“เป้าหมายของหญิงคืออยากผลักดันให้ Pennii Premium Popcorn เดินหน้าสู่ตลาดต่างประเทศ อยากเป็นแบรนด์ไทยมาตรฐานสากล เวลานักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทยก็ต้องซื้อไปเป็นของฝาก หรือไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็จะได้เห็นสินค้าของเราซึ่งเป็นแบรนด์ไทย เพราะหญิงเชื่อว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เพียงแต่ยังขาดการทำ Branding และการสื่อสารออกมาให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากยิ่งขึ้น”
การทำงานบนความเชื่อมั่น และตั้งใจทำให้ ‘คุณหญิง-พรพิมล หยาง’ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งฟากฝั่งพาร์ตเนอร์ผู้ร่วมลงทุน รวมถึงฝั่งลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการ บนเส้นทางสายธุรกิจด้านการศึกษากว่า 20 ปี กับการบริหารงาน Match House Learning Center ศูนย์กลางนวัตกรรมและทางเลือกด้านการศึกษา และนวัตกรรมการพัฒนาศักยภาพรายบุคคล TalentD ที่คุณหญิงพยายามผลักดัน รวมทั้งธุรกิจที่คุณหญิงเปรียบว่าเป็นเด็กกำลังหัดเดินอย่าง Pennii Premium Popcorn ที่เปิดให้คนไทยได้สัมผัสรสชาติความพรีเมียมมากว่า 4 ปี นอกจากนี้ยังเปิดในรูปแบบ ‘Pennii Popcorn Café’ ที่สยามพารากอน ชั้น G โซนฝั่ง North โดยจะมี concept everything is popcorn ทั้งเมนูคาวหวานและเครื่องดื่มก็จะมีป๊อบคอร์นเป็นส่วนประกอบในเมนู ที่จะทำให้เห็นว่าป๊อบคอร์นแต่ละรสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี เน้นความเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าเป็นส่วนของคาเฟ่ทั้งหมดก็จะใช้วัตถุดิบของฝรั่งเศส ส่วนป๊อปคอร์นจะเป็น airpop จะไม่ใช้น้ำมันปาล์มในการผลิต หวานน้อย ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 รสชาติ ที่หลากหลาย วัตถุดิบ นำเข้าจากหลากหลายประเทศ แต่ก็ยังมีความเป็นรสชาติของไทยอยู่ก็คือรสต้มยำกุ้งและทุเรียนหมอนทอง ซึ่งเป็นสินค้าขายดีใน King Power
“ปีหน้าหญิงมีแพลนพา Pennii Premium Popcorn ไปออกบูธในต่างประเทศ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โฟกัสการทำตลาดต่างประเทศ นอกจากยังตั้งใจจะเปิดตัวป๊อปคอร์นอีกหนึ่งแบรนด์ ที่เข้าถึงง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ตอบโจทย์ตลาดทั่วไป หญิงอยากทำผลิตภัณฑ์ให้มีความวาไรตี้มากขึ้น ส่วนตัวหญิงมองว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะ Pennii Premium Popcorn มีผู้ถือหุ้นที่เขาไว้วางใจและเชื่อมั่นในการบริหารงานของเรา หญิงจึงต้องให้เกียรติและดูแลเขาให้ดีที่สุด เพื่อให้เขารู้สึกคุ้มค่าที่เชื่อใจเรา”
ด้านธุรกิจการศึกษา Match House Learning Center ปัจจุบันเปิดสาขาที่ 4 ซีคอน บางแค และวางแผนจะขยายสาขาให้ครอบคลุมต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้เด็กได้เรียนสนุก เข้าใจง่ายโดยเฉพาะมี TalentD ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบศักยภาพรายบุคคล เพราะนวัตกรรมนี้สามารถบ่งชี้ได้ว่าศักยภาพสมองโดยกำเนิดของเด็กแต่ละคน ในแต่ละด้าน ทั้งด้านลักษณะนิสัย กิจกรรมเสริมศักยภาพ การเลือกแผนการเรียน หรืออาชีพในอนาคต สามารถกำหนดทิศทางการเดินได้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะการมีข้อมูลที่แม่นยำจะทำให้การตัดสินใจเฉียบคมมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลา และเสียโอกาส อีกต่อไป ทำให้การวางแผนการมาเรียนที่ Matchhouse ตรงกับการพัฒนาเด็กรายบุคคลได้มากที่สุด
“ด้วยความที่ทำธุรกิจด้านการศึกษา หญิงจะค่อนข้างเห็นความไม่เข้าใจกันระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสาร เมื่อเด็กมีปัญหาจึงไม่กล้าคุยกับผู้ปกครองตรงๆ ช่วยสะท้อนให้เราได้เห็นแง่มุมบางอย่าง เวลาหญิงเลี้ยงลูกจึงเน้นการคุย ทำความเข้าใจ ไม่ว่าเขาจะเจอเรื่องอะไรมา เล็กหรือใหญ่ เขาก็จะกล้าบอก สำคัญที่สุดคือเราต้องมีวิธีการพูดที่ดี จะไม่ใช้วิธีการตำหนิ และจะบอกลูกตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะอยู่ข้างเขาเสมอ หญิงเล่าเรื่องธุรกิจให้ลูกฟัง ให้เขาแสดงความคิดเห็น หญิงมองว่าประสบการณ์นอกห้องเรียนก็สำคัญ ส่วนลูกชายสนใจด้านเทคโนโลยีช่วยทำเว็บไซต์พรีออร์เดอร์เค้ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของเรา เมื่อลูก ๆ ทำงาน หญิงจะให้รีวอร์ดตอบแทน เพื่อที่เขาจะได้มีกำลังใจค่ะ”
ปัจจุบันคุณหญิงเริ่มรับงานบรรยายให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเน้นหัวข้อเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การทำแบรนด์ เพราะคุณหญิงมองว่านอกจากจะได้พัฒนาตัวเอง ยังเป็นความท้าทายเวลาที่ต้องทำให้คนฟังสนใจ ไม่รู้สึกเบื่อ ล่าสุดได้บรรยายหัวข้อ ‘จรรยาบรรณของการทำธุรกิจที่ยั่งยืน’ โดยสอดแทรกประสบการณ์จริง และนำเคสต่างๆ ที่เคยเจอไปเล่าในภาษาที่เข้าใจง่าย รวมทั้งมีการแชร์ไอเดีย แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้ฟังอีกด้วย
ด้านไลฟ์สไตล์คุณหญิงมักหาเวลาไปพบปะกับกลุ่มเพื่อนรุ่นพี่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะนัดกินข้าว หรือเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดีย และฟังคำแนะนำในเรื่องต่างๆ ส่วนกิจกรรมที่ชื่นชอบคือ การเข้าสปา ดูหนัง ทำกิจกรรมกับลูกๆ