Home > Lifestyle > Food & Drink > รวบ 17 ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ฉลอง Anniversary ที่ HELLO! ขอเรคอมเมนด์

การที่จะมี ลักซ์ชัวรี่ไลฟ์สไตล์ อย่างไรก็ต้องมาคู่กับการทาน ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง เพราะชีวิตของเรา เกิดมาทั้งที ก็ต้องทานอาหารที่มีคุณภาพเท่านั้น! ซึ่งเนื่องด้วยในปี 2023 นี้ เป็นโอกาสครบรอบ ฉลอง 17th Anniversay ของ HELLO! ประเทศไทย เราจึงขอรวม 17 ร้าน Fine-Dining แบบจัดเต็ม พร้อมให้ทุกท่านเตรียมเฉลิมฉลองไปพร้อมกับเรา จะมีร้านไหนที่ HELLO! ขอเรคอมเมนด์ สำหรับเหล่า Beautiful People ของเราบ้าง มาดูกัน!

รวมลิทส์ 17 ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

1 . Potong

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

เราขอเริ่มร้านลิทส์ร้าน ด้วยอาหารไทย ร้านไฟน์ไดนิ่ง ที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางความคึกคัก ที่ไม่มีวันหลับของเส้นเยาวราช ต้องบอกว่าร้านนี้มีการตกแต่งที่สวยงามและมีสเน่ห์ ตามแบบฉบับความคลาสสิกของชุมชนจีน และผสานเข้ากับคอนเซ็ปต์ของความทรงจำ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านรสอาหารแบบไทย-จีน

2. Baan Tepa Culinary Space

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

เราก็คงจะไม่กล่าวถึงร้าน Thai Fine Dining อย่าง บ้านเทพา ไปไม่ได้ เพราะเราเริ่มประทับใจตั้งแต่คอนเซ็ปต์ Farm-to-table เพราะวัตถุดิบต่างๆ ล้วนแต่เป็นออร์เกนิก ที่ถูกนำมารังสรรค์กับรสของอาหารไทย ที่รสตรงถูกต้องตามตำหรับ และยังได้สนุกไปกับการค่อยๆ ผสานรสชาติอาหาร ผ่านการชิมแต่ละอย่าง ใครชื่นชอบอาหารไทย ต้องห้ามพลาดจริงๆ

3. ศรณ์ (Sorn)

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

สองดาวแห่งความภาคภูมิใจแห่งภาคใต้ กับร้านอาหาร ศรณ์ ที่เพิ่งได้รับดาวมิชลินไปหมาดๆ ด้วยความเต็มที่ไปด้วยวัตถุดิบพรีเมียม ในรสชาติอันจัดจ้านของความเป็นอาหารภาคใต้ รังสรรค์อย่างตั้งใจด้วยสูตรต้นตำหรับโบราญ

4. R-haan

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

อีกร้านอาหารไทย ที่ถูกประดับด้วยดาวมิชลิน 2 ดวง กับรสอาหารแบบไทยเดิม ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบของ ร้าน Fine-Dining ครบตั้งแต่ตำหรับอาหารพื้นบ้าน ไปจนถึงอาหารชาววัง ที่พร้อมให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์อาหารไทยที่เหนือระดับ แรงบันดาลใจจากสำนวน “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย และใช้วัตถุดิบไทยแท้ มาประกอบอาหารชั้นเลิศได้อย่างดี

5. ฤดู (Le du)

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

เมื่อฤดูที่เปลี่ยนผ่านของประเทศไทย ถูกถ่ายทอดผ่านรสชาติ และหน้าตาของอาหาร พร้อมคอนเซ็ปต์ที่ถูกเปลี่ยนผ่านในทุกฤดู ซึ่งในช่วงนี้ก็กำลังจะเข้าสู่หน้าร้อนแบบเต็มตัว ก็ต้องห้ามพลาดเมนูข้าวแช่ ตำหรับชาววัง ที่ HELLO! มั่นใจเลยว่า ร้านนี้จะทำให้คุณตั้งตาหน้าร้อนแน่นอน

6. Sushi Masato

เขยิบมาที่อาหารฝั่งเอเชียกันบ้าง ถ้าพูดถึงร้านญี่ปุ่น แน่นอนว่าร้านนี้ต้องขึ้นมาในหัวใครหลายคน กับร้าน Sushi Masato ที่เป็นที่แรกๆ ในไทยที่ทำคอร์สโอมากาเสะ และนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ จากตลาดปลาในญี่ปุ่นโดยตรง อีกทั้งยังได้ชื่อว่าจองยากมากๆ ด้วย

7. Shintaro

อีกร้านหนึ่งที่ต้องยกให้ความสดใหม่ของวัตถุดิบ และความครีเอทีฟของเมนู ก็ต้องเป็นร้าน Shintaro  ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ที่ตอนนี้มาต้อนรับแสงแดด และดอกไม้ ด้วยรสชาติแห่งฤดูใบไม้พลิ ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมาถึงประเทศไทย กับเซ็ทเมนูใหม่อย่าง Sakura Bloom เซ็ตอาหารญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจมากจากซากุระที่ผลิบาน รังสรรค์โดยเชฟยอดฝีมือ เชฟโทโมอากิ ทากิ

8. Vinotheque

เมื่อเนื้อวากิวเกรด 12 และไวน์หายากจากทั่วโลก มานรวมไว้ที่ร้านเดียว ร้านสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่น ด้วยการเสิร์ฟ นื้อวากิว ที่สุดแห่งความพรีเมียม โดยเชฟที่มีประสบการณ์ด้านเนื้อมากกว่า 30 ปี ยิ่งจับคู่กับ ไวน์รสเลิศที่คัดสรรมาแต่ขวดหายากระดับโลกทั้งสิ้น

9. Juksunchae

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

อาหารเกาหลีคงเป็นอาหารโปรดของหลายๆ ท่าน แต่วันนี้เราขอไปสัมผัสประสบการณ์ Korean Fine-Dining หรือ Fine-Dining อาหารเกาหลี แห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพ! กับร้าน Juksunchae (จุกซุนแช) อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอาหารแบบดั้งเดิมตามต้นฉบับเกาหลีผสมผสานการปรุงอาหารแบบร่วมสมัย

10. Maison Dunand

fine-dining

ใครคิดถึงการดินเนอร์ ณ ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่สกีรีสอร์ทบ้าง เราขอแนะนำให้ลองแวะมาที่ Maison Dunand เพราะที่นี่ นอกจากบรรยากาศที่ดูโคซี่มากๆ แล้ว คุณจะยังได้ทานอาหารรสเลิศสัญชาติฝรั่งเศษ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากรสอาหารจากแคว้น Savoie ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบดีๆ มากมาย

11. MIA Restaurant

fine-dining

ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียน การันตีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin guide ที่มาพร้อมคอร์สใหม่ จัดเต็มวัตถุดิบสุดพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น Josephine oyster, Truffle, Carviar, Foie gras เเละ Pigeon ซึ่งนอกจากนอกจากนี้ เรายังจะได้สัมผัสวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย ผ่านเทคนิคการปรุงเฉพาะตัวของเชฟTop เเละ เชฟ Michelle ที่ตั้งใจรังสรรค์อาหารอย่างพิถีพิถัน เพื่อถ่ายทอดที่สุดเเห่ง ‘ความอร่อย’

12. The Story House

fine-dining

เมื่อโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา The Siam Hotel รีโนเวทห้องน้ำชาใหม่ให้กลายเป็นร้านอาหารร่วมสมัยสไตล์ฟิวชั่น ‘The Story House’ ที่นำโดยเชฟ Blaire Mathieson หยิบเอาเมนูจานโปรดของใครหลายคนมาดัดแปลงและนำเสนอใหม่ในรสชาติที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์

13. Underhound

เป็นการเปิดอีกแฟรนซ์ชายจาก Greyhound กับ ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสแบบ French Brasserie ที่จะพาเราออกเดินทางไปสัมผัสสุนทรียภาพอันแสนประณีตผ่านเมนูแต่ละจาน ทั้งยังสอดแทรกสไตล์อาหารแบบเอเชียนลงไป สะท้อนการทวิสต์เมนูฉบับ Greyhound อันแสนลงตัว 

14. Mezzaluna

จะมีอะไรดีเลิศไปกว่าการทาน ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง พร้อมชมวิวตระการตาของกรุงเทพยามค่ำคืนบ้าง สำหรับร้าน เมซซาลูน่า นั้น ต้องเรียกได้ว่า ตั้งอยู่บนชั้น 65 ขจองโรงแรมเลอบัว กับดินเนอร์สไตล์ยุโรปร่วมสมัยแบบเซตเมนู 7 คอร์ส ที่รวมเอาการปรุงแบบชั้นสูงมาไว้ในอาหารแต่ละจานได้อย่างดี

15. IGNIV

แน่นอนว่ามีหลายท่าน ที่คงชื่นชอบอาหารสวิสไม่น้อยเลย ซึ่งสำหรับร้าน IGNIV ก็ต้องบอกว่าเป็นอันดับต้นๆ เมื่อนึกการทาน Fine-Dining ด้วย การรังสรรค์อาหารที่มีความสร้างสรรค์ พร้อมรสชาติที่แปลกใหม่ ซึ่งตอนนี้ ทางร้าน ก็มีเซ็ตเมนูใหม่ ที่พร้อมต้อนรับฤดูกาล Spring อีกด้วย

16. Jhol

fine-dining

อีกหนึ่งชนิดอาหาร ที่เรียกได้ว่าเป้นอันดับหนึ่งในใจหลายท่าน นั่นก็คืออาหารอินเดียนั่นเอง และทึกท่ายก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเราจะไม่กล่าวถึง Jhol ไม่ได้เด็ดขาด เพราะด้วยรสชาติต่างๆ ที่เป็นรสอินเดียอย่างแท้จริง และยังคงความพรีเมียมได้อย่างดีมากๆ แอบบอกว่า HELLO! ติดใจเมนูขนมปังกับ Spiced Butter ที่สุดเลยล่ะ!

17. Haoma

ต้องบอกว่าร้านนี้ ยกให้เป็น ร้านที่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของ Sustainality ได้อย่างดีเลยก็ว่าได้ โดยในคอนเซ็ปต์นี้ เชฟในรังสรรค์เมนูอาหารที่เป็นเมนูสุขภาพ สไตล์ Neo-Indian และผสานเข้ากับประสบการณ์ Fine Dining ได้อย่างดีมาก

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.