เพราะชีวิตไม่หยุดมีเรื่องท้าทายใหม่ๆ เข้ามาเสมอ ฉะนั้นการได้พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่งก็เหมือนเป็นการพร้อมรับความท้าทาย ซึ่งวันนี้เรื่องราวความท้าทายบทใหม่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับ คุณมีมี่-ทิพาณัท เลณบุรี ผู้บริหารหญิงคนเก่งที่เราคุ้นชื่อเธอจากการบริหารแบรนด์ลักซ์ชัวรีมามากมาย และวันนี้ก้าวเข้ามาสู่การบริหารธุรกิจรีเทลอันเป็นงานใหม่ที่เธอกำลังตั้งใจเรียนรู้และสนุกอยู่กับงาน
ถือเป็นการเปลี่ยนบทบาทล่าสุดโดยเธอเข้ามาดูแลในตำแหน่ง Senior Executive Vice President แห่งสยามพิวรรธน์ ดูแลศูนย์การค้า 5 ศูนย์การค้า ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต
“เราได้ทำงานกับหลายธุรกิจ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ การที่เราต้องติดต่อกับคนเยอะๆ ก็ทำให้เรียนรู้ว่าแต่ธุรกิจมีวิชั่นกันอย่างไร แบรนด์ไหนกำลังมีโปรเจกต์ว้าวๆ ออกมาให้ผู้บริโภคบ้าง ซึ่งเราดูแลแบรนด์ที่เข้ามาอยู่ในศูนย์การค้าเยอะมากทั้งแบรนด์ต่างประเทศ แบรนด์ลักซ์ชัวรี รวมไปถึงร้านอาหาร เหมือนได้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น งานอาจจะเยอะกว่าเดิมแต่ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ เพราะศูนย์การค้ากำลังปรับให้ทันกับกระแสของโลก เราต้องไม่หยุดนิ่ง”
ซึ่งโดยสไตล์การทำงานส่วนตัวของคุณมีมี่นั้นเธอเป็นคนที่ไม่หยุดการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนั้นจะเป็นการส่งผลดีกับงานที่เธอทำด้วย โดยเธอได้เล่าถึงสไตล์การทำงานให้เราฟังว่า
“มีมี่เป็นคนที่เรียนรู้เร็ว ทำงานเร็ว ชอบหาความรู้ต่างๆ ใส่ตัว ถ้าเราพัฒนาตัวเอง ก็เหมือนกับพัฒนาบริษัทไปด้วยกัน งานรีเทลอยู่นิ่งไม่ได้ ฉะนั้นเราก็อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องพัฒนาตัวเองตลอด ส่วนใหญ่การพัฒนาตัวเองของเรามากจากการอ่าน และคุยกับคนที่เขาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ บางครั้งก็มีอบรม Development Program บ้าง อะไรที่มีประโยชน์กับเรา เราก็ต้องเรียนรู้
อีกอย่างการที่เราทำงานกับคนเยอะๆ เราต้อง Open mind เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น แน่นอนว่าสิ่งที่ชาเลนจ์ที่สุดของผู้บริหารก็คือเรื่องของคน เราต้องหาคนที่เหมาะกับงาน Put the right man in the right job. ถ้ามีคนที่ดีอยู่เราต้องดูแลเขาอย่างไรให้อยู่กับเรานานๆ วิธีส่วนตัวก็คือเราต้องใส่ใจคนด้วยความจริงใจ ใส่ใจทุกอย่างทำงานด้วยความจริงใจไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือกับลูกค้า”
แม้งานจะท้าทายเพียงใด เธอก็ยังให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างมีวินัย ด้วยการให้เวลากับตัวเองในตอนเช้าซึ่งถือว่าเป็นเวลาคุณภาพสำหรับการดูแลตัวเอง อีกทั้งช่วยสร้างพลังและปลุกสมองให้ปลอดโปร่งพร้อมรับการเริ่มต้นทำงานในแต่ละวัน
“เวลาเช้าคือเวลาของเรา ออกกำลังกายเสร็จไปทำงานทำเป็นกิจวัตรเลย อายุมากขึ้นสุขภาพสำคัญมาก และอีกสิ่งที่สำคัญคือเราต้องไม่เครียดเชื่อว่าทุกคนต้องเจอกับความเครียด แต่จะทำอย่างไรให้ไม่เครียด ความเครียดเป็นสาเหตุของโรคร้ายต่างๆ เราอยากอยู่กับลูกไปนานๆ ฉะนั้นต้องปล่อยวาง อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้จบไป อย่าไปคิดต่อ วนซ้ำ ออกจากออฟฟิศถ้าไม่มีอะไรด่วนก็เป็นเวลาของเรา กลับบ้านไปหาลูก ถ้าเราเอาความเครียดกลับบ้านลูกก็รู้สึกได้ ต้องอย่าคิดเยอะ”
และวิธีการผ่อนคลายแบบส่วนตัวของคุณมีมี่ที่ทำมานานแล้วและได้ประโยชน์กับร่างกายและจิตใจของเธอก็คือการดำน้ำแบบ Free dive เพราะนอกจากจะได้เห็นโลกใต้น้ำสวยๆ แล้ว ยังได้ฝึกสมาธิและความอดทนอีกด้วย
“ชอบการดำน้ำ Free drive เพราะรู้สึกเป็นอิสระ เหมือนการทำสมาธิ ตั้งมั่นอยู่กับตัวเองว่าเราจะลงได้ลึกแค่ไหน เป็นการผ่อนคลายอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง ดำลงไปดูสิ่งสวยงามใต้ทะเล อยู่กับปะการังสวยๆ อยู่กับตัวเองเงียบๆ บางครั้งถ้ามีเวลาไม่มากก็จะไปดำน้ำที่เกาะแสมสารก็รู้สึกสดชื่นแล้ว เหมือนได้รีชาร์จ ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ไปตามเกาะต่างๆ ทางภาคใต้ หรือไปดำน้ำต่างประเทศอย่างมัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ การดำน้ำเป็นเวลาผ่อนคลายของตัวเองอย่างแท้จริง” คุณมี่มีกล่าว