เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา HELLO! มีโอกาสไปร่วมต้อนรับการบินมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ ACH130 Aston Martin Edition เฮลิคอปเตอร์อิดิชั่นพิเศษจากความร่วมมือของนักออกแบบด้านการบินของ บริษัท แอร์บัส คอร์ปอเรท เฮลิคอปเตอร์ (Airbus Corporate Helicopters: ACH) และนักออกแบบยานยนต์ของ แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) รวมถึงเจ้าของอย่าง เจพี ธอร์ (JP Thor) นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย ที่ให้เกียรติพาเยี่ยมชมความงดงามของเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว พร้อมเล่าถึงประสบการณ์การบินเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไปยัง 21 ประเทศทั่วทั้ง 4 ทวีป ตลอด 7 สัปดาห์

หลังขับ ACH130 Aston Martin Edition ที่เปิดตัวในปี 2020 มาถึงประเทศไทยพร้อมกับเพื่อน ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอีก 2 คน เพื่อนำเครื่องมาตรวจเช็คสภาพและทำความสะอาดที่ศูนย์แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ เขตมีนบุรี คุณเจพีพบกับ HELLO! ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ด้วยลุคสบาย ๆ โดยมีหมวกสีกรมท่าปักโลโก้ Aston Martin วางไว้อยู่ข้างกาย บทสนทนาเริ่มจากการขอให้คุณเจพีเล่าเรื่องราวของตัวเองเพื่อให้เรารู้จักเขามากขึ้นอีกนิด เราจึงทราบว่าหนุ่มนักธุรกิจวัย 30 ต้น ๆ คนนี้ ในอดีตเคยรับราชการทหารกองทัพอากาศของออสเตรเลียอยู่นานนับทศวรรษ ก่อนก่อตั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชนประมาณ 6 ปีที่แล้ว และตัดสินใจลาออกจากราชการเมื่อราว 5 ปีก่อน
“ผมเริ่มขับเฮลิคอปเตอร์เป็นครั้งแรกเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว และรู้สึกชอบมากกับการขับเฮลิคอปเตอร์ไปยังที่ต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลียอย่างอิสระ ข้อดีของมันก็คือรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งหลังจากบินท่องเที่ยวสำรวจสถานที่ต่าง ๆ มาตลอด 2 ปี เลยตัดสินใจอยากอัพเกรดเฮลิคอปเตอร์ที่มี โดยก่อนหน้านี้เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้มีขนาดเล็กกว่านี้ ลำนี้เป็นลำแรกของผมที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 ที่นั่ง และก็เป็นครั้งแรกที่ได้ขับเฮลิคอปเตอร์นอกประเทศออสเตรเลีย” คุณเจพีเล่า

การขับเฮลิคอปเตอร์นอกประเทศออสเตรเลียที่คุณเจพีพูดถึงก็คือเที่ยวบินสาธิต (Demo Flight) ที่เจ้าตัวตัดสินใจบินไปรับเครื่องถึงสหราชอาณาจักรแล้วขับกลับประเทศออสเตรเลียด้วยตัวเอง โดยใช้เวลากว่า 7 สัปดาห์ในการขับเฮลิคอปเตอร์ผ่าน 21 ประเทศทั่วทั้ง 4 ทวีปไล่เรียงตั้งแต่ประเทศในแถบยุโรป อียิปต์ ซาอุดิอาระเบีย ปากีสถาน อินเดีย ไทย มาเลเซีย ก่อนกลับออสเตรเลีย แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องราวและประสบการณ์ในเที่ยวบินสาธิต นักธุรกิจชาวออสเตรเลียยังเผยถึงเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ ราคากว่า 9 หลัก และมีเพียง 15 ลำเท่านั้นในโลก
“ตอนที่ตั้งใจว่าจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ ผมอยากได้ลำที่มีคุณสมบัติทั้งด้านความเร็ว ความปลอดภัย และความสวยงาม ACH130 Aston Martin Edition เป็นรุ่นเดียวที่ตอบโจทย์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพในเรื่องความเร็วและระยะการบินต่อเนื่อง มีดีไซน์ที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงใบพัดหางที่นอกจากสวยงาม ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วย” เจ้าของเฮลิคอปเตอร์กล่าว
ก่อนเล่าเพิ่มเติมว่ากว่าจะได้สัมผัสประสิทธิภาพของเฮลิคอปเตอร์ลำพิเศษนี้ เขาต้องรอเป็นระยะเวลานานถึง 15 เดือนทีเดียว โดยครั้งแรกที่เขาได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ก็คือตอนที่ไปรับเครื่องที่อังกฤษ แล้วเจ้าหน้าที่ขับบินไปรอบ ๆ เพื่อสาธิตและทดสอบเครื่องตามกระบวนการ แต่ก็คุ้มค่ากับความคาดหวังและการรอคอยอันยาวนาน เพราะรู้สึกได้ถึงความทรงพลัง ความล้ำสมัยของเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงความสวยงามตั้งแต่ครั้งแรก

ส่วนประสบการณ์ในการขับเฮลิคอปเตอร์นอกออสเตรเลียครั้งแรก ตลอดเส้นทางตั้งแต่อังกฤษมาจนถึงประเทศไทย อดีตทัพฟ้า บอกว่าช่วงที่บินผ่านประเทศในแถบยุโรปเป็นช่วงที่เอ็นจอยสุด ๆ กับทัศนียภาพอันหลากหลาย อีกทั้งการประสานงานต่าง ๆ ก็เป็นไปด้วยความราบรื่น แต่มาเริ่มติดขัดในช่วงที่ขับเคลื่อนสู่ประเทศในตะวันออกกลางเรื่อยมาจนถึงประเทศไทย เนื่องด้วยกฏระเบียบด้านการบินที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้การประสานงานไปยังทูตในแต่ละประเทศ ทำให้กำหนดการล่าช้ากว่าที่คาดไว้มาก เล่ามาถึงตรงนี้ เจ้าตัวก็กล่าวติดตลกตามประสาหนุ่มอารมณ์ดีว่า “การขับเฮลิคอปเตอร์เป็นเรื่องง่ายที่สุดแล้วสำหรับทริปนี้”

ACH130 Aston Martin Edition ลำที่เจ้าตัวบินมาอวดโฉมที่ประเทศไทยนั้นผ่านการปรับเปลี่ยนมาเล็กน้อย ตามความต้องการของเจ้าตัว รูปลักษณ์ภายนอกดูเรียบหรูด้วยตัวเครื่องสีดำ-เทา ตรงใบพัดหางที่ปกติมักอยู่ในรูปแบบเปลือย ถูกวิศวกรและนักออกแบบของแอร์บัสทดลองสร้างขึ้นใหม่ให้ถูกครอบด้วยตัวเครื่อง ปรากฏว่านอกจากเพิ่มความสวยงาม ยังเพิ่มความปลอดภัย และช่วยประหยัดพลังงานด้วย
ส่วนห้องโดยสารที่ถูกออกแบบโดยแอสตัน มาร์ติน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ต ให้ความรู้สึกเท่เร้าใจด้วยดีไซน์ที่เน้นความโฉบเฉี่ยวและหนังสีส้มแทน แต่ยังสัมผัสได้ถึงความหรูหราจากคุณภาพวัสดุและงานฝีมือสุดประณีต


ขณะที่ความกว้างใหญ่ของห้องโดยสารที่สามารถรองรับได้ถึง 7 ที่นั่งรวมคนขับ มาจากการขยายขนาดด้วยกระจกตรงช่วงกลาง ทำให้ภายนอกดูคล้ายแมลงปอยักษ์ แต่ไม่ใหญ่เทอะทะ ด้วยการออกแบบและติดตั้งกระจกตั้งแต่ด้านบนจรดฐาน ทั้งยังเพิ่มความใส่ใจด้วยการปรับที่นั่งของผู้โดยสารด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า เพื่อให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพได้อย่างเต็มอิ่ม ซึ่งคุณเจพียังได้บอกเล่าถึงวิวทิวทัศน์มุมสูงที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจที่สุด หลังจากบินผ่านมากว่า 21 ประเทศ
“ช่วงที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นตอนที่บินผ่านเฟรนช์ ริเวียร่า ชายฝั่งทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ติดกับประเทศโมนาโก และประเทศอิตาลี เป็นช่วงที่เห็นความสวยงามหลากหลายตั้งแต่ความงดงามของท้องทะเลที่มีเรือเล็กใหญ่แล่นอยู่ และอาคารต่าง ๆ บนชายฝั่ง”

อีกจุดที่รู้สึกมหัศจรรย์อย่างมาก คือตอนบินผ่านเทือกเขาแอลป์ช่วงที่หิมะกำลังตก นอกจากเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ ผมยังตัดสินใจทดลองลงจอดบนเทือกเขา ซึ่งการลงจอดบนยอดเขาที่มีความสูงกว่า 12,000 ฟุตขณะหิมะตกเป็นเรื่องค่อนข้างยากทีเดียว แต่ก็สามารถทำสำเร็จได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำนี้”
คุณเจพีเผย

ปิดท้ายแม้จะบินผ่านมากว่า 21 ประเทศ แต่คุณเจพีบอกว่ายังมีหลาย ๆ ประเทศที่เขาอยากขับเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไปเยือนตั้งแต่นิวซีแลนด์ จวบจนกรีนแลนด์ ขั้วโลกเหนือ รวมถึงอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา แล้วบินย้อนกลับมาเอเชีย ซึ่งคนที่เป็นนักบินจะทราบว่าขั้วโลกเหนือมีทั้งหมด 3 แบบ คือ ขั้วโลกเหนือทางภูมิศาสตร์ (Geographic North Pole), สนามแม่เหล็กโลกทางตอนเหนือ (North Magnetic Pole) และขั้วแม่เหล็กโลก (North Geomagnetic Poles) เขาบอกว่าขั้วแม่เหล็กโลกเป็นจุดที่ง่ายที่สุดคือ เพราะเป็นจุดที่สามารถวัดได้ด้วยเข็มทิศ แต่ถึงจะท้าทายแค่ไหน เขาก็จะพา ACH130 Aston Martin Edition ไปเก็บให้ครบทั้ง 3 แห่งเลยทีเดียว.

Courtesy Photo of Airbus Corporate Helicopters