีก เพราะราคาก็ถือว่าแพงมาก แต่สุดท้ายก็ตัดใจซื้อมาเพราะปีนั้นยังไม่ได้ซื้อกระเป๋าเลย ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกมาก เพราะราคาขึ้นไปเป็นเท่าตัวแล้ว”
กระเป๋า Hermès ใบแรกของ “แม่อุ๊”
“กระเป๋าใบแรกของแม่เป็นไซส์ 30 สีน้ำตาล แต่ตอนนั้นแม่ขายไปเพราะอยากสะสมไซส์ 24 มากกว่า จริงๆ ก็มีเสียดายเหมือนกันนะ แต่สุดท้ายเราก็ซื้อรุ่นเดิมสีเดิมแค่คนละไซส์กลับมา”
แฟชั่นนิสต้าตัวแม่ย้อนรอยความทรงจำพร้อมชี้ให้เราดูกระเป๋า Hermès สีน้ำตาลไซส์ 24 ขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในตู้ให้เราดู คุณอุ๊เผยว่าส่วนตัวแล้วไม่ได้แค่ซื้อเก็บเพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งก็มีการขายและต่อยอดซื้อใบใหม่เพิ่มเข้ามา ทั้งนี้ก็เหมือนเป็นการลงทุนไปในตัว และไม่ได้สะสมจนดูแลไม่ไหว
รุ่นที่น่าลงทุน
เมื่อถามตัวแม่ถึงรุ่นที่แนะนำว่าควรค่าน่าซื้อไว้ในครอบครอง หรือแม้แต่คนที่สนใจอยากซื้อเพื่อลงทุน คุณอุ๊ก็แนะนำได้อย่างรวดเร็วว่าคือ รุ่น Birkin ยอดฮิต ด้วยความคลาสสิกและคุณภาพคุ้มค่าราคา ทำให้ยิ่งเวลาผ่านไปราคาก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีกรุ่นที่ควรค่าแก่การซื้อไม่แพ้กันก็คือ รุ่น Kelly ที่คุณอุ๊เองก็มีสะสมเยอะไม่แพ้กัน
ทว่าเมื่อถามว่าเธอยังจะซื้อต่อไปอีกหรือไม่ คุณอุ๊บอกเราว่า “ไม่ซื้อแล้ว แม่ไม่อยากเป็นทาสมัน (หัวเราะ) สำหรับ Birkin กับ Kelly ตอนนี้ราคาสูงขึ้นมาก เป็นเท่าตัวจากสมัยก่อนที่แม่ซื้อ เลยคิดว่าจะหยุดแล้ว และตอนนี้เองก็คิดว่ามีจำนวนที่พอแล้ว เก็บครบเกือบทุกสีแล้ว ตอนนี้เลยหันมาอยากได้ Picotin ที่ราคาแสนกว่าบาท แต่เดี๋ยวนี้เริ่มหายากแล้ว”
หากใครที่ไม่อยากสู้ราคาของสองรุ่นฮิตอย่าง Birkin และ Kelly เราก็แนะนำให้เดินรอยตามสายตาอันเฉียบแหลมของนักสะสมและนักลงทุนมากประสบการณ์อย่างคุณอุ๊
ซื้อ 1 ใช้ถึง 2
เรียกว่านอกจากคุณภาพของ กระเป๋า Hermès จะคุ้มค่าราคา และนับเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ดีแล้ว ยังเป็นสมบัติที่ตกทอดถึงลูกหลานได้อีกด้วย ซึ่งคุณอุ๊เองด้วยความที่เป็นสายแฟชั่นทั้งแม่และลูก เสื้อผ้า รองเท้า เรื่อยมาจนถึงกระเป๋า จึงแบ่งกันใช้แบ่งกันใส่แบ่งกันถือกับคุณพะเพื่อนเช่นกัน
“แต่อย่างรุ่นที่เป็นหนังจระเข้ เพื่อนเขาก็จะยังไม่ใช้ เพราะเขารู้สึกว่ามันเกินวัยไปหน่อย ส่วนรุ่นที่พะเพื่อนใช้กับแม่บ่อยสุดก็คือ Constance เพราะมันวัยรุ่น สปอร์ตๆ สไตล์เขา ที่แม่ซื้อเยอะขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะพะเพื่อนเขาชอบ”
นอกจากรุ่น Constance แล้ว คุณอุ๊เล่าว่าบางวันคุณพะเพื่อนก็จะเลือกหยิบ Kelly Vintage ไซส์ 20 มาใช้บ้าง ด้วยความที่เป็นกระเป๋าไซส์เล็ก ขนาดกะทัดรัด เข้ากับสมัยนิยมในปัจจุบันที่ผู้คนหันมาถือกระเป๋าใบจิ๋ว แต่ความเก๋คือคุณอุ๊เล่าว่ารุ่นวินเทจนี้ ทรงจะไม่เหมือนรุ่นปัจจุบันที่ทำไซส์ 20 ออกมา รุ่นปัจจุบันจะมีความแบนๆ กว่า “ส่วนตัวแม่รู้สึกว่าทรงของวินเทจมันน่ารักกว่า ทรงมันจะดูกลมๆ อ้วนๆ กว่า”
ใบสุดท้ายที่คุณพะเพื่อนชอบใช้ร่วมกับคุณอุ๊ ก็คือ Constance ไซส์คาดเอว ซึ่งความเก๋อยู่ที่การซื้อสร้อยสวยๆ มาใช้แทนสายสะพาย แล้วนำมาสะพายเป็นเหมือนกระเป๋าไซส์มินิครอสบอดี้ ให้อีกลุคที่ดูดีไม่แพ้กัน เรียกว่าแม้จะลงทุนไปหลายล้าน แต่ก็คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เพราะนอกจากจะได้กำไรทุกใบแล้ว ยังซื้อใบเดียว แต่มีคนช่วยใช้ถึงสองคน ไม่ปล่อยให้กระเป๋าตั้งเหงาๆ อยู่ในตู้โชว์อีกด้วย
วิธีดูแลรักษากระเป๋าแบรนด์เนม
ก่อนบอกลากันในวันนี้ เราได้ขอทริคและทิปส์การดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมจากคุณอุ๊ “เอาจริงๆ แล้วดูแลไม่ยากเลย เวลาแม่เอากระเป๋าออกไปใช้ กลับมาก็จะใช้ผ้าเช็ดแว่นเช็ดตามขอบมุมให้สะอาด แล้วก็เก็บเข้าตู้”
“อันที่ดูแลยากคือใบที่เป็นหนังจระเข้ เวลาแม่ถือไปกินข้าวนอกบ้าง จะมีถุงพลาสติกพกไว้เลย เอาไว้ครอบกระเป๋า (หัวเราะ) คือเราไม่ห่วงภาพลักษณ์นะ ห่วงกระเป๋าจะเลอะมากกว่า เพราะถ้าเลอะขึ้นมาจะทำความสะอาดยาก เป็นรอยง่าย ด่างง่าย”
“ส่วนวิธีการเก็บรักษา ในห้องเก็บกระเป๋าแม่ก็จะเปิดแอร์ตอนกลางคืน ส่วนตอนเช้าก็จะมาเปิดม่านให้แสงมันเข้า เพราะถ้าเปิดแอร์ตลอดก็กลัวชื้น แต่ถ้าโดนแสงเยอะเกินก็กลัวกรอบ เรียกว่ามีกระเป๋าก็ทุกข์ แต่ไม่มีก็ทุกข์เหมือนกัน (หัวเราะ)”