จุดหมายใหม่ของเจแปนนีสฟู้ดเลิฟเวอร์ 1 ตึก 4 ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยม กับ ห้องอาหาร Kissuisen
การทานอาหารญี่ปุ่น คือความสุขเล็กๆ ของฟู้ดดี้หลายคน เนื่องด้วยอาหารญี่ปุ่นนั้น มากไปด้วยรสชาติ และเน้นคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้อาหารญี่ปุ่นกลายมาเป็นคอมฟอร์ทฟู้ดของใครหลายคน ซึ่งรู้หรือไม่ ว่าอาหารญี่ปุ่น ก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทเช่นกัน แต่สำหรับจุดหมายใหม่ที่เราจะพาทุกท่านมารู้จักในวันนี้ คือสถานที่ที่รวมเอา อาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยม ถึง 4 ร้าน มารวมไว้ในตึกเดียว ซึ่งนั้นก็คือ ห้องอาหาร Kissuisen (คิสซึอิเซน) ที่โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ นั่นเอง
ที่ ห้องอาหาร Kissuisen นี้ ได้รวมความอร่อยสุดพิเศษที่รวมร้านทั้ง 4 ร้าน 4 สไตล์ต้นตำรับอาหารญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ร่วมไปด้วยร้าน “CHI IZAKAYA BAR & DINING” ในสไตล์อิซากายะที่มีชีวิตชีวา “KAEN TEPPANYAKI AND GRILL” ในสไตล์เทปันยากิ กับศาสตร์แห่งไฟในการปรุงอาหาร “SEIFU OMAKASE BAR” ในสไตล์โอมากาเสะจากวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาล และ “MIZU SAKE BAR” สาเกบาร์ที่รวมสาเกหายากจากทั่วญี่ปุ่น โดยในแต่ละร้านนั้นจะถูกตกแต่งตามธีมของธาตุ ดิน น้ำ ลม และไฟ นั่นเอง ซึ่งเราก็จะขอมาพูดถึงร้านทั้งสี่กันแบบครบถ้วน!
CHI IZAKAYA BAR & DINING (ดิน)

ร้านแรกที่เมื่อเข้ามาใน ห้องอาหาร Kissuisen จะเห็นนั้น ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 และชั้นลอย นำเสนออาหารญี่ปุ่นในสไตล์อิซากายะที่มีชีวิตชีวา ด้วยเมนูอาหารที่ได้รับการสร้างสรรค์และปรุงขึ้นเป็นพิเศษจากถ่านบินโจตัน ถ่านไม้เกรดพรีเมี่ยมที่ให้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงได้รับการยกย่องถึงความบริสุทธิ์และถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านอาหารอิซากายะชั้นนำมากมาย โดยมีเมนูไฮไลท์ อาทิ ทูน่าทาทากิย่างถ่าน หรือกิวคารูบิยากิ รวมถึง PRIVATE DINING ROOMS ห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัวที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของร้านอาหาร ซึ่งตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์จำนวน 3 ห้อง รองรับการความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือการพบปะทางธุรกิจ พร้อมนำเสนอชุดอาหารกลางวันแบบเบนโตะ และชุดอาหารเย็นแบบโอเซ็น รวมถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับอีกหลากหลายชนิด
KAEN TEPPANYAKI AND GRILL (ไฟ)

ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 นำเสนออาหารญี่ปุ่นในสไตล์เทปันยากิ ที่มอบประสบการณ์แห่งรสชาติด้วยศิลปะการแสดงและการทำอาหารอย่างสร้างสรรค์จากศาสตร์แห่งไฟและทักษะของเชฟผู้มากประสบการณ์ รวมถึงส่วนผสมของวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาล อาทิ ล็อบสเตอร์จากภูเก็ต และเนื้อมัตสึซากะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเนื้อวัวคุณภาพสูงของประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงซอสที่มีให้ลองหลากลหายแบบ ให้ได้รสชาติที่หลากหลาย แอบบอกว่าซอสโปรดของ HELLO! ก็ต้องเป็ยซอสขิง ยิ่งทานกับปลาแซลมอนกริลล์ยิ่งอร่อย!
ต้องบอกว่านอกจากความอร่อยแล้ว ยังมากไปด้วยสีสันจากเชฟที่มากริลล์กันให้ดู ทั้งลีลากันผัด หั่น และย่าง ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์ความสนุกที่ครวรจูงมือเหล่าเพื่อนๆ Foodie ของคุณมาลอง และสังสรรค์กัน
SEIFU OMAKASE BAR (ลม)

ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 นำเสนอ อาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยม ในสไตล์โอมากาเสะ จากแรงบันดาลใจของลายเส้นอันสวยงามบนผนังร้านที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสายลมแห่งฤดูกาลที่ได้พัดพาเอาผลิตผลชั้นเลิศจากแหล่งผลิตไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้สดจากเทือกเขา ไปจนถึงวัตถุดิบสดใหม่จากตลาดอาหารทะเล ที่ได้รับเลือกมานำเสนอสู่โต๊ะอาหารเพื่อถ่ายทอดศิลปะแห่งรสชาติอย่างประณีตบรรจงโดยฝีมือของเชฟ ยูอิชิ มิตซุย
MIZU SAKE BAR (น้ำ)
สาเกบาร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณดาดฟ้าชั้น 5 พร้อมเปิดประสบการณ์แห่งศาสตร์ของเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นด้วยสาเกบริสุทธิ์หายากหลากชนิดจากโรงกลั่นสุราในประเทศญี่ปุ่น และค็อกเทลสูตรพิเศษที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากสาเกคุณภาพ พร้อมจับคู่กับเมนูอาหารว่างแบบญี่ปุ่นปิดท้ายค่ำคืนแสนพิเศษ

ห้องอาหาร “Kissuisen” ตั้งอยู่ภายในโรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ โดยส่วนของห้องอิซากายะ ห้องไพรเวทไดนิ่งรูม ห้องเทปันยากิ และห้องโอมากาเสะ เปิดให้บริการทุกวัน ช่วงกลางวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. และช่วงเย็น เวลา 18.00 – 22.00 น. และส่วนของสาเกบาร์ เปิดให้บริการทุกวัน ช่วงเย็น เวลา 17:00 จนถึงเที่ยงคืน
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!
4 อาหารเจ ระดับโรงแรม ปี 2566 อิ่มบุญอิ่มใจ พร้อมเสิร์ฟภายใต้บรรยากาศหรูหรา
เปิดต่อมรับรสชาติใหม่ๆ สัมผัสรสชาติ อาหารสไตล์นอร์ดิก ณ ห้องอาหารลอร์ด จิมส์
แปะ ลิทส์ แบรนด์ Ballet Core เทรนด์ แต่ง ตัว สไตล์ โซโล่ สเตจ ของ เจนนี่ BLACKPINK