เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอีเว้นท์เลยที่เหล่าเซเลบริตี้ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ เพราะในงาน The Good Old Times ที่เป็นการรวมตัวของ 3 เชฟชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นเชฟ Haikal Johari (ไฮเคิล โจฮารี) เชฟผู้บุกเบิก Water Library สาขาทองหล่อ เชฟ Tap Supasit Kokpol (แท๊ป ศุภสิทธิ์ ก๊กผล) เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้าน Coda Bangkok ปิดท้ายด้วยเชฟ Mirco Keller เจ้าของร้านอาหารชื่อดังอย่างร้าน Keller Bangkok มาร่วมดีไซนด์เมนูอาหารในค่ำคืนนี้ให้ออกมามีเอกลักษณ์และพิเศษมากยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้น The Good Old Times

ต้องเกริ่นก่อนว่าที่มาของงาน The Good Old Times คือความตั้งใจของเชฟทั้งสามท่าน เพื่อลำลึกถึงช่วงเวลาที่เคยทำอาหารร่วมกันมาก่อน ถ้าจะให้เล่าต้ังแต่ต้นก็คงจะยาว แต่ต้องบอกเลยว่าเป็น Story ที่ฟังแล้วยังคงประทับใจอยู่
เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อ 7 ถึง 8 ปีที่แล้ว สมัยที่เชฟ Haikal Johari (ไฮเคิล โจฮารี) เป็นเชฟผู้บุกเบิก Water Library ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นร้านอาหารที่ใหม่มาก และได้รับเชฟแท๊ปซึ่งเป็นเด็กฝึกงานคนไทยเพียงคนเดียวในสมัยนั้น มาสอนเทคนิคต่าง ๆ เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาฝึกงาน เชฟแท๊ปได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจาก เชฟไฮเคิล ไม่ได้เรียนรู้เพียงเทคนนิคการปรุงอาหาร แต่ยังเรียนรู้เกี่ยวกับ Mindset ที่จะช่วยให้เชฟแท๊ปประสบความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องก็ไม่ได้ราบลื่นอย่างที่คิด หลังจากที่เชฟแท๊ปฝึกงานจบลงได้ไม่นาน เชฟไฮเคิลก็ได้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ (ปัจจุบันรักษาหายแล้ว) ซึ่งในตอนนั้นเชฟแท๊ปเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก และได้ให้สัญญากับตัวเองไว้ว่าหากมีโอกาสได้เปิดร้านอาหารของตัวเองจะทำเมนูมอบให้กับเชฟไฮเคิล ผู้ที่เป็นเหมือนอาจารย์
และเมนูนั้นก็คือเมนู Cold Pasta ที่เป็นเมนู Original ของเชฟไฮเคิล ถูกนำมาปรับสูตรจนออกมาเป็นจาน Signature และสัญญาว่าจะไม่เปลี่ยนเมนูจนกว่าเชฟไฮเคิลจะได้มาชิมด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี และในที่สุดเชฟไฮเคิลก็ได้มาชิมเมนูเสฉวน Cold Pasta ที่ร้าน Coda Bangkok จริง ๆ และพูดกับเชฟแท๊ปว่า “We should cook together again” ซึ่งเชฟแท๊ปตอบตกลงในทันที จากนั้นก็ได้ไปชวนเชฟ Mirco Keller เชฟคนสนิทกับเชฟไฮเคิล และได้จัดเป็นอีเว้นท์ The Good Old Times ขึ้นมานั่นเอง
The Good Old Times Menu



เมนูที่ถูกเสิร์ฟในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็น Signature เมนูของเชฟแต่ละท่าน ไม่ว่าจะเป็นเมนู Appetizer ทั้ง 3 จานอย่าง Chutoro (Dashi, Ponzu, Eggplant), Scallop (Oyster, Roasted Chilli Jam) และ Berliner Senfei (Potato, Beetroot, Caviar) ที่ต้องบอกเลยว่าแต่ละจานสามารถชูเอกลักษณ์และเทคนิคของเชฟได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่าอร่อยถูกปากทุกจานเลย



มีจานปลาหมึกย่างที่ละมุนไปด้วยซอสที่กระเทียมและ Texture ความกรอบของ Ink Chips เข้ากันได้เป็นอย่างดี Blackfin Seabass เป็นอีกจานที่เรียกเสียงฮือฮาได้เช่นกัน ด้วยรสชาติของซอสที่กลมกล่อม บวกกับความนุ่มของเนื้อปลา กินคู่กับหนังปลาที่กรุบกรอบกำลังดี เป็นจานที่อร่อยมากจริง ๆ

แน่นอนว่าเมนูที่เราตั้งตารอจริง ๆ จากเชฟไฮเคิล นั่นก็คือ Original Cold Obsiblue Cold Capellini ที่ต้องบอกเลยว่า หายคิดถึงแน่อน รสชาติของซอสสาหร่ายที่เข้ากับเส้น Pasta มี Uni ก้อนโตโปะอยู่พร้อมกับไข่ปลาแซวมอน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโมเม้นที่ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจของเชฟ และความรู้สึกของเชฟไฮเคิลที่มาต่อจานนี้มาก ๆ


นอกจากนี้ยังมีเหล่าเซเลบริตี้มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น คุณมาร์ค-ธาวิน พี เซียวตง แฮร์สไตลิสต์ ลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ ผู้มีเอกลักษณ์การ Mixed and Matched เสื้อผ้าซูเปอร์แบรนด์ เจ้าของ Maison Mark Thawin Hair & Elite Lifestyle แถมยังมีเซเลบริตี้สายแฟชั่นอย่าง คุณแก๊ป-ปณิธิพัทธ์ มาร่วมงานนี้อีกด้วย ปิดท้ายที่ คุณแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกชื่อดัง ที่แวะมาเซอร์ไพรส์และชิมอาหารจากเชฟทั้ง 3 ท่านอีกด้วย