Home > Lifestyle > Food & Drink > อร่อยกันแบบปังๆ กับ อาหารเวียดนาม สไตล์ Chef’s Table ที่ Morning Glory ในกรุงเทพฯ 

เรียกได้ว่าอาหารเวียดนามแทบจะไม่ถูกเอ่ยถึงเลยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สาวก อาหารเวียดนาม ต่างเศร้าใจกันไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม วันนี้ HELLO! ได้ไปพิสูจน์ ร้านเวียดนามหน้าน้องใหม่ ที่ต้องบอกเลยว่านอกจากจะปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาถูกปากคนไทยได้แล้ว ยังเสิร์ฟมาในราคาที่ลูกค้าหลาย ๆ คนต้องบอกว่า คุ้มค้าค่าเกินราคาวัตถุดิบมาก ๆ มาดูกันว่าจะมีเมนูอะไรที่ทำให้เราตะลึงกันบ้าง!

Morning Glory : The Vietnamese Chef’s Table

ที่ร้าน Morning Glory : The Vietnamese Chef’s Table ตั้งอยู่ที่ตึก Ramada Plaza by Wyndham Bangkok บนถนนเส้นสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 46 บอกเลยว่าเป็นร้าน อาหารเวียดนามที่เสิร์ฟอาหารได้หลากหลายสไตล์จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟแบบ Chef’s Table เสิร์ฟแบบ Buffet Shabu หรือจะเป็นการเสิร์ฟแบบ A La Cart Menu ก็ยังไงทำได้ จึงทำให้ร้านกลายเป็นที่นิยมมากในหลาย ๆ ส่วนของกลุ่มลูกค้าเพราะตอบโจทย์ทุกการต้องการของลูกค้าเลยจริง ๆ

Appetizers – อาหารเวียดนาม

เรามาเริ่มต้นกันที่อาหารรองท้องกันเลยดีกว่า เรียกได้ว่าจัดเต็มตั้งแต่จานแรก ๆ ที่มาเสิร์ฟเลย ไม่ว่าจะเป็น ก่อยก้วน (เปาะเปี๊ยะสดไส้หมูและกุ้ง) จ่าโตม (กุ้งพันอ้อย) แหนมเนือง บั่นแบ่ว (ขนมถ้วยเวียดนาม) และที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ จ่าก้อย (เปาะเปี๊ยะทอดแป้งตาข่ายไส้ทะเล) ที่บอกเลยว่าเป็นจานที่กินแล้วต้องร้องว้าวเลย ด้วยความกรอบพองของแป้งที่หุ้มไส้ของเปาะเปี๊ยะอยู่นั้น ทำให้เวลาเคี้ยวจะได้ Texture ที่ฟินกว่าเปาะเปี๊ยะทอดทั่วไป เพิ่มรสชาติด้วยซอสถั่วที่บอกเลยว่าเป็นซอสที่มีความเข้มข้น และช่วยดึงรสชาติของอาหารในแต่ละจานได้เป็นอย่างดี

Salad – อาหารเวียดนาม

ต่อกันที่เมนูอาหารสาย Healthy กันบ้างกับหมวดหมู่ของ Salad บอกเลยว่า อาหารเวียดนาม จะเสิร์ฟอาหารทุกจานแต่ 2 จานสลัดนี้ ต้องขอพูดถึงเลยจริง ๆ เพราะเป็นจานที่ถูกดึงรสชาติของ อาหารเวียดนาม ออกมาได้ดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจานของ ซาเลทซุกซิก (ยำหมูยอ) หรือ หนกหงอเซ้น (สลัดไหลบัว) ทั้ง 2 จานนี้ถูกเสิร์ฟออกมาได้เป็นอย่างดี หมูยอชิ้นโตพอดีคำ กุ้มเนื้อเด้ง ๆ ตัวโต ๆ รวมไปถึงวัตถุดิบที่ทางร้านใช้ บอกเลยว่ามีแต่วัตถุดิบเกรดพรีเมียมทั้งนั้นเลย

Main Course

มาถึงช่วงอาหารจานโปรดกันแล้ว บอกเลยว่าอาหารทุกจานล้วนแล้วแต่ใช้วัตถุดิบดี ๆ ทั้งนั้นเลย เริ่มต้นกันที่จาน จาก๋า (ปลาเก๋าขมิ้นกระทะร้อน) ที่ถูกเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน ถ่ายรูปสวยงาม นอกจากเนื้อปลาที่นุ่มละลายในปาก และ รสชาติของซอสขมิ้นยังถูกเนื้อปลาซึมซับได้เป็นอย่างดี มาพร้อมซอสกะปิที่จะมาช่วยดึงรสชาติของซอสให้ไม่น่าเบื่อ กินสลับกันไปมาให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ต่อกันที่เนื้อย่างใบชะพลู ที่ถูกเสิร์ฟมาในชิ้นพอดีคำ ใครที่ชอบกินเมนูนี้อยู่แล้วห้ามพลาดเลย ต้องมาชิมความเข้มข้นของเนื้อที่ผสมเข้ากับความกรอบบาง ๆ ของใบชะพลูที่ห่อมาด้วยกัน

Shabu

ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้หากยังไม่ได้ลองชิม Shabu สไตล์เวียดนามกัน น้ำซุปน้ำดำที่มีรสชาติหวานจาง ๆ ละมุนลิ้นมาก ๆ ตัวน้ำซุปเองใช้เพียงสมุนไพรนานาชนิด บวกกับสับปะรดเพื่มเพิ่มรสชาติหวานปลาย ๆ เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบความสดชื่นมาก ๆ นำเนื้อไปลวกให้พอสุกแล้วชิมดูก่อนจิ้มซอส บอกเลยว่ารสชาติเข้ากันแบบอธิบายไม่ถูกเลย ทานคู่กับผัก เต้าหู้ และลูกชิ้นต่าง ๆ บอกเลยว่าฟินสุด ๆ เลย

Dessert

ปิดท้ายค่ำคืนด้วยเมนูยอดฮิตของทางร้าน อาหารเวียดนาม อย่าง Banana Flambe (กล้วยชุปแป้งทอด) เป็นจานที่ทำให้เรายอมรับเลยว่าเป็นทีเด็ดของทางร้านจริง ๆ ไม่ว่าจะรู้สึกแน่นท้องขนาดไหนก็ต้องสั่งมาลองให้ได้ เป็นการเสิร์ฟกล้วยหอมทอดพร้อมการราดเมเปิ้ลซอสที่ถูกผสมให้เข้ากับ Dark Rum ก่อนที่จะจุดไฟเผาแอลกอฮอล์ (ถ่ายรูปสวยงามแน่นอน) เสิร์ฟพร้อมไอศครีม 2 ลูก บอกเลยว่าอร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน

ติดต่อ : 098 494 2000

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.