แน่นอนว่าสำหรับเหล่าเชฟอาหารญี่ปุ่นหลายท่าน คงทราบดีถึงความสำคัญของ ข้าว ที่เป็นวัตถุดิบหลักของซูชิ โดยเฉพาะในการจัดคอร์สโอมากาะเสะ ข้าวนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะตัดสินมื้อนั้นๆ วันนี้ HELLO! ขอพาสายโอมากาเสะ ไปท่องเมนูรสเลิศ ที่มั่นใจได้เลยว่า นอกจากปลาที่คุณภาพยอดเยี่ยม อิมพอร์ทตรงมาจากตลาด Toyosu กลางโตเกียว แล้ว ข้าว ก็ดีเลิศไม่แพ้กัน กับร้าน Sushi Saryu ที่ทุกเมนูถูกรังสรรค์ โดยเชฟซูชิฝีมือดี พร้อมประสบการณ์กว่า 10 ปี อย่างเชฟ Seiji Sudo ที่จะพาเรา ท่องไปกับ 18 เมนูเต็มๆ โดยที่ HELLO! ขอคัดเอา 8 เมนูที่การันตีเลยว่า ถ้าใครได้ทาน ก็ต้องพูด โออิชิ!

อย่างแรกที่เราต้องพูดถึง คือคุณภาพของข้าว ของที่ร้านนี้ ที่ใช้ข้าวชนิดพิเศษ เม็ดเรียว เรียงตัวได้เป็นอย่างดี คลุกเคล้ากับ น้ำส้มสายชูสูตรพิเศษ ถึง 3 ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นน้ำส้มสายชู special long-aged red vinegar ที่หมักมาจาก สาเก Saku ชูความหอมของข้าว พร้อมกับให้รสที่กลมกล่อม ที่เข้ากับรสทะเลของปลาได้อย่างดีเยี่ยม


เริ่มที่เมนูแรก อูนิซุป ตัวซุป ที่จะใชน้ําสต็อกสาหร่ายคงบุ และเนื้อสาหร่ายที่เข้ากันได้ดี กับบาฟุนอูนิ ปรุงรสด้วยเกลือธรรมชาติอย่างเดียว เพื่อที่ยังคงรสอูมามิของอูนิไว้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นเมนูที่หอมกลมกล่อม และละมุนลิ้น ที่มีเนื้ออูนิละลายในปาก ผสทผสานกับกลิ่นหอมสาหร่าย แค่เมนูนี้ ก็ทำเอา HELLO! ปลื้มแล้ว
ต่อที่ซูชิปลา Kawahagi เป็นปลารสเลิศในฤดูหนาว ที่เชฟนิยมนําปลามาทําเป็นซาชิมิหรือ ซูชิเสิร์ฟคู่กับตับปลา รสชาติเข้มข้น เป็นเมนูที่มีหลายรสสัมผัสในคำเดียว ไม่ว่าจะเป็น ความนุ่มของปลา ผสมกับรสนัวของตับปลา เรียกได้ว่า เป็นอีกเมนูที่น่าตื่นตาเป็นอย่างมาก


แน่นอว่าสำหรับสายปลาดิบ คงคุ้นเคยกับปลา คินเมได ที่นับว่า เป็นปลาไฮเอนด์ ราคาสูง เพราะคินเมได หรือปลากระพงแดง เป็นปลาตระกูลปลากะพง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเด้ง และเนื้อปลาที่แน่น และชุ่ม ไปด้วยไขมัน ซึ่งเชฟ ก็ได้เลือกสรรส่วนที่ความมันกำลังพอดีกับเนื้อรสจัด ที่ให้รสชาติเค็มมันหวาน พอดีกับข้าวรสละมุน เป็น combination ที่คลาสสิก ของ Sushi Saryu และอร่อยมาก
อังกิโมะ หรือ ตับปลาอังโกะ ก็เป็นอีกเมนูที่มีรสชาติหลายชั้น ทั้งมัน หอม หวาน และเปรี้ยวอ่อนๆ ด้วยการนําไปปรุงให้สุกด้วยซอสที่มีรสชาติหวาน และมีความเผ็ดเล็กน้อยเสิร์ฟพร้อม นาราสึเคะ หรือแตงโมดอง เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ ต้องลองเลย



ต่อที่เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อย่าง เซโกะคานิหรือ ปูซูไวคานิเพศเมีย มีขนาดตัวเล็ก เนื้อจะน้อยกว่าซูไวคานิ เพศผู้โดยเชฟจะนํามาเสริ์ฟในฤดูหนาว เนื่องจากเป็นฤดูที่ปูมีไข่เยอะที่สุด และมีให้ทานเพียง 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น ไข่ปูเซโกะ คานิมีรสชาติพิเศษเฉพาะตัวมากๆ ต้องบกเลยว่า เชฟสามารถชูกลิ่นหอมของปู ได้ออกมาดีเยี่ยมมากๆ
อีกเมนูต่อกัน กับ ปลาคัตสึโอะ เบิร์นหนังปลาเพื่อให้ได้กลิ่นหอมปลาคัตสึโอะ และนําไปหมัก ซอสสูตรพิเศษของเชฟ ที่รรสชาติ หวานและเค็มลงตัว ตกแต่งอย่างสรา้งสรรค์ด้วยก้างของปลา ออกมาหน้าตาแปลกใหม่ ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปลงสตอรี่กันแบบคูลๆ แต่รสชาติ ก็อร่อย ไม่แพ้หน้าตาเลยทีเดียว
ก่อนจะไปที่ของหวาน เราคงไม่พูดถึงเมนูสุดคอมโบนี้ไปไม่ได้ กับเมนู Maki ที่มีทั้ง อูนิ ซูจิโกะ ชูโทโร่ กุ้งชิมะเอบิ โบตันเอบิ และไข่กุ้ง 2 ชนิด จัดเต็มในหนึ่งคำ ทั้งความอูมามิจากอูนิ เนื้อเด้งๆ ของกุ้ง พร้อมความหวานหอม ทานพร้อมสาหร่ายรสเค็ม บอกคำเดียวเลยว่า สุดๆ ไปเลย

อย่าง HELLO! แล้ว ทานคาวเสร็จ จะไม่ทานหวานได้อย่างไร มาถึงเมนูปิดของหวาน อย่าง พุดดิ้งมะพร้าวราดด้วยซอสชาเขียว ท็อปด้วยเกาลัดเชื่อม รสชาติหอมละมุนของมะพร้าว และเสริมกันด้วยรสหอมของเกาลัด เป็นรสที่แปลกใหม่ แต่ให้ความคุ้นเคยของความคล้ายขนมไทย ให้ความหวาน ที่กำลังพอดี ทั้งรสสัมผัสเ เนียนนุ่ม ละลายในปาก และมีเท็กซ์เจอร์ ให้เคี้ยวเล็กน้อย นับว่าเป็นการปิดมื้อที่ดีมากๆ และอยากให้ทุกคนได้ลอง ได้ที่พิกัดร้าน Sushi Saryu ที่นี่!