Home > Fashion > Fashion Updates > ทำไม London Fashion Week ถึงเป็นอีเวนต์ที่น่าจับตามองที่สุดในโลก? ฟังคำตอบจาก Caroline Rush

Caroline Rush (แคโรไลน์ รัช) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวเรือใหญ่นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ British Fashion Council มาตั้งแต่ปี 2009 เธอจึงเป็นเหมือนกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนวงการแฟชั่นให้ก้าวไปข้างหน้า รวมถึงยังมีส่วนช่วยในการก่อตั้งแบรนด์ใหม่ๆ อีกด้วย และหลังจากสองปีที่ทั่วโลกเผชิญกับโควิด-19 จนต้องปรับตัวไปจัดงานออนไลน์กันอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับแคโรไลน์ถึงสิ่งที่น่าจับตามองใน London Fashion Week ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2022 ที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะลากยาวไปจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ รวมถึงเจาะลึกถึงเหตุผลที่ทำให้แฟชั่นโชว์นี้ยังคงเป็นหนึ่งในอีเวนต์ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดตลอดมา

London Fashion Week
Caroline Rush

อะไรคือสิ่งที่คุณชอบที่สุดใน London Fashion Week ?

แคโรไลน์ให้คำตอบว่า “ลอนดอน เป็นผู้นำในด้านความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดใหม่ๆ รวมถึงยังเป็นเมืองที่คุณจะได้ค้นพบคนมีความสามารถหน้าใหม่อีกด้วย สิ่งที่ทำให้ลอนดอนโดดเด่นกว่าเมืองอื่นคือความกล้าที่จะจินตนาการและการเบลอเส้นแบ่งระหว่างศิลปะและธุรกิจ”

“ที่ลอนดอนเรามีตั้งแต่แบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Vivienne Westwood และ Erdem ไปจนถึงแบรนด์หน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยความกล้าและความสร้างสรรค์อย่าง Nicholas Daley และ Nenci Dojaka มันชัดเจนมากว่าดีไซเนอร์ของเราคือกำลังสำคัญที่สร้างมาตรฐานความสร้างสรรค์และทำให้โลกแฟชั่นเป็นวงการที่มีความรับผิดชอบไปในเวลาเดียวกัน”

แคโรไลน์อธิบายว่า กรุงลอนดอน เป็นเหมือนตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์อันไร้กรอบเกณฑ์ เต็มไปด้วยสิ่งใหม่ที่เท่และมีสีสัน เป็นสถานที่ที่ทุกแนวคิดจะถูกยอมรับ “สำหรับฉันแล้ว นี่คือสิ่งที่ทำให้กรุงลอนดอนและลอนดอนแฟชั่นวีคพิเศษมากๆ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่จะมาเยือน”

London Fashion Week
แฟชั่นโชว์แบรนด์ Nenci Dojaka

ลองเปรียบเทียบแฟชั่นวีคที่ลอนดอนกับที่เมืองใหญ่อื่นๆ ดูหน่อย

อย่างที่แคโรไลน์บอกไปตอนต้นว่าลอนดอนเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียใหม่ๆ และผู้คนมากความสามารถที่พร้อมจะกระโจนเข้าสู่โลกแฟชั่นตลอดเวลา ทำให้แฟชั่นวีคที่ลอนดอนนั้นเต็มไปด้วยพลังและสีสันความสดใหม่ โดยเธอยกตัวอย่างแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ Roksanda เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่ Serpentine Pavillion ภายในโชว์ไม่ได้มีแค่เดินแบบอย่างเดียว แต่มีนักเต้นร่วมกับเหล่าโมเดลทำการแสดงที่บ่งบอกถึงคอนเซปต์ของคอลเลกชั่นอีกด้วย

หรืออย่างแบรนด์ Labrum London ที่รังสรรค์คอลเลกชั่นล่าสุดขึ้นมาเพื่อยกย่องสไตล์และวัฒนธรรมของชาวแคริบเบียนและแอฟริกันที่อพยพเข้ามาในบริเตนใหญ่ช่วงยุค 1970s ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่าทั้งสองตัวอย่างที่แคโรไลน์ยกมานั้นเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่บอกได้ว่าดีไซเนอร์ชาวอังกฤษนั้นมีความคิดสร้างสรรค์ริเริ่มสิ่งแปลกใหม่โดยที่ยังเคารพวัฒนธรรมทั่วโลกอยู่ด้วย

London Fashion Week
ลอนดอนแฟชั่นวีค

หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แฟชั่นวีคซีซั่นนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ?

ซีอีโอสาวแห่ง British Fashion Council ให้คำตอบอย่างตื่นเต้นว่า “ในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นการรวมกันของแฟชั่น วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ตลอดทั้ง 5 วันที่จัดงานเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสร้างสรรค์และแนวคิดใหม่ๆ ของ กรุงลอนดอน ที่เรารู้จัก” แคโรไลน์เล่าว่าแฟชั่นโชว์ตลอดสัปดาห์นี้จะได้เห็นทั้งคอลเลกชั่นสุดตื่นตะลึงจากดีไซเนอร์ชื่อดัง ไปจนถึงโชว์แหวกกรอบเดิมๆ จากดีไซเนอร์หน้าใหม่มากฝีมือ รวมถึงยังมีแบรนด์ลักซ์ชัวรี่จากประเทศอื่นมาร่วมด้วย

โดยอีเวนต์ครั้งนี้ได้ปรับตัวจากสถานการณ์โควิด-19 มีทั้งออนไลน์และออนไซต์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยเปิดทางเลือกให้เหล่าดีไซเนอร์ทั้ง 129 แบรนด์ได้ตัดสินใจว่าพวกเชาแต่ละคนจะนำเสนอคอลเลกชั่นแบบไหน ผ่านช่องทางอะไร

สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดของฤดูกาลนี้คือการร่วมมือกันระหว่างหุ้นส่วนหลักของลอนดอนแฟชั่นวีคอย่าง Clearpay และแบรนด์เสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ Roksanda ทั้งสองแบรนด์ได้จับมือกันนำเสนอแฟชั่นแบบ NFT ทำให้แฟชั่นกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงประณีตในรายละเอียดตั้งแต่คัตติ้งเสื้อผ้าจนถึงวัสดุที่ใช้ทำ เรียกว่าละเอียดลออไม่ต่างจากงานตัดเย็บของจริง นอกจากนี้จะยังมีการใช้ AR (Augmented Reality หรือ เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง) เพื่อให้ผู้ชมสามารถโต้ตอบกับชิ้นงานศิลปะได้อีกด้วย

London Fashion Week
ลอนดอนแฟชั่นวีค

คิดว่าโควิด-19 เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์มีอิสระในการนำเสนอเสื้อผ้ามากขึ้นไหม ?

“มันน่าตื่นตามากที่ได้เห็นแฟชั่นแบรนด์สัญชาติอังกฤษมากมายรับมือกับความท้าทายจากโควิด-19 ด้วยวิธีการต่างๆ ตลอดสองปีที่ผ่านมา ทางลอนดอนแฟชั่นวีคเองก็ได้ปรับตัวกับสถานการณ์โรคระบาด ตั้งช่องทางออนไลน์ของตัวเองขึ้นมาในปี 2020 ซึ่งเราได้เห็นผลงานสร้างสรรค์แหวกกรอบมากมายบนช่องทางนี้ เราจึงมองว่ามันเป็นการหยิบยื่นโอกาสให้แก่ดีไซเนอร์ได้ลองนำเสนอผลงานของตัวเองผ่านสื่ออื่น ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ , การอภิปราย ไปจนถึงงานจัดแสดงสามมิติ”

แคโรไลน์เล่าว่าผลงานมากมายที่ปรากฏให้เห็นบนสื่อออนไลน์เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า แฟชั่น สามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่โชว์บนรันเวย์ เธอยังเผยอีกว่าลอนดอนแฟชั่นวีคจะยังคงเก็บออนไลน์แพลตฟอร์มไว้และพัฒนาต่อไปแม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเปิดโอกาสและทางเลือกให้แก่ดีไซเนอร์ที่จะนำเสนอผลงานของตัวเองได้หลากหลายและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

การปรับตัวของโลกแฟชั่นที่หลอมรวมกับสื่อออนไลน์มากขึ้น

ส่วนตัวแล้วคิดอย่างไรกับการนำเสนอผลงานออนไลน์ ?

คำถามสุดท้ายจาก HELLO! ชวนให้หัวเรือใหญ่ของ British Fashion Council คิดทบทวนสักพัก ก่อนจะให้คำตอบว่า “ช่องทางออนไลน์ของลอนดอนแฟชั่นวีคจะยังคงเปิดให้ดีไซเนอร์ได้นำเสนอผลงานผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ ไปตลอด และจะเปิดให้ทั้งผู้เชี่ยวชาญในวงการและผู้บริโภคทั่วโลกที่สนใจด้านแฟชั่นสามารถเข้าถึงได้”

“เหล่าดีไซเนอร์เหมือนถูกบังคับกลายๆ จากสถานการณ์โควิด-19 ให้ต้องปรับตัวและหาวิถีทางในการนำเสนอผลงาน รวมถึงวิธีการสื่อสารกับผู้บริโภคใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีมีส่วนช่วยอย่างมากให้แฟชั่นทุกวันนี้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ เข้าถึงง่าย มีความเสมอภาค และอยู่ทุกหนทุกแห่ง”

“ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง ฉันคงต้องบอกว่าช่องทางดิจิทัลได้ขยายโลกแห่งความสร้างสรรค์ของเหล่าดีไซเนอร์ออกไป รวมถึงเปิดทางเลือกให้พวกเขาสามารถสื่อสารข้อความของแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นมากๆ”

เมื่อฟังแบบนี้แล้ว เราจึงได้ข้อสรุปว่าถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน แต่ดังเช่นคำกล่าวที่ว่าเมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง ประตูอีกบานจะเปิดขึ้น เหล่าคนโลกแฟชั่นก็ค้นพบวิถีทางใหม่ที่จะพาวงการแฟชั่นให้ก้าวไกลไปอีกขั้น และน่าตื่นเต้นจับตามองกว่าที่เคย

แฟชั่นวีคที่กรุงลอนดอน ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2022

ข้อมูล : Courtesy of HELLO! UK / รูปภาพ : Courtesy of HELLO! UK and London Fashion Week

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.