ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวงการอาหารในเมืองไทยตอนนี้เป็นที่จับจามองของคนทั่วโลก หลังจากที่มีมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปเมื่อปีที่แล้ว และกำลังจะมีเวอร์ชั่น 2 ในอีกเร็วๆ นี้! และนี่ยังเป็นโอกาสดีที่ทำให้เราได้เจอกับ ‘เชฟมัลคอล์ม ลี’ เจ้าของร้านอาหารสไตล์เปอรานากันที่ชื่อ ‘Candlenut’ ในประเทศสิงคโปร์ การันตีความอร่อยด้วยรางวัล 1 ดาวมิชลิน ซึ่งทำให้เขาเป็นเชฟคนแรกในโลกที่ได้รางวัลนี้จากอาหารเปอรานากัน!
‘เปอรานากัน’ วัฒนธรรมร่วมของคนหลายประเทศ
เชฟมัลคอล์มเริ่มอธิบายนิยามของอาหารเปอรานากัน เขาบอกว่ามันอาจจะยากหน่อยที่จะบอกว่าเป็นอาหารประเภทไหน เหมือนกับถ้ามีคนมาถามว่าอาหารไทยคืออะไร ก็คงตอบยากเหมือนกัน แต่ถ้าให้อธิบายใจความสำคัญของมัน เปอรานากันมีลักษณะคล้ายอาหารอินเดียผสมกับอาหารจีน ที่หารับประทานได้ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย บางเมนูเลยมีหน้าตาที่คุ้นเคย (เชฟเฮนริกที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับแซวว่าหลักซาคือต้มยำกุ้งที่ใส่กะทิ!) เน้นการใช้เครื่องเทศ และไม่มีสูตรที่ตายตัว เพราะเปอรานากันคือวัฒนธรรมซึ่งถ่ายทอดลงไปในครัวเรือน ขนาดสูตรแกงไก่ที่แม่เขาสอนมากับมือ แม่ยังบอกว่าเชฟทำไม่อร่อยเหมือนเธอ ทั้งที่ใส่วัตถุดิบและเครื่องปรุงเหมือนกัน (เชฟหัวเราะ!)
เทรนด์นี้ที่กำลังมาแรง
อาจเป็นเพราะรางวัลที่เชฟมัลคอล์มได้ หรือกระแสโลกที่กำลังเอนไปที่ความโลคัล เชฟแชร์ให้เราฟังอย่างน่าสนใจว่าวัฒนธรรมการกินอาหารเปอรานากันกำลังบูมในสิงคโปร์! วัยรุ่นต่างก็พูดถึงอาหารประเภทนี้ พวกเขารู้สึกว่ามันมีรากเหง้า เป็นสูตรที่ทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่ความน่าสนใจอยู่ที่คนรุ่นใหม่จะมีการอแดปท์สูตรนิดหน่อยเพื่อให้กินได้ง่ายขึ้น ซึ่งนี่ละคือความเก๋ของเปอรานากัน! อย่างที่บอกไปว่าแต่ละบ้านจะมีสูตรอาหารที่ต่างกัน แม้จะเป็นเมนูเดียวกัน เปอรานากันอยู่กับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้มันจะไม่ใช่อาหารโบราณอีกต่อไปแล้ว
Candlenut x Sra Bua by Kinn Kinn
เอาเป็นว่าหากคุณเคยลิ้มลองอาหารไทยจากห้องอาหาร Sra Bua by Kinn Kinn คงจะรู้อยู่แล้วว่าสนุกสนานเหมือนขึ้นรถไฟเหาะขนาดไหน การพบกันของเชฟทั้ง 3 คน คือ เชฟมัลคอล์ม, เชฟเฮนริก และเชฟเบิ้ม เลยเหมือนเป็นโชว์หนึ่งชุดที่น่าติดตาม แน่นอนว่าในค่ำคืนนี้ เราขอโฟกัสไปที่อาหารของเชฟมัลคอล์มผู้เป็นแขกรับเชิญของงาน ซึ่งตัวแสดงหลักทั้ง 3 จานของเชฟนั้นได้แก่ ขนมจีนแกงขมิ้นล็อบสเตอร์ยอดฟักแม้ว,เกี๊ยวหอยเชลล์ผสมกุ้งในน้ำซุป และแกงรันดังพร้อมข้าวยำสมุนไพร ซึ่งจานนี้ถือเป็นไฮไลท์ของงานเพราะเขาใช้ ‘ถั่วบูอาห์ เคลัค’ ซึ่งหายากมาก และเครื่องเทศกว่า 30 ชนิดมาปรุงจานนี้!
เดสทิเนชั่นแห่งการกิน!
ถึงแม้ว่าเราจะภาคภูมิใจในความโด่งดังและรสชาติที่อร่อยของอาหารไทย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘สิงคโปร์’ คืออีกหนึ่งประเทศที่รวมความหลากหลายทางการกินเอาไว้ เราสามารถกินเป็ดย่างเจ้าอร่อยในแคนทีนธรรมดาๆ แกงรสจัดที่ลิตเติ้ลอินเดีย หรือร้านอาหารหรูแบบไฟน์ ไดนิ่งบนตึกสูง ในที่ตั้งซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมาก และเดินทางได้สะดวกสบายกว่ากรุงเทพ! ไม่ต้องแปลกใจถ้าเพื่อนๆ จะชวนกันไปกินข้าวที่สิงคโปร์ นอนค้างสักคืน แล้วบินกลับ เพราะเขากลายเป็นหนึ่งใน ‘Foddies Destination’ ใกล้บ้านเราไปแล้ว!
INFO: ไม่มีไอเดียเรื่องร้านอาหารในสิงคโปร์เหรอคะ? เข้าไปเช็คที่ www.visitsingapore.com/th_th ได้เลย