บางคนอาจรู้จัก ‘คุณเก๋-ชลลดา (เมฆราตรี) สิริสันต์’ ในฐานะนางแบบและพิธีกร แต่เชื่อว่า ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่จำภาพเธอในฐานะ ‘นางฟ้าของสัตว์จรจัด’ เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสังคม ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิเดอะวอยซ์ ได้มีโอกาสช่วยเหลือสัตว์กว่า 2 หมื่นชีวิต ให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“ปีนี้ครบรอบ 10 ปี มูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา สารภาพตามตรงว่า ตอนแรกเก๋คิดว่าจะทำแค่ 10 ปีแล้วพอ เพราะย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของการทำงานเพื่อสังคมของเก๋ ไม่ได้คิดว่าจะมาทำเรื่องสัตว์ หรือตั้งมูลนิธิ แต่เกิดจากความตั้งใจว่า ในวันที่เราคิดว่าเราพร้อม ก็อยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อสังคมไทย” คุณเก๋ย้อนวันวานถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้จับผลัดจับผลูมาทำมูลนิธิ
ผู้เป็นดั่ง ‘นางฟ้าของสัตว์จรจัด’

ก่อนเสริมว่า “เก๋เริ่มจากไปช่วยทำงานจิตอาสาอยู่หลายแห่ง กระทั่งปีที่กรุงเทพฯ น้ำท่วมใหญ่ เก๋ไปลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัย ได้เห็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง หรือติดอยู่ในบ้าน ตอนนั้นเก๋ถึงได้รู้ว่า บ้านเราไม่มีมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ที่เป็นของคนไทยเลย มีแต่ Soi Dog ซึ่งเป็นของฝรั่ง
“ด้วยความอยากช่วยเหลือสัตว์ เก๋เลยเริ่มเคลื่อนไหว ช่วยเหลือสัตว์จรจัดที่ไม่มีทั้งที่พึ่งและพักพิงในช่วงนั้น ผ่านเฟสบุ๊กเพจของตัวเอง ก็เริ่มได้รับเคสสุนัขและสัตว์ที่ถูกทำร้าย ถูกรถชนแล้วคนขับหนีบ้างหรือบางคนใจร้ายกว่านั้น ถอยรถมาทับให้ตาย พอไปศึกษา ถึงได้รู้ว่า บ้านเราตอนนั้นไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ ทำให้เวลาเกิดเรื่อง คนทำก็ไม่ต้องรับผิด เก๋เลยนำเรื่องนี้มาเขียนลงเฟสบุ๊ก ปรากฏมีกลุ่มจิตอาสาที่พยายามผลักดัน พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ติดต่อเข้ามา และชวนเก๋ไปช่วยเป็นกระบอกเสียง”
หลังจากนั้นคุณเก๋ก็มาเริ่มทำโครงการ เดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา) จากที่คิดว่าจะเป็นโครงการสั้นๆ ก็กลายเป็นมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเราใน พ.ศ. 2556 ที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ยากไร้ในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากมูลนิธิก่อตั้งได้ 1 ปี พรบ.คุ้มครองสัตว์ก็มีผลบังคับใช้
สำหรับภารกิจหลักๆ ของมูลนิธิฯ คือ การช่วยเหลือและรักษาสัตว์จรจัดที่ได้รับอุบัติเหตุ ถูกทำร้าย หรือสัตว์ที่ถูกทิ้ง รวมถึงจัดหาผู้รับอุปการะใหม่ ช่วยเหลือสังคมในด้านการทำหมัน และเป็นการลดประชากรสัตว์จรอย่างยั่งยืน แนะแนวทาง และเป็นตัวอย่างในการช่วยเหลือสัตว์ให้แก่บุคคลทั่วไป ให้สามารถเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือได้ด้วยตนเอง รวมถึงปลูกฝังจิตสำนึกในการเลี้ยงสัตว์แก่เยาวชน และเสริมสร้างเรื่องความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงในสังคมทั่วไป
“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เราน่าจะช่วยเหลือสัตว์ไปเป็นหมื่นชีวิต เพราะลำพังนับเป็นเคส ตอนที่เราทำครบ 7 ปี ก็มีประมาณ 3,000 เคส แต่ละเคสไม่ได้มีสัตว์แค่ตัวสองตัว บางเคสมีหลายสิบตัว สิ่งที่เก๋ย้ำกับทีมงานเสมอคือ งานของเรา คือ งานที่มี ‘ชีวิตของสัตว์’ เป็นเดิมพัน เพราะฉะนั้น ทุกนาทีมีค่า และสำคัญเสมอ เราต้องทำเต็มที่
และดีที่สุดที่เราทำได้”
ส่วนก้าวต่อไปของมูลนิธิฯ คุณเก๋มองว่า “ตอนนี้ชื่อเสียงของมูลนิธิฯ ไปไกลกว่าที่กำลังจะไปถึง เก๋และมูลนิธิฯ มองหาคนเก่งๆ ที่มีใจเมตตา เราอยากให้มีคนเก่งหลายๆ คนมาช่วยงานเก๋ เพื่อทำให้มูลนิธิฯ แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้ด้วยชื่อเสียงของเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา ในประเทศไทย ต้องบอกว่า เป็นที่รู้จักมากๆ เวลาพูดถึงเรื่องสัตว์ยากไร้ ซึ่งเก๋ดีใจนะคะ ที่เราเป็นพลังเสียงให้สัตว์ยากไร้ แต่ด้วยพลังเสียงและกำลังที่เรามีตอนนี้ อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเรียกร้องเพื่อช่วยเหลือสัตว์ยากไร้เก๋จึงอยากชวนคนดีๆ คนเก่งๆ มาช่วย เพราะพวกเขาพูดไม่ได้ แต่พลังของเสียงของพวกเรานี้แหละจะมาช่วยเปลี่ยนแปลงโลกของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น”

นี่จึงเป็นที่มาของการทำโปรเจกต์ Friends of the voice ชวนคนที่มีใจรักสัตว์ หรือมีศักยภาพในทุกรูปแบบ เช่น ระดมทุนเก่ง สามารถจัดหาวัคซีนราคาพิเศษ สามารถลงพื้นที่ได้ เป็นต้น “ตอนแรกเก๋ตั้งใจว่าจะหาประมาณ 10 คน แต่ปรากฏว่าตอนนี้ได้มาเกือบ 30 คน มีทั้งคนในวงการและกลุ่มหมอ นักธุรกิจ เลยคิดว่าจะแบ่งเป็นเฟส เพื่อให้แต่ละคนได้มาช่วยเป็นพลังขับเคลื่อนมูลนิธิฯ ในส่วนที่ตัวเองมีความถนัด”
สุดท้ายนี้ ในฐานะกระบอกเสียงของสัตว์ทุกชนิด คุณเก๋อยากให้ประเทศไทยไม่มีสัตว์จรจัด มีกฎหมายและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเอาจริงเอาจัง ขณะที่คนที่มีสัตว์เลี้ยง ทำธุรกิจสัตว์เลี้ยง หรือกิจการใดๆ ที่ต้องมีชีวิตสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้อง ควรจะเมตตา มีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรมต่อชีวิตเหล่านั้น ด้วยการให้สวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สัตว์
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจร่วมเป็นหนึ่งในการสนับสนุนมูลนิธิเดอะวอยซ์(เสียงจากเรา) สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 037–011–9992