เคต มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงพระสิริโฉมงดงามสะกดทุกสายตาเมื่อเย็นวันอังคารที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ขณะเสด็จไปทรงร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องที่ 25 ของ James Bond อย่าง No Time to Die ซึ่งจัดขึ้น ณ Royal Albert Hall กรุงลอนดอน โดยทรงเคียงคู่มาพร้อมพระสวามี เจ้าชายวิลเลี่ยม เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ ดัชเชสคามิลล่า

เหล่าแฟนคลับต่างดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นดัชเชสเคตทรงฉลองพระองค์สุดวิจิตรงดงามสำหรับโอกาสพิเศษแบบนี้ ซึ่งเราอาจพูดได้เลยว่าดัชเชสเคตทรงเอาลุคสาวบอนด์ได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว
ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงฉลองพระองค์ชุดกระโปรงยาวของ Jenny Packham มูลค่ากว่า 135,000 บาท สะกดทุกสายตาด้วยงานปักเลื่อมระยิบระยับสีทองตลอดทั้งตัวลงบนผ้าโปร่ง ขับเน้นพระสิริโฉมด้วยการแต่งพระพักตร์เน้นงานผิว ใช้ไฮไลต์ช่วยเสริมความเปล่งประกายของลุค ก่อนคอมพลีตลุคนี้ด้วยการม้วนพระเกศาขึ้น อวดพระศอเรียวระหงและพระกุณฑลสีทองเข้ากับฉลองพระองค์

เมื่อเหล่าพระราชวงศ์เสด็จมาถึงงาน พระองค์ยังได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทีมผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ No Time to Die เข้าเฝ้า รวมไปถึงทัพนักแสดงนำอย่าง แดเนียล เครก , รามี มาเลค , เลดา แซดู และลาชานา ลินช์

เหล่าแฟนๆ เชื่อว่าเจ้าชายวิลเลี่ยมและดัชเชสเคตจะต้องทรงเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ตระกูลบอนด์อย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งสองพระองค์ยังเคยเสด็จร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Spectre ในเดือนตุลาคม ปี 2015 โดยเสด็จพร้อมเจ้าชายแฮร์รี่ด้วย

เรายังคงจดจำชุดของดัชเชสเคตในงาน World Premiere ภาพยนตร์เรื่อง Spectre ได้เหมือนเพิ่งผ่านมาไม่นานมานี้ ด้วยพระสิริโฉมอันงดงามในฉลองพระองค์ชุดราตรียาวสีฟ้าอ่อนจาก Jenny Packham โดดเด่นด้วยดีไซน์ผ้าโปร่งบางด้านหลัง คาดทับด้วยพระปั้นเหน่งเพชรระยิบระยับ โดยดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงคอมพลีตลุคในวันนั้นด้วยการเก็บพระเกศาขึ้น รับกับพระกุณฑลเพชรเข้ากับฉลองพระองค์อย่างลงตัว

ภาพยนตร์เรื่อง No Time to Die เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 25 ของ James Bond โดยเป็นเรื่องที่ 5 และยังเป็นเรื่องสุดท้ายที่ได้ แดเนียล เครก มานำแสดงในฐานะสายลับผู้ดีอังกฤษอีกด้วย สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเล่าต่อจากเหตุการณ์ที่บอนด์หยุดพักภารกิจและไปใช้ชีวิตที่จาเมกา แต่ทว่าชีวิตอันสงบสุขของเขาก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเพื่อนเก่าจาก CIA เดินทางมาหาบอนด์เพื่อขอความช่วยเหลือในภารกิจช่วยนักวิทยาศาสตร์ที่โดนลักพาตัวไป และภารกิจนี้ก็พาบอนด์ไปค้นพบเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คาดไว้ จะเป็นอะไรนั้น แฟนๆ ต้องรอติดตามชมกันในภาพยนตร์ที่เตรียมเข้าโรงในวันที่ 7 ตุลาคมนี้เลย!