Home > Lifestyle > Food & Drink > 4 ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ในกรุงเทพ ฯ ที่จะมายกระดับประสบการณ์การกิน

เทรนด์ล่ามาแรง ของเหล่า food lover ทั้งหลาย เมื่อการกินอาหารแบบ Chef’s Table หรือเป็นการกินแบบตามใจเชฟ คล้าย ๆ กับการกินอาหารสไตล์ โอมากาเสะ ที่เป็นญี่ปุ่นเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ Chef’s Table จะเน้นไปทางอาหารฝั่งยุโรปเป็นส่วนใหญ่ บอกเลยว่าสาวกสายกินต้องได้ลอง เพราะวันนี้ HELLO! จะมารวบรวม 4 ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ในกรุงเทพ ฯ ที่หากินที่ไหนไม่ได้เลย

Mad Beef

เริ่มต้นกันที่สาวกเนื้อวัวกันก่อนเลยที่ร้าน Mad Beef ร้านอาหารในย่านเจริญกรุง จาก ‘เชฟเชอ-พันธ์ทิพย์ อรรถการวงศ์’ ด้วยเมนูที่ใช้ส่วนผสมของเนื้อวัวในทุก ๆ เมนู ตั้งแต่อาหารแทนเล่นไปจนถึงของหวานเมนูเลย บอกเลยว่าเมนูน่าจับตาคงหนีไม่พ้น Between The Bone ที่เชฟเลือกใช้เนื้อส่วน Finger Rib ไป Sous Vide นานกว่าครึ่งวัน ไม่ต้องพูดถึงความหอม นำเนื้อไปย่างเพิ่มความหอมและ Texture เวลาเคี้ยวให้มีความกรุบเล็กน้อย เสิร์ฟมาในซุปปลาแห้งที่ผสมกับซุปกระดูกวัว

ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนู Signature อย่าง Caveman’s Heart ที่เชฟนำเนื้อส่วน Hanger Man มาปรุงรส นำเสนอเนื้อด้วยวิธีการย่างในสไตล์ของ Caveman หรือการย่างบนถ่าน ซึ่งเพิ่มความหอมให้กับเนื้อ และเพิ่มความฟินเวลาเคี้ยว เสิร์ฟมาคู่กันกับซอสมิโสะแดงผสมเนย แนะนำให้รีบทานคู่กับซอสตอนซอสฟู ๆ จะอร่อย ๆ มาก ๆ

ติดต่อ: 083 555 5739

Chef’s Table by Chef Art

มาต่อกันที่ร้าน Chef’s Table by Chef Art โดยมีเชฟอาร์ต-ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ ทางร้านจะตั้งอยู่ที่ เอกมัยซอย 10 ถือเป็นโลเคชั่นทองเลยก็ว่าได้ บอกเลยว่าสำหรับเมนูที่เชฟอาร์ต เลือกมานั้นจะประกอบไปด้วย 5 คอร์สด้วยกัน บอกเลยว่าเมนู Foie Gras ของเชฟนั้น Sear ออกมาได้เป็นอยากดี หรือที่ใครหลาย ๆ คนบอกว่า Perfect Cook นอกจากนั้นก็ยังมีจาน Lobster และเนื้อ Steak ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในวันนั้นอะไรดี ถ้าใครสนใจอยากจะไปลองชิมฝีมือเชฟอาร์ต แนะนำให้จองคิวล่วงหน้าก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องผิดหวังก็เป็นได้ โดยมีขั้นต่ำต้องจอง 4 คนขึ้นไปและรับได้ไม่เกิน 16 คน

ติดต่อ: 099 350 7414

Lebua – Chef’s Table by Vincent Thierry

ต่อกันที่ร้าน Lebua – Chef’s Table by Vincent Thierry โดยมี ‘เชฟวินเซนต์’ คิดและดีไซน์เมนู Classic French ให้เข้าร่วมสมัย เปิดความหรูหราที่โดดเด่นด้วยหินอ่อน ซึ่งเป็นไฮไลต์ของทางร้านเลยนั่นก็คือการจัดจานที่กลางห้องอาหาร เราจึงได้เห็นทุกขั้นตอนก่อนที่จะมาเป็นจานอาหารที่จัดแต่งอย่างสวยงาม เชฟพยายามใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในการประกอบอาหาร

และเมนูที่เราอยากหยิบมาไฮไลต์จริง ๆ นั่นก็คือเมนู King Crab Tiramisu เนื้อปูอยู่ใต้ครีมวางบนผลไม้ให้รสเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ และความเปรี้ยวของผลไม้ชิ้นเล็ก ๆ เรียกได้ว่าคิดนอกกรอบสร้างสรรค์มาก ๆ และอร่อยจริง ๆ ปลาโซลจากนอร์มังดีเสิร์ฟพร้อมอาร์ติโชกและมะกอกดำ ได้รสชาติหวานของปลาที่สุกกำลังดี ฟัวกราส์เซียร์มานุ่มหอมเสิร์ฟกับส้มโอ เข้ากันได้ดี ทุกจานอาหารจัดเข้าคู่กับไวน์แต่ละชนิดได้ดีมาก
ติดต่อ: 02 624 9555

Meruto Sushi

ปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยร้าน Meruto Sushi โดยมี เชฟอาร์ม-กีรติ บุตคีวงษ์ เจ้าของร้าน ที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในอาหารญี่ปุ่น ร้านตั้งอยู่ที่ตึก Sathorn Gardens โดยมีเซ็ตเมนูโดน ๆ อย่างเซ็ต Summer Finale ที่บอกเลยว่าเมื่อเราได้สัมผัสกับผลงานที่เชฟจัดเตรียมไว้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อนเลย ส่วนใครที่อยากมาลอง ต้องเตือนเลยว่า โทรถามวันและเวลาว่างจากทางร้านก่อน เพราะที่ร้านเป็นร้านที่เซเลบริตี้ และแขก VIP ต่างแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย จนบางช่วงนั้นเต็มทั้งเดือน

ติดต่อ: 092 369 7924

เป็นยังไงกันบ้างกับ 4 ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ในกรุงเทพ ฯ บอกเลยว่าเขียนไปด้วยน้ำลายไหลไปด้วย อยากจะไปซ้ำทุกที่เลยล่ะ

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.