สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานอาร์ต ๆ คงคุ้นเคยชื่อศิลปินสาวสวยอย่าง บิ๊ง – ภาพฟ้า พุทธรักษา หรือ ‘BINKO’ (bbinko) อยู่บ้าง กับผลงาน Illustration ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีบล็อกท่องเที่ยว @bbinkojourney ไว้อวดฝีมือการถ่ายภาพให้แฟน ๆ ติดตาม ซึ่งล่าสุดคุณบิ๊งได้รับเลือกให้เป็น Leica Ambassador Thailand ถ่ายทอดภาพถ่ายเซ็ตพิเศษ ‘Timekeeper’ ด้วย Leica Q3 โดยในงานเปิดตัว Leica Q3 อย่างเป็นทางการ ณ Penthouse Bar at Park Hyatt เมื่อไม่นานมานี้ คุณบิ๊งได้มาร่วมบอกเล่ามุมมองผลงานล่าสุดด้วยตัวเอง

“บิ๊งใช้ชื่อภาพในเซ็ตนี้ว่า Timekeeper เพราะไม่ได้ตั้งโจทย์เอาไว้แต่แรกว่าจะไปถ่ายอะไร แต่พอกลับมาดูภาพถ่ายรวม ๆ บิ๊งรู้สึกว่าเราไม่ได้เพียงแค่เก็บภาพถ่ายเอาไว้ แต่เราเก็บ ‘ห้วงเวลาหนึ่ง’ เอาไว้ในภาพเหล่านั้น คือทุก ๆ ภาพมันมีมูฟเมนต์ที่พอเราเห็นแล้วจำได้ถึงช่วงเวลาเหล่านั้น” คุณบิ๊งเล่า

ก่อนเปิดด้วยภาพแรกที่เป็นภาพขณะคนขับมอเตอร์ไซด์อยู่บนท้องถนน “ภาพนี้เป็นภาพที่บิ๊งถ่ายจากบนสะพานลอยที่อยู่ไกลมาก คนอาจจะคิดว่าด้วยไลก้า Q3 ซึ่งมีระยะเลนส์แค่ 28mm ต้องได้ภาพที่กว้างมาก ๆ แต่บิ๊งถ่ายครอปที่ 90mm ทำให้ได้ระยะที่ใกล้เหมือนถ่ายด้วยเลนส์อีกตัวนึงเลย ส่วนมุมมองในการถ่ายภาพนี้ด้วยความที่บิ๊งชื่นชอบสีแดงอยู่แล้ว ระหว่างรอถ่ายภาพอยู่บนสะพานลอย บังเอิญมีรถมอเตอร์ไซด์สีแดงขับผ่านมาพอดีจึงตัดสินใจกดถ่าย ซึ่งภาพก็ออกมาสวยมาก ๆ”

ขณะที่ภาพต่อมาเป็นภาพของเด็กนักเรียนหญิง 2 คนบนชายหาดย่านโอไดบะ คุณบิ๊งเล่าว่าระหว่างเดินเล่นอยู่เห็นทั้งคู่พยายามตั้งมือถือกับกระเป๋านักเรียนเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ แต่ว่าไม่สำเร็จสักที จึงตัดสินใจเดินเข้าไปช่วยถ่ายภาพให้ จนได้ภาพที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนได้ออกมาอบอุ่นใจสุด ๆ นอกจากนี้คุณบิ๊งยังบอกอีกว่าอย่างหนึ่งที่รู้สึกชอบมาก ๆ คือความละมุนของภาพถ่ายจากกล้องไลก้า ซึ่งไม่เพียงแต่คุณบิ๊งเท่านั้น แต่เด็กนักเรียนที่คุณบิ๊งเข้าไปขอถ่ายภาพก็ชื่นชอบจนทักอินสตาแกรมชวนคุณบิ๊งถ่ายภาพให้อีกรอบทีเดียว

ถัดมาที่ภาพถ่ายบันไดเลื่อนทีสถานีรถไฟฟ้า JR ที่มีสีแดงเป็นองค์ประกอบในภาพเช่นกัน โดยคุณบิ๊งใช้ฟังก์ชั่น Tilt Screen ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นใหม่ของ Leica Q3 ที่ช่วยเพิ่มมุมมองการถ่ายภาพใหม่ ๆ และสามารถเก็บองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพได้มากขึ้นอีกด้วย

อีกหนึ่งภาพที่งดงามจับใจคือภาพการแสดงโลมา ที่มีโลมากระโดดอยู่เหนือผิวน้ำขณะที่มีม่านน้ำตกลงมา คุณบิ๊งบอกว่า “เป็นภาพที่บิ๊งไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายแต่แรก แค่อยากไปดูการแสดงเท่านั้น ซึ่งที่นั่งบิ๊งอยู่ไม่สูงมาก ถ่ายด้วยระยะเลนส์ 90mm เป็นจังหวะที่ม่านน้ำตกลงมา แล้วครูฝึกชูแขนขึ้นมาพอดี รู้สึกว่าเป็นความบังเอิญที่โชคดีสุด ๆ และด้วยความละเอียดของกล้องก็ทำให้สามารถซูมจนเห็นถึงรายละเอียดของหยดน้ำ” แม้กดถ่ายในสภาพแสงน้อย และต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงก็ตาม


มาถึงภาพอควาเรียมที่มีปลาทองแหวกว่ายอวดสีสันอยู่ในตู้ทรงกลม โดยนอกถ่ายทอดเอเลเมนต์ของภาพที่มีตู้ปลาหลากหลายขนาดเรียงรายอยู่ในอควาเรียม คุณบิ๊งใช้เวลาในการเฝ้ารอเก็บภาพมูฟเมนต์สวย ๆ ยามปลาทองแหวกว่ายสะบัดครีบและหางจนเกิดภาพที่ทั้งสวยงามและมีความพลิ้วไหวอยู่ในตัว

นอกจากนี้ยังมีภาพเพื่อนนางแบบชาวญี่ปุ่น ที่คุณบิ๊งชวนมาถ่ายทอดบรรยากาศในเมืองโตเกียว อย่างภาพนางแบบกับตู้คีบตุ๊กตา ที่คุณบิ๊งเลือกใช้โหมดมาโครในการเก็บรายละเอียดของแสงและเงาที่กระทบลงบนใบหน้าของนางแบบ จนเห็นเป็นเส้นขนตาที่สะท้อนอยู่ในดวงตาเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยนางแบบขณะกำลังเดินอยู่บนม้าลาย ซึ่งคุณบิ๊งบอกว่าเป็นภาพที่ค่อนข้างท้าทายมาก เพราะนอกจากต้องรอจังหวะในการเดินข้ามทางม้าลาย ยังต้องวิ่งตามถ่ายภาพนางแบบขณะเดินข้ามทางม้าลาย แต่ด้วยความที่กล้องมีการโฟกัสที่รวดเร็วทำให้สามารถจับความคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้แม่นยำและคมชัด
สำหรับใครที่อยากชมภาพสวย ๆ เพิ่มเติม สามารถติดตามภาพทั้งหมดและแรงบันดาลใจของคุณบิ๋งกับการถ่ายทอดเมืองโตเกียวในภาพถ่ายเซ็ตพิเศษ ‘Timekeeper’ ได้ทางอินสตาแกรม ‘bbinko’ และ ‘leicacamerathailand’

Leica Q3
สำหรับ Leica Q3 เป็นกล้องรุ่นที่ 3 ในตระกูล Leica Q ความโดดเด่นรุ่นนี้อยู่ที่เซ็นเซอร์ BSI-CMOS ใหม่และเทคโนโลยี Triple Resolution สามารถเลือกความละเอียดระหว่าง 60, 36 หรือ 18 MP สำหรับการบันทึกภาพ RAW ในรูปแบบ DNG หรือจะเป็น JPEG ที่ผ่านการโปรเซสออกมาเป็นภาพที่สวยงามโดนใจ นอกจากนี้ยังใช้เซ็นเซอร์เต็มขนาดสำหรับทุกความละเอียด ตั้งแต่ค่าความไวแสงที่ ISO 50 จนถึง 100,000 และโปรเซสเซอร์ Maestro รุ่นล่าสุดที่มาพร้อม L2 Technology ยังทำให้การควบคุมกล้องรวดเร็วทันใจอีกด้วย
ขณะที่ Leica Summilux 28mm f/1.7 ASPH. มาพร้อมโหมดมาโครในตัว สำหรับเก็บภาพโคลสอัพที่ระยะโฟกัสต่ำสุดเพียง 17 ซม. ซึ่งเมื่อรวมกับความละเอียดที่สูงแล้ว ทำให้กล้องรุ่นที่ 3 ในตระกูล Q นี้ ซูมแบบดิจิทัลได้ครบช่วงยิ่งขึ้น โดยสามารถซูมที่ทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 28, 35, 50, 75 มม. และ 90 มม. ระบบ Leica Perspective Control (LPC) และ Leica Dynamic Range (LDR) ที่จะทำให้ภาพ JPEG ออกมาสวยงามโดยไม่ต้องนำไปโปรเซสต่อ
นอกจากนี้ยังมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ถูกพัฒนาแบบไฮบริดพร้อม Phase Detection ช่วยให้การโฟกัสและติดตามวัตถุมีความแม่นยำและเร็วสุดขีด และเป็นรุ่นแรกที่หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 3 นิ้วปรับเอียงได้ สามารถถ่ายโอนภาพถ่ายได้รวดเร็วทั้งทาง Bluetooth และ Wifi มาพร้อมเทคโนโลยี Multiple Input Multiple Output (MIMO) ซึ่งถ่ายโอนข้อมูลไปยังแอป Leica FOTOS ได้เร็วขึ้นสูงสุด 10 เท่า และสามารถโหลดวิดีโอจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟน หรืออิมพอร์ต ‘Leica Looks’ แบบพิเศษลงในกล้องเพื่อ JPEG ที่สวยงาม
บอดี้ของกล้องสามารถปรับแต่งลุคได้หลากหลายแบบด้วยอุปกรณ์เสริมอย่างเคสหนังปกป้องตัวกล้อง ฝาครอบเลนส์ เลนส์ฮู้ดแบบย้อนยุค ที่พักนิ้ว ปุ่มชัตเตอร์แบบ Soft Release และตัวปิดช่องแฟลช ซึ่งทั้งหมดนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน เพื่อให้ช่างภาพมีอิสระอย่างเต็มที่.
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดดีเทล กล้อง Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติฯ อัดแน่นด้วยความพิเศษ
- Leica ร่วมกับคนดังสร้างสรรค์ เสื้อไลก้าลิมิเต็ด อิดิชั่น เอาใจบรรดาสาวก
- 6 สถานที่น่าเที่ยว ทั่วเมืองไทยตามรอยเหล่าคนดังใน #RediscoverThailand
- H! LIST: ดนัย สรไกรกิติกูล
- ชมนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์โดย ‘พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ’ ในงาน “Little Wild”