ครบรสต้นตำรับอีสาน “บ้านส้มตำ”ที่สุดแห่งร้านอาหารสุดอบอุ่นครองใจสายแซ่บ

ใครเป็นแฟนส้มตำตัวจริง..ยกมือขึ้น!!! ก็เพราะว่ากันตามจริงแล้วเชื่อเลยว่า ‘ส้มตำ’ เป็นเมนูที่ทุกคนต้องเคยทาน ไม่ว่าจะตำไทย,ตำปู,ตำปูปลาร้า เพราะนี่คือเมนูอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานที่กลายเป็นเมนูมหานิยมตลอดกาล ซึ่งไม่ว่าจะเอ่ยถึงทีไรก็ชวนให้น้ำลายสอไปตามกันๆ เพราะนอกจากรสชาติความนัวที่ถูกปากแล้ว ร้านส้มตำยังมีให้เลือกรับประทานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะร้านข้างทาง ไปจนถึงร้านส้มตำติดแอร์ เรียกว่าใครใคร่อยากจะรับประทานส้มตำในบรรยากาศแบบไหนก็สามารถเลือกร้านเข้าไปลิ้มลองความแซ่บกันได้ไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว

เพื่อเป็นการตอกย้ำความนัว และยั่วน้ำลายให้ไหลตามกันเป็นแถบๆ วันนี้จะขออาสาพาสายแซ่บทั้งหลายไปประลองความแซ่บกับ “บ้านส้มตำ” ร้านส้มตำแนวใหม่ที่ไม่ได้เน้นแค่รสชาติความอร่อยของส้มตำเท่านั้น แต่ทันทีที่ก้าวเข้าไปในร้านยังจะได้สัมผัสกับการตกแต่งร้านและบรรยากาศที่อบอุ่นให้ความรู้สึกเหมือนบ้านหลังที่ 3 ขอบอกเลยว่าร้านอาหารอีสานแนวนี้หาได้ยากมากในแถบเมืองหลวงหรือแม้แต่กระทั่งในต่างจังหวัด พูดมาขนาดนี้คงอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าบ้านส้มตำจะพิเศษแค่ไหน ไปตามติดพร้อมๆกันได้เลย

และวันนี้ HELLO! ได้มีโอกาศพูดคุยกับตัวแม่คนหนึ่งในวงการส้มตำอย่าง ‘คุณสุภาพร ชูดวง’ ประธานบริหาร บริษัท บ้านส้มตำ กรุ๊ป จำกัด ความภาคภูมิใจในเมนู “ตำหลวงพระบาง” เมนูเด็ดที่ครองใจลูกค้าต่อเนื่องมากว่า 15 ปี

ซึ่ง “ตำหลวงพระบาง” เป็นเมนูซิกเนอเจอร์ของทางร้านมีความโดดเด่นด้วยรสนัวของน้ำปู๋ และเส้นมะละกอที่ขูดเป็นแผ่นบางๆขนาดใหญ่กว่าเส้นมะละกอปกติ เมื่อคลุกเคล้าเข้ากันจึงได้รสชาติที่แตกต่างจากส้มตำทั่วไป โดยร้านบ้านส้มตำถือว่าเป็นผู้ริเริ่ม และคิดค้นสูตรที่เป็นของบ้านส้มตำเองและยังเป็นเจ้าแรกๆของเมืองไทยที่ขายตำหลวงพระบาง ซึ่งจุดขายของตำหลวงพระบาง คือรสชาติของร้านบ้านส้มตำ จะไม่เหมือนใคร เพราะใช้น้ำปู๋เป็นส่วนผสมหลัก จวบจนถึงปัจจุบันได้เสิร์ฟเมนูดังกล่าวมาแล้วกว่าเกือบ 2 ล้านจาน

นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีสานที่ต้องห้ามพลาดอย่าง “ไก่ย่างมะแขว่น” เกิดจากที่คุณสุภาพร ได้รู้จักกับมะแขว่น สมุนไพรท้องถิ่นของภาคเหนือจึงได้นำมาคิดค้นเมนูที่ทานง่าย และถูกปากคนทั่วไป โดยสูตรนี้มีการทดลองอยู่หลายครั้งจนลงตัวก่อนออกมาเป็นเมนูไก่ย่างมะแขว่น ที่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติเผ็ดร้อนของมะแขว่นผสมอยู่ ตอกย้ำความอร่อยกันอีกด้วยเมนูออเดิร์ฟอย่าง “ทอดมันหัวปลี” ทีจะเรียกว่าเป็นอาหารกึ่งสุขภาพก็ไม่ผิด เพราะหัวปลีมีคุณสมบัติบำรุงเลือด และรักษาโรคกระเพาะอาหาร จะสั่งมาทานเล่นหรือกินกับส้มตำก็เข้ากันดี นอกจากนี้ยังเมนูเด็ดอย่าง “ลาบเป็ด” ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านอีสานแท้ๆที่หารับประทานได้ยาก โดยทางร้านได้นำเนื้อเป็ดมาปรุงกับเครื่องเทศพื้นบ้าน เช่น ข้าวคั่ว ใบมะกรูด พร้อมปรุงรสให้จัดจ้านทำให้เข้ากันอย่างดีเมื่อทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ  และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือ “ตำส้มโอ” ที่คัดส้มโอเนื้อแน่นนำมาคลุกเคล้ากับน้ำปู๋โรยหน้าด้วยกุ้งแห้ง ทำให้ตำส้มโอมีรสชาติกลมกล่อมแบบที่ไม่เคยได้ลิ้มรสที่ไหนมาก่อนแน่นอน

นอกจากนี้ล่าสุดทางร้านยังได้เปิดตัวเมนูใหม่ Thai Wague Beef Parade ที่ใช้เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบหลักกว่า 5 ชนิด ได้แก่ ตำสับปะรดเนื้อสไลด์ ลิ้นวัวย่าง ซุปหางวัว  เนื้อพิคาน่าแดดเดียวทอด สันในย่าง โดยเมนูทั้งหมดนี้ได้คัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่น รวมไปถึงการจัดเตรียมส่วนผสมต่างๆ อย่างพิถีพิถันตั้งแต่การหั่นส่วนผสมไปจนถึงเสียงตำส้มตำ เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกขั้นตอนเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานแบบมีอรรถรสของจริง

ทีเด็ดของร้านไม่ได้มีแค่เมนูอาหารที่แตกต่างจากร้านส้มตำร้านอื่น แต่ยังมีการตกแต่งร้านที่ได้ลูกชายอย่าง คุณสุวภัทร ชูดวง และคุณพีรนัช ชูดวง กรรมการบริหาร บ้านส้มตำ กรุ๊ป จำกัด  ซึ่งได้ออกแบบและตกแต่งร้านภายใต้แนวคิดเติร์ดเพลส : 3rd place โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว บางสาขามีพื้นที่สีเขียวกว่า 70% เพื่อเน้นบรรยากาศและสร้างความอบอุ่น ซึ่งภายในร้านได้มีการจัดที่นั่งขนาดใหญ่ สำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่มากันเป็นกลุ่ม ทำให้ลูกค้าได้พูดคุยกันอย่างออกอรรถรส โดยทางร้านบ้านส้มตำมีทั้งโซนอินดอร์ (Indoor) และเอาท์ดอร์ (Outdoor) นอกจากนี้ทางร้านยังมีการเปิดเพลงคันทรี่ คลอไปกับการรับประทารอาหารอีสานด้วย เรียกได้ว่าหากมารับประทานอาหารร้านบ้านส้มตำทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่มากกว่าความแซบแน่นอน

เรียกได้ว่าเรื่องราวความภาคภูมิใจในเมนูส้มตำมีให้เลือกทานมากมายขนาดนี้ แฟน HELLO! สนใจสามารถแวะไปลิ้มลองรสชาติอร่อยถูกปากแบบนี้ได้ที่ร้านบ้านส้มตำทุกสาขา เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น.-22.00 น.