สุดเอ็กซ์คลูซีฟ HELLO! ชวนเหล่าเซเลบริตี้ลิ้มรส Rare Champagne แชมเปญโปรดของ ‘พระนางมารี อองตัวเน็ตต์’
HELLO! เชิญเซเลบริตี้ร่วมจิบแชมเปญที่ Pink Bar แฟล็กชิพ บาร์ ‘Rare Champagne’ สุดหรูแห่งแรกของโลกที่โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ ก่อนชิมอาหาร Chef’s Table จากเชฟ Vincent Thierry เชฟมิชลิน 3 ดาวคนแรกในกรุงเทพฯ ในบรรยากาศงดงามและรื่นรมย์

ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าที่ชั้น 61 อันเป็นที่ตั้งของพิงก์ บาร์ ยามนี้งดงามด้วยแสงแดดยามเย็นอันอบอุ่นกระทบกับโทนสีชมพูอ่อนภายใน หรือ Millennial Pink ที่ได้รับความนิยมในยุค 1950s ผสมผสานกับสีทองของโต๊ะแชมเปญและชั้นวางแชมเปญที่โชว์ความหรูหราระดับโลกของ Rare Champagne ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1785


ยิ่งเมื่อได้รู้จาก ‘คุณอุ๊-จุฬาลักษณ์ ผลภิภม’ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Rare Champagne ว่าเป็นแชมเปญโปรดของ ‘พระนางมารี อองตัวเน็ตต์’ ที่บรรจุอยู่ในขวดสวยงามออกแบบโดยดีไซเนอร์แถวหน้ามากมายของวงการแฟชั่น ทำให้บรรยากาศการดื่มแชมเปญในวันนี้มีความหมายลึกซึ้ง ประกอบกับวิวในมุมสูงของกรุงเทพมหานครที่หาดูได้ยาก สร้างความประทับใจให้แขกทุกท่านที่มาร่วมงานโดยมี ‘คุณเพียงดือน เลิศสิทธิกุล’ General Manager ร่วมให้การต้อนรับ


‘ม.ร.ว.ดิลก และคุณจุฬาลักษณา วรานนท์ จุฑาธุช’ เป็นแขกคู่แรกที่มาถึงจึงได้เต็มอิ่มกับการชมวิวของแสงสุดท้ายแห่งวันที่ระเบียงก่อนจะถูกแทนที่ด้วยแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ซึ่งก็ให้ความงดงามไปอีกแบบหนึ่งแขกท่านอื่นเริ่มทะยอยมาทั้ง ‘คุณส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์’ งดงามในลุคเก๋แปลกตาไปจากทุกวัน ‘คุณแสนดี พูลทรัพย์มณี’ พี่สาว ‘คุณท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูลทรัพย์มณี’ สวยเรียบในชุดดำ ‘คุณอุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ’ มาในโทนสีฟ้าที่โดดเด่นท่ามกลางบรรยากาศสีชมพู และแขกท่านอื่นๆต่างเริ่มทะยอยมาลิ้มรสแชมเปญสุดพิเศษ ที่ทุกคนต่างลงเสียงเป็นเอกฉันท์ว่ารสชาติของ Rare Champagne นั้นคือที่สุด สมกับเป็นแชมเปญอันดับหนึ่ง และมีเสิร์ฟเพียงที่นี่แห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น
ความพิเศษต่อเนื่องมาถึงดินเนอร์มื้อนี้ด้วยฝีมือระดับมิชลินของเชฟวินเซนต์เธียร์รี่ที่ทำให้ห้องอาหาร Caprice ที่ฮ่องกงได้รางวัล 3 ดาวมิชลินมาแล้วเขารังสรรค์เมนู 7 คอร์สมาให้พวกเราชิมกัน เราต้องแบ่งเป็น 2 โต๊ะ ระหว่างกลุ่มผู้อาวุโสกับกลุ่มหนุ่มสาวที่นำเสียงหัวเราะด้วย คุณพีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร,คุณโยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม,คุณมิว-นิษฐา จิรยั่งยืน,คุณธราภุช คูหาเปรมกิจ
โดย ‘เชฟวินเซนต์’ สร้างสรรค์เมนู Classic French อย่างร่วมสมัยโดยสาธิตให้ดูในครัวเปิดอันหรูหราโดดเด่นด้วยหินอ่อนจากเมืองคาราร่า อิตาลี ที่ตั้งอยู่กลางห้องอาหารเราจึงได้เห็นทุกขั้นตอนก่อนที่จะมาเป็นจานอาหารที่จัดแต่งอย่างสวยงามตรงหน้าเรา ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้จานแล้วจานเล่าเริ่มตั้งแต่เมื่อเชฟเข็นรถมาตักเนยสดโฮมเมดให้ตรงหน้าเรา เป็นเนยที่อร่อยมากๆ จนหยุดกินขนมปังไม่ได้ โดยเชฟใช้นมสดส่งตรงจากเขาใหญ่ และเชฟพยายามใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นถึง
80 เปอร์เซ็นต์ในการประกอบอาหารอีกด้วย

อาหารจานแรกคือ King Crab Tiramisu เนื้อปูอยู่ใต้ครีมมาสคาโปนวางบนผลไม้ให้รสเผ็ดร้อนของเครื่องเทศและความเปรี้ยวของผลไม้ชิ้นเล็กๆที่สอดแทรกอยู่ได้อย่างลงตัวจานกุ้งกับแป้งลาซานญ่าสวีตเบรด และอิมัลชั่นจากหอยหลากชนิด มีความสร้างสรรค์มากและอร่อยจริงๆ ปลาโซลจากนอร์มังดีเสิร์ฟพร้อมอาร์ติโชกและมะกอกดำ ได้รสชาติหวานของปลาที่สุกกำลังดี ฟัวกราส์เซียร์มานุ่มหอมเสิร์ฟกับส้มโอ เข้ากันได้ดีอย่างน่าแปลกใจ ทุกจานอาหารจัดเข้าคู่กับไวน์แต่ละชนิดได้ดีมาก

เมนคอร์ส คือ อกเป็ดเสิร์ฟกับบีตรูทเซเลอรี่ซอสขิง พวกเราต่างตบมือรัวๆกับจานนี้
เมื่อถึงจานชีสแม้จะอิ่มมากแล้วแต่ทุกคนก็ไม่ปฏิเสธที่จะลอง เพราะความพิเศษของชีสระดับโลกจาก Bernard Antony Cheese จากฝรั่งเศสที่อิมพอร์ตเข้ามาทุกอาทิตย์เพราะเชฟอยากให้ได้ลิ้มลองชีสที่ดีที่สุด ซึ่งก็ไม่ทำให้พวกเราผิดหวังเลย พอๆ กับของหวาน คือทาร์ตดาร์กช็อกโกแลตที่เข้มข้นระดับ 80% เสิร์ฟมาพร้อมวิสกี้ไอศกรีม
ประสบการณ์ของ Chef’s Table ในวันนี้ทุกคนต่างได้รับความสุข เต็มอิ่มกับรสชาติอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คือบทพิสูจน์ในความสำเร็จของดินเนอร์ค่ำคืนนี้