เอาใจสายกิน พาส่องคอร์สใหม่ ‘Spring Tasting Menu’ สุดพรีเมียม จาก Mia Restaurant
HELLO! พามาอัพเดทคอร์สใหม่ล่าสุดจากร้าน find dining ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 กับ Mia Restaurent ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียน การันตีความอร่อยด้วยรางวัล michelin guide ที่มาพร้อมคอร์สใหม่ ขนกองทัพวัตถุดิบสุดพรีเมียมมาเชิ่ดฉายใน ‘Spring Tasting Menu’ ไม่ว่านะเป็น Josephine oyster, Truffle, Carviar, Foie gras เเละ Pigeon เเล้วมาดูกันว่าจะมีเมนูอะไรน่าลิ้มลองกันบ้าง
ความน่าสนใจ คือเราจะได้สัมผัสวัตถุดิบสุดพรีเมียมเหล่านี้ผ่านเทคนิคการปรุงเฉพาะตัวของเชฟชื่อดังอย่าง เชฟ Top Russll เเละ เชฟ Michelle Goh ที่ตั้งใจรังสรรค์อาหารอย่างพิถีพิถัน เพื่อถ่ายทอดที่สุดเเห่ง ‘ความอร่อย’ ด้วยการผสมผสนานวัตถุอิมพอร์ทเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ถั่วแมกคาเดเมีย เเทนการใช้อัลมอนด์ หรือการใช้สาคูในเมนูรีซอตโต้ได้อย่างลงตัว
อีกหนึ่งความพิเศษสำหรับซีซั่นนี้คือ ไวน์เเพริ่งกับคอร์สอาหาร ที่สายไวน์จะต้องประทับใจ เพราะไวน์เเพริ่งในครั้งนี้จะมาเสริมให้มื้ออาหารของคุณพิเศษมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชูรสชาติของอาหาร หรือจะเป็นการตัดรสชาติได้อย่างลงตัว ขอบอกเลยว่าร้าน Mia Restaurent จับคู่อาหารเเละไวน์ออกมาได้ดีมากๆ
ไม่รอช้า HELLO! ขอพาส่องเมนูทั้ง 8 Courses กันเลย
เริ่มต้นคอร์สอย่างโดดเด่นด้วย Josephine Oyster | Champagne and Shio Granita ที่มาเรียกความเย็นสดชื่น
ต่อด้วยเมนูของทานเล่นคำเล็กน่ารัก เสิร์ฟมา 4 คำกำลังดี มีทั้ง Smoked Haddock Tart | Hollandaise, Salmon Tartare | Sriracha Mayo | Ikura ซอสสีราชาสูตรโฮมเมด , Three Cheese Cigar | pancetta หอมมันละมุนไปด้วยชีส หรือจะเป็น Foie Gras | Sauternes | Black Truffle เเป้งทานบางกรอบ Foie Gras บดนวลเนียน ตบท้ายด้วยกลิ่นทรัฟเฟิลหอมฟุ้ง
ถัดมาเป็นเมนูที่ดูจะธรรมดา แต่บอกเลยว่ารสชาติเและความอร่อยนั้นไม่ธรรมดา กับเมนู Sourdough Brioche | Shallot Butter | Onion Ash ขนมปังซาวโดวจ์กรอบนอก นุ่มใน เสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ รสชาติดี ยิ่งทานคู่กับเนย Shallot Butter ท๊อปหน้าด้วย Onion Ash เเละเกลือ บอกเลยว่านี้เเหละ ซาวโดวจ์ ในอุดมคติ
และเเล้วก็เข้าสู่เมนู Cold Starter โดยเริ่มจาก Hokkaido Scallop Crudo ท๊อปด้วย Caviar เเละ Pickled Kohlrabi จัดเสิร์ฟเเบบเย็น ทานคู่กับเจลลี่ซอสสูตรพิเศษของทานร้าน ถือเป็นอีกหนึ่งจานสุดครีเอทีฟ ที่ไม่ได้สวยเพียงหน้าตาเเต่รสชาติก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
North Sea Crab | Ajo Blanco | Grapes อีกหนึ่งจานมากเรื่องราว เพราะเป็นอาหารจานเเรกสู่เส้นทางสายอาชีพของเชฟท๊อป โดยที่จานนี้จะเป็นซุปกระเทียม ทำจากถั่วอัลมอนด์ ขนมปัง เเต่เชฟท๊อปได้นำมาโลโคไลสวัตถุดิบ เพื่อใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น จากเดิมที่เป็นอัลมอนด์ ก็เปลี่ยนมาเป็น เเมคคาดาเมีย จากทางภาคเหนือ เเละที่น่าสนใจคือ จากการใช้ขนมปัง ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นสาคูเเทน
ย้ายมาที่เมนู Hot Starter กันบ้าง จานเเรกเป็น Cuttlefish Risotto | Cauliflower | Black Truffle ขอเรียกจานนี้ว่าภูเขาทรัฟเฟิล ที่สำคัญยังมีหลายเท็คเจอร์ในจานเดียว ถัดมาเป็น Poached Cod | Cucumber | Lemongrass Broth ซุปร้อนๆ พร้อมปลาเนื้อเด้ง เเละให้ความสดชื่นด้วย Cucumber
ในที่สุดก็มาถึง Main Course ซึ่งสามารถเลือกได้ระหว่าง Hay Aged Pigeon served | Red Endive | Figs เมนูนกพิราบที่ไม่มีกลิ่นสาบแม้แต่นิดเดียว หรือจะเป็น 48 Hours Braised Beef Short Rib เนื้อนุ่มๆ ทานคู่กับ Oyster Cream เเละ Salsify
กินคาวก็ต้องกินหวาน เริ่มด้วย Whipped Fate | Tomato Jally | Watermelon ที่ไม่เคยคิดเลยว่ามะเขือเทศจะสามารถทำออกมาเป็นขนมหวานคู่กับเเตงโมได้อย่างดีเยี่ยม
ล้างปากจากอาหารคาวด้วยความเฟรชของมะเขือเทศเเละเเตงโมกันไปเเล้ว ก็มาต่อกันด้วยขนมหวานเเสนอร่อยที่ชวนให้นึกถึงวัยเด็กอย่าง Mia’s Cereal Bowl กับ Cereal นานาชนิด ทานคู่กับไอศกรีมข้าวโพด และมูสไมโลที่ด้านล่าง พร้อมด้วย Malted Milk Chocolate สุดละมุน
ทั้งหมดนี้คือ ‘Spring Tasting Menu’ จาก Mia Restaurent และความประทับใจในครั้งนี้นอกจากอาหารคุณภาพ ที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างตั้งใจจากเชฟทั้ง 2 เเล้ว ยังมีไวน์เเพริ่งที่ HELLO! แนะนำว่าไม่ควรพลาด เพราะที่ร้านสามารถจับคู่มืออาหารและไวน์ออกมาได้อย่างลงตัว ทำให้ทั้งไวน์และอาหารออกมารสชาติดีงามสมคำรำลื่อจริงๆ