หลังผ่านพ้นรอบพรีลิมมินารีของเวทีประกวด Miss Universe 2023 ไปได้หมาดๆ ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยอย่าง ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามถึงความสวยสง่าและดีเทลความหมายของแต่ละชุดที่เธอสวมใส่ในปีนี้ แต่นอกจากตัวแทนประเทศไทยจะเป็นที่พูดถึงแล้ว ‘มิสยูเครน’ อย่าง วิกตอเรีย อาปานาเซนโก (Viktoria Apanasenko) เองก็เป็นที่โดดเด่นจับตาในเวทีประกวดโลกไม่แพ้กัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าจากเหตุการณ์ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ฝั่งยูเครนเองต้องเผชิญกับสภาวะยากลำบากมาโดยตลอด ไม่ว่าจะขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ยิ่งการสร้างสรรค์ชุดสำหรับการประกวดยิ่งเป็นเรื่องท้าทายกว่าปีไหนๆ เราจึงอดไม่ได้ที่จะเฝ้าดูว่าชุดของสาววิกตอเรียในปีนี้จะออกมาเป็นอย่างไร และสื่อถ้อยความหมายอะไรบ้างไหม ซึ่งมิสยูเครนก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยสักลุคเดียว HELLO! เลยขอพาไปแกะรหัสความหมายแบบละเอียดจากทั้ง 3 ลุคกัน
ลุคที่ 1 : กล้าหาญดั่งชาวยูเครน


ประเดิมลุคแรกกันด้วยรอบชุดว่ายน้ำที่หลากหลายสาวงามจากแต่ละชาติล้วนตั้งใจรังสรรค์ผ้าคลุมขึ้นอย่างพิถีพิถัน สำหรับ วิกตอเรีย อพานาเซนโก เองเธอก็มีผ้าคลุมที่โดดเด่นชวนจับตาไม่แพ้กัน
เคปผืนยาวที่เต็มไปเรื่องราวนี้รังสรรค์ขึ้นโดย SOYKA (JAY) ศิลปินจาก PATOKA Studio โดยบนผ้าคลุมได้เขียนหลักประจำใจของชาวยูเครนอย่าง ‘Be Brave Like Ukraine’ (กล้าหาญดั่งชาวยูเครน) ด้านบนคตินั้นเป็นภาพวาดของหญิงสาวกึ่งนกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศยูเครน ซึ่งถ่ายทอดสายตามุ่งมั่นกล้าหาญออกมาอย่างแรงกล้า
เมื่อสังเกตให้ดีจะเห็นว่าบนปีกของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลเหมือนกับประเทศยูเครนที่เผชิญกับความลำบาก แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ยังคงสยายปีกโผบินและต่อสู้ต่อไปอย่างกล้าหาญ เฉกเช่นเดียวกับชาวยูเครนตอนนี้
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจก็คือผ้าคลุมผืนนี้ตัดเย็บและวาดมือขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บไม่มีไฟฟ้า ต้องใช้แสงเทียน รวมถึงยังมีการโจมตีจากขีปนาวุธเป็นระยะ ทำให้ตลอดระยะเวลาการทำเคปชิ้นนี้มีแต่เสียงไซเรนตลอดเวลา
หลังจากการประกวด Miss Universe 2023 สิ้นสุดลง ผ้าคลุมผืนนี้จะถูกนำไปประมูลในงานการกุศลเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือประเทศยูเครนต่อไป
ลุคที่ 2 : เทพีนักรบแห่งแสง



สำหรับชุดประจำชาติที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุด PAKOTA Studio ใช้เวลาถึง 4 เดือนในการออกแบบและตัดเย็บขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันเหน็บหนาวช่วงสิ้นปีของยุโรป และตลอดเวลาที่ตัดเย็บรวมถึงช่วงฟิตติ้งนั้นมีเพียงแค่แสงเทียนพอให้ความสว่างเท่านั้น
ชุดประจำชาติของ ‘มิสยูเครน’ มีชื่อว่า Warrior of Light (นักรบแห่งแสง) หรืออัครทูตสวรรค์มิคาเอล ที่เหล่าชาวยูเครนเชื่อว่าปกป้องพวกเขาด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ ทางศิลปินได้ถ่ายทอดความสง่างามและกล้าหาญของนักรบแห่งแสงออกมาผ่านชุดกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ซ้อนชุดเกราะสีทองอร่าม ทำให้วิกตอเรียดูราวกับเทวทูตแห่งความหวังในช่วงยากลำบากของยูเครน
หากแกะดีเทลของชุดจะพบว่าลุคนี้มีทั้งหมด 5 องค์ประกอบหลักด้วยกัน ได้แก่ ชุดเกราะที่ออกแบบเป็นจั๊มพ์สูทเข้ารูปสีทอง แนบไปกับผิวของวิกตอเรีย , ชุดเดรสสีขาวแต่งผ้าชีฟองที่สวมคลุมทับดูชวนฝัน , กระโปรงที่ใส่ทับอีกชั้น ตัดเย็บขึ้นจากผ้าความยาวกว่า 10 เมตร
องค์ประกอบที่ 4 คือปีกที่มีกลไกสามารถสยายใหญ่ขึ้นได้ ขนนกแต่ละชิ้นล้วนลงสีด้วยมือทั้งสิ้น ประดิษฐ์ขึ้นโดย The Crooked Feather และสุดท้ายคือเกราะที่ประดับอยู่บนปีกอีกที โดดเด่นด้วยสีน้ำเงินตัดขอบทองซึ่งเป็นสีเดียวกับธงชาติของประเทศยูเครนอีกด้วย
ลุคที่ 3 : สดุดีแด่ความกล้าหาญของยูเครน


สำหรับลุคสุดท้ายถือได้ว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากการออกแบบและตัดเย็บโดยดีไซเนอร์ชาวยูเครนชื่อดัง ‘Ivan Frolov’ ซึ่งเคยดีไซน์ชุดให้ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ใส่ขึ้นเวทีมาแล้วด้วย
โดยรอบชุดราตรีนี้ Ivan ออกแบบให้เป็นชุดราตรีทรงเมอร์เมดส่งเสริมรูปร่างของ ‘มิสยูเครน’ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเขาเลือกใช้เป็นเดรสสีดำปักเลื่อมละเอียดตลอดทั้งตัว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวด ความสูญเสีย และการถูกทำลาย อันเป็นผลพวงมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ขณะเดียวกัน สีดำไม่ได้สื่อถึงแต่ความเศร้าโศกเพียงอย่างเดียว เพราะสีดำเองก็เปรียบเสมือนความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น ชวนให้เราตระหนักถึงโมงยามที่มืดมิดที่สุดก่อนจะรุ่งสางนั่นเอง
จุดโดดเด่นของชุดราตรีนี้อยู่บริเวณที่อก ซึ่งด้านหนึ่งปักประดับคริสตัลด้วยสีเหลืองและน้ำเงินเป็นรูปหัวใจ แน่นอนว่าสาเหตุที่เลือกใช้สองสีนี้เพราะเป็นสีบนธงชาติของยูเครน รวมถึงยังเป็นสีที่สื่อถึงอิสภาพอีกด้วย ขณะที่อีกฝั่งของหน้าอกปักประดับด้วยคริสตัลสีเงินและทอง เปรียบเหมือนแสงแห่งความหวังและความศรัทธาที่จะเอาชนะความมืดมิด
บนอินสตาแกรมของมิสยูนิเวิร์สยูเครนยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า “Life will conquer death, and light over drakness” (ชีวิตจะพิชิตความตาย และแสงสว่างจะเอาชนะความมืดมิด)

อีกเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจก็จะถึงวันที่ 14 มกราคม 2023 ซึ่งเป็นรอบไฟนอลของเวทีประกวด Miss Universe 2023 แล้ว ไม่ว่าตัวแทนจะสาวงามประเทศไหนจะเป็นผู้คว้ามงกุฎไปครอง HELLO! ต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้ารอไว้เลย แต่อย่าลืมร่วมส่งแรงใจไปเชียร์ ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ มิสยูนิเวิร์สจากประเทศไทยที่ทำผลงานได้ดีมาโดยตลอดตั้งแต่บินไปถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งรอบพรีลิมฯ ที่ผ่านมาเธอก็ปรากฏตัวในชุดรีไซเคิลสวยสง่าพร้อมส่งเสียงสะท้อนไปถึงกระแสรักษ์โลกอย่างงดงาม เห็นแบบนี้แล้วแฟนๆ นางงามชาวไทยเองก็คาดว่า “มงสาม” คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
ข้อมูลและรูปภาพ : Courtesy of Miss Ukraine Universe’s Instagram and PAKOTA Studio