เพราะหลงเสน่ห์ของคำว่า ‘มอเตอร์ไซค์วินเทจ’ ทำให้ ‘คุณสัน-สรวิศิษฎ์ บรรจงลักษมี’ ลุยทำธุรกิจและตั้งคลับแบบครบวงจร
ในแวดวงนักสะสมมอเตอร์ไซค์คลาสสิก ชื่อของ ‘คุณสัน-สรวิศิษฎ์ บรรจงลักษมี’ ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่ตกหลุมรักในรูปทรงและสมรรถนะของรถในตำนานเหล่านี้มานานหลายสิบปี จนเมื่อ 4 ปีก่อนเขาถึงกับก่อตั้ง Smiths Vintage Club นอกจากจะรวบรวมมอเตอร์ไซค์วินเทจในคอลเลกชั่นส่วนตัวมาอวดโฉมให้คนทั่วไปได้ชมแล้ว ยังตั้งใจให้เป็นแหล่งพบปะพูดคุยของคนคอเดียวกัน พ่วงด้วยการเปิดธุรกิจใหม่ที่ทำด้วยใจรักเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ทั้งเสื้อผ้า ถุงมือ หมวกกันน็อก ฯลฯ ให้ได้ลุควินเทจแมตช์กันกับพาหนะคู่ใจ จนได้รับความนิยมในกลุ่มของนักบิด ที่หลงรักในรูปทรงสุดเท่ของรถมอเตอร์ไซค์วินเทจไม่ต่างกัน
แรกพบก็ตกหลุมรัก
จุดเริ่มต้นที่ทำให้นักธุรกิจอย่างคุณสันตกหลุมรักมอเตอร์ไซค์วินเทจเกิดขึ้นเมื่อราว 30 ปีก่อน ช่วงที่ยังเป็นหนุ่มน้อยและบังเอิญได้ไปพักบ้านเพื่อนที่ตั้งอยู่แถวย่านบรรทัดทอง จนได้พบกับมอเตอร์ไซค์วินเทจคันแรกที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น“ใกล้กันกับบ้านเพื่อนคนนั้นมีร้านมอเตอร์ไซค์วินเทจอยู่ร้านหนึ่ง ข้างในโชว์รถมอเตอร์ไซค์ BMW แบบวินเทจเรียงเป็นแถวเลย ผมเห็นครั้งแรกก็คิดว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้สวยและมีเสน่ห์มากๆ ต้องเล่าให้ฟังว่าด้วยความที่ผมเติบโตมาในยุค 80s วัฒนธรรมจากตะวันตกฝั่งอเมริกาที่เรารับมาก็จะเป็นภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอ หรือนิตยสาร สิ่งที่คุ้นเคยในช่วงนั้นคือ ไม่ว่าจะนายแบบ พระเอกภาพยนตร์หรือผู้ร้าย เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีแฮนด์สูงๆ หรือที่เรียกกันว่า ช็อปเปอร์ ซึ่งดูเท่มากสำหรับเรา วันนั้นทั้งๆ ที่ยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นด้วยซ้ำ ผมถึงกับเดินเข้าไปถามราคารถมอเตอร์ไซค์ BMW แบบสองสูบที่จอดอยู่ เจ้าของร้านก็บอกว่าราคาประมาณ 70,000 บาท ด้วยความเป็นเด็กเราซื้อไม่ได้หรอกครับ แต่มันคล้ายกับเป็นเป้าหมายของเราว่า สักวันหนึ่งถ้าสร้างเนื้อสร้างตัว ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ มอเตอร์ไซค์วินเทจที่จะซื้อคันแรก ต้องเป็น BMW เท่านั้น เป็นทั้งความฝัน เป็นความฝังใจ และความประทับใจ”

จวบจนถึงวันที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า และมีกำลังพร้อมดังที่ตั้งใจ เขาก็มีโอกาสได้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์วินเทจคันแรก เป็น BMW รุ่น R50 ที่แม้ปัจจุบันมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวจะไม่ได้อยู่กับเจ้าตัวแล้ว แต่ก็เป็นความประทับใจของจุด
เริ่มต้นที่ทำได้ดังที่ฝัน “สมัยก่อนพอมีคันหนึ่ง หากเราต้องการขยับรุ่นขึ้นไป มีสมรรถนะดีขึ้น เราไม่มีกำลังพอที่จะสามารถซื้ออีกคันได้ทันที เท่ากับว่าเราจำเป็นต้องตัดใจปล่อยคันเก่าไป เพราะฉะนั้นแต่ละคันที่ยังอยู่กับเราก็จะมีเรื่องเล่า มีความทรงจำว่ากว่าจะได้แต่ละคันนี้มามีเส้นทางอย่างไรบ้าง” คุณสันกล่าว
คอลเลกชั่นของนักสะสม
จากคันแรกจนถึงปัจจุบัน คุณสันมีลูกรักเพิ่มขึ้นมาอีกหลายต่อหลายคัน 90% คือ BMW ที่เจ้าตัวประทับใจในรูปทรงมาตั้งแต่แรก นอกจากนั้นยังมีแบรนด์อื่นๆเพิ่มเข้ามาเช่น Harley-Davidson และ Triumph แต่ละคันเมื่อได้มาเขาจะดูแลอย่างดี แม้จะได้ชื่อว่าวินเทจ แต่ทุกคันสามารถใช้งานได้ แม้แต่คันที่อายุมากที่สุดในคอลเลกชั่น อย่าง BMW R51 ปี 1938 คุณปู่วัย 83 ปี ที่ยังวิ่งได้ฉลุยเหมือนหนุ่มๆ “ถ้าพูดเรื่องสมรรถนะความเร็ว คันที่มีอยู่ผมขับได้เร็วสุด คือ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยซีซีของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์วินเทจ อาจจะสู้มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่ได้ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 60 – 70 ปีที่แล้ว กับสมรรถนะความเร็วขนาดนี้ ถือว่าเป็นที่สุดในยุคนั้นแล้ว เยี่ยมยอดมาก” คุณสันเล่า ส่วนหนึ่งในคอลเลกชั่นที่เขาสะสมเป็นรถมอเตอร์ไซค์วินเทจที่ทำขึ้นเพื่อเป็นรถแข่ง เมื่อได้มาหลังจากปรับปรุงเครื่องยนต์แล้ว เจ้าตัวยังส่งไปลงสนามแข่งภายในสังกัดทีม Smiths Vintage Club จนเคยคว้าแชมป์ชนะมอเตอร์ไซค์รุ่นปัจจุบันมาแล้ว

สำหรับคันที่นำมาอวดโฉมในครั้งนี้ คุณสันเลือกคันโปรดที่เทใจให้มากหน่อยมาให้ชม เริ่มจาก BMW R51 ปี 1938 “คันนี้ยังใช้งานได้ดีแต่ผมแทบไม่ได้ขี่เลย แต่จะตั้งไว้บนแท่นเพื่อที่เวลาเรากลับจากทำงาน เปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นคุณปู่ก่อน คันนี้อยู่กับผมมาเกือบ 10 ปีแล้ว เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก R5 ซึ่งหายากมาก ผมตามหาในเมืองไทยมานานก็ยังไม่เจอ จึงเลือกเก็บ R51 แทน” คุณสันกล่าว อีกคันที่ถือเป็นคันโปรดคือ BMW R69 ปี 1959 ที่มีตัวพ่วงข้างสุดเท่ คุณสันเคยขี่แล้วให้ลูกสาวนั่งตัวพ่วงด้านข้าง “คันนี้เป็นคันที่สองที่ซื้อ โดยเอารถคันแรก R50 ไปแลกมา เท่ากับว่าคันนี้เป็นคันที่อยู่ด้วยกันมานานที่สุด จริงๆแล้วที่ผ่านมา ถ้าไม่นับช่วงแรกๆ ที่สะสม ผมแทบไม่ได้ขายคันไหนอีกเลยเพราะเราไม่ใช่พ่อค้ารถ เราเป็นนักสะสม ทุกคันที่อยู่ตอนนี้เรามีความผูกพันกับมัน”
นอกจากนี้ยังมี BMW R68 ปี 1954 ซึ่งถือเป็นรุ่นยอดนิยมมากที่สุด และมีจำนวนผลิตน้อยมาก แค่ราว 1,800 กว่าคันเท่านั้น “ความพิเศษของรุ่นนี้คือผมนำมาแต่งใหม่ โดยเปลี่ยนเอาท่อไอเสียขึ้นไปอยู่ด้านบนให้เหมือนกับเป็นรถแข่ง” อีกคันที่โดดเด่นเรื่องการแต่งแบบ Custom คือ BMW R100 RS ปี 1980 ซึ่งคุณสันเล่าว่าเป็นรุ่นที่คนนิยมนำมา Custom ใหม่ ตัวเขาก็นำมาทำใหม่หมดเช่นกัน โดยใส่ใจทุกรายละเอียดแม้กระทั่งยางรถมอเตอร์ไซค์

เสน่ห์ของมอเตอร์ไซค์คลาสสิก
“คนที่เล่นมอเตอร์ไซค์วินเทจจะรู้กันว่า เราไม่ได้เป็นคนเลือกรถ ในทางกลับกันรถจะเป็นฝ่ายเลือกว่าอยากมาอยู่กับเราหรือไม่ บางครั้งถึงเรามีเงินในกระเป๋า ก็ใช่ว่าเราจะสามารถเดินไปที่ร้านแล้วหา ซื้อรุ่นตามที่ต้องการได้ นอกจากนี้แม้เราจะได้คันที่ชอบมาอยู่ด้วยกันแล้ว เราก็เป็นเพียงแค่คนที่มีโอกาสได้ดูแลเขาในช่วงหนึ่งเท่านั้น ในอนาคตเขาก็ต้องมี คนอื่นที่ดูแลต่อ เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสได้ดูแลก็จงทำอย่างดีที่สุด”
อีกข้อหนึ่งที่ถือเป็นเสน่ห์ของรถวินเทจสำหรับคุณสันคือถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดี “สำหรับผมเรียกว่าเป็นการลงทุนในความสุขเราสามารถได้มองเห็น ชื่นชมทุกวัน จับต้องได้ ใช้งานได้”