Home > Lifestyle > Food & Drink > เปิดประตูโรงอุปรากรสู่รสสัมผัสแบบ Authentic Italian

ใจกลางซอยสุขุมวิท 39 ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถรา เป็นที่ตั้งของร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ รวมไปถึง Opera Italian Restaurant  ร้านอาหารอิตาเลียนที่มีประวัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 เดิมร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า L’Opera ก่อตั้งโดย Gennari Rossano ชาวอิตาลี ซึ่งปลุกปั้นและสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ กระทั่งตัดสินใจขายร้านอาหารในปี ค.ศ. 2005 ส่วนปัจจุบันโรงอุปรากรแห่งนี้ถูกพลิกโฉมโดย FICO Group ที่เข้ามาปรับปรุงร้าน เปิดม่านส่งเมนูอาหารแบบ Authentic Italian ที่ให้รสสัมผัสแบบอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ มาสร้างความประทับใจอีกครั้ง

Opera Italian Restaurant
ประตูทองเหลืองแวววาวบานใหญ่ของ Opera Italian Restaurant รอต้อนรับผู้มาเยือน

มนต์เสน่ห์ของร้านอาหารที่ตั้งตระหง่านในย่านสุขุมวิทมายาวนานถึง 4 ทศวรรษ ถูกสัมผัสได้ทันทีที่ผลักประตูทองเหลืองแวววาวบานใหญ่ โดยเฉพาะยามพลบค่ำที่บรรยากาศภายในร้านถูกปกคลุมไปด้วยความสลัวของแสงไฟ ทำให้เหมือนกับได้นั่งอยู่ในโรงละครโอเปร่า ภายในร้านได้รับการออกแบบและตกแต่งราวผลงานศิลปะ เริ่มตั้งแต่ผนังไม้ที่ประดับประดาด้วยภาพถ่ายย้อนยุค สร้างบรรยากาศชวนให้นึกถึงห้องแสดงงานศิลป์

ร้านถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน รองรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รวมถึงโซนที่นั่งและห้องวีไอพีสำหรับกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะ ใจกลางร้านอาหารคือบาร์ขนาดใหญ่กำลังส่องแสงระยิบระยับ ครัวสไตล์อิตาเลียนแบบเปิดโล่ง ที่นั่งกำมะหยี่สุดหรู โคมไฟที่วิจิตรบรรจง ไปจนถึงบันไดวนสู่ชั้นบนที่มีความสว่างไสวขึ้นมาหน่อย และมีที่นั่งเอาต์ดอร์ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายนอกร้านได้

Opera Italian Restaurant
Tartare Di Tonno

ส่วนเมนูเป็นการรังสรรค์จานอาหารอิตาเลียนคลาสสิกให้มีความร่วมสมัยจากเมนูดั้งเดิมของห้องอาหารแห่งนี้ เกิดเป็นเมนูใหม่ ที่เป็นมากกว่าอาหารอิตาเลียนพื้นฐานทั่วไป ทุกจานถูกปรุงด้วยส่วนผสมล้ำค่าในราคาที่เหมาะสม โหมโรงด้วยเมนูแอพพิไทเซอร์อย่าง Tartare Di Tonno ทูน่าทาร์ทาร์ ในซอสรสชาติกลมกล่อมสดชื่นด้วยส่วนผสมของ Tomato Coulis สกัดเย็น, หอมดอง, ซอสมะกอก และ Stracciatella Cheese นอกจากนี้ยังมี Burrata Caprese (สลัดบูราต้าคาปรีเซ่) และ Fritto Misto คาลามารีที่นอกจากปลาหมึกแล้วยังมีกุ้งที่ถูกทอดจนหลืองกรอบตัดรสทาร์ทาร์ซอสและเลมอน

Opera Italian Restaurant
Rigatoni Gratin

ขณะที่ไฮไลต์อย่างจานอิตาเลียน คลาสสิก เรียงรายด้วยหลากหลายเมนูให้ลิ้มลอง นำทีมโดย Rigatoni Gratin ริกาโตนิอบในซอสสีชมพูและมอซซาเรลลาชีส เอาใจสายชีส ตัดเลี่ยนด้วย Linguine Alle Vongole ลิงกวินีหอยตลับ ลงตัวด้วยส่วนผสมทั้ง Bottarga จากไข่ปลามัลเล็ตแดง กระเทียม และไวน์ขาว

Linguine Alle Vongole

ส่วนเมนคอร์สมีให้เลือกทั้งเมนูปลา Branzino Alla Piastra ปลากะพงชิลีย่างนื้อหวานอร่อยเข้ากันดีกับซอสถั่วลันเตา มะเขือเทศเชอรี่ย่าง หอยลาย และซอส Bagna Cauda นอกจากนี้ยังมีเมนูเนื้อมาเอาใจสายเนื้อกับ GUANCIA DI MANZO A BASSA TEMPERATURA แก้มเนื้อวากิว A5 ที่ใช้เวลาปรุงกว่า 24 ชั่วโมง จนได้เนื้อที่นุ่มละมุน รับประทานคู่กับริซอตโต้ แซฟฟรอน เสิร์ฟพร้อมซอสเข้มข้น ตัดความสดชื่นด้วย Gremolata

Branzino Alla Piastra

ปิดท้ายด้วย ‘ทีรามิสุ’ เมนูขนมหวานพื้น ๆ แต่รสชาติยูนีคกว่าที่อื่น ด้วยด้านบนที่ท็อปเปลือกดาร์กช็อกโกแลตบาง ๆ เนื้อครีมที่เป็นในลักษณะของคัสตาร์ด หอมวานิลลา เข้ากับรสขมอ่อนได้เป็นอย่างดี

ทีรามิสุ

พบกับความอร่อยที่จะมาสร้างความตื่นเต้นผ่านจาน Authentic Italian ได้ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 00.00 น.


บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.