หากอยากลิ้มรสอาหารไทยแบบต้นตำรับแท้ๆ เราขอแนะนำให้คุณลองมาที่ Paste Bangkok ร้านอาหารใจกลางเมืองที่ได้รางวัลมิชลินสตาร์ โดยเชฟสามีภรรยา Jason Bailey และ คุณบี – บงกช สระทองอุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำรับชาววังและสูตรอาหารไทยโบราณ และนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสมัยใหม่
เมื่อมาถึงชั้น 3 Gaysorn Village เราจะพบกับบรรยากาศร้านที่โปร่งสบาย ให้แสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอ และจัดแบ่งเป็นโซนชัดเจน จึงรู้สึกสบายตา และไม่อึดอัด

เราเริ่มกันที่เมนู ข้าวแช่ ที่ดัดแปลงให้มาอยู่ในจานเดียว แต่ครบเครื่องข้าวแช่ ทั้งลูกกะปิ ไข่เค็ม ปลาย่าง ไชโป๊ว มาพร้อมน้ำลอยดอกมะลิสดชื่น


ตามมาด้วย Sichuan chili tuna , sea urchin ,crispy fish skin ซุปเข้มข้นโรยด้วยแตงกวาและกลีบดอกไม้ ทานพร้อมกับหนังปลากรอบ เพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม ต่อกันด้วย Northern Chiang Mai salad of langoustine with roasted banana chili, chargilled tomotoes ที่ให้รสชาติแบบชาวเหนือ ตัดรสด้วยพริกหยวก และมะเขือเทศย่าง


เต็มปากเต็มคำด้วย Salt & pepper fire fly squid with red chilli dressing ปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทยที่ราดด้วยซอสพริกแดง ให้รสชาติกรอบ หอมมัน และจัดจ้านในคำเดียว ต่อด้วยรสสัมผัสแปลกใหม่ของ Roasted sea cucumber, local crab, scallion ginger ซุปที่ปรุงด้วยต้นหอม ขิง และเนื้อปู และเคี้ยวหนึบด้วยปลิงทะเลคั่ว


เติมกระเพาะให้เต็มด้วยอาหารจานหลัก Beef char siu, crispy daikon, tonkin jasmine เนื้อย่างสุกกำลังดีที่ปรุงรสอย่างเข้มข้น กลมกล่อม ตามมาด้วย Smoked chicken XO fried rice ข้าวผัดหอมๆ ที่แกล้มมาพร้อมกับไก่รมควัน

ตบท้ายกับของหวานด้วยเมนู Calamansi curd with caramelized tofu skin, basil flowers jelly and candied pomelo โยเกิร์ตส้มจี๊ดที่ตัดกับผิวเต้าหูเคลือบคาราเมล เยลลี่ดอกโหระพา และส้มโอ ให้รสชาติไทยๆ ที่ไม่เหมือนใคร
หากใครอยากลิ้มรสอาหารตำรับไทยที่หาทานได้ยาก ก็แวะไปได้ที่ชั้น 3 Gaysorn Village เปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ มื้อกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.30-23.00 น.
ติดต่อสอบถามที่เว็บไซต์ www.pastebangkok.com