Vinotheque (วีโนเทค) ร้านสเต็กสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นในด้าน เนื้อ ซึ่งไม่ใช่เพียงการนำเสนอเมนูเนื้อแบบเบสิกทั่วไป แต่สร้างความแตกต่างด้วยการเสิร์ฟ เนื้อวากิว ที่สุดแห่งความพรีเมียม โดยเชฟที่มีประสบการณ์ด้านเนื้อมากกว่า 30 ปี พร้อม ไวน์ รสเลิศที่คัดสรรมาแต่ขวดหายากระดับโลกทั้งสิ้น
เชฟ Yoshiaki Kusunoki (โยชิอากิ คูสึโนกิ) หรือ โยชิซัง ชาวญี่ปุ่นผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านเนื้อ มีประสบการณ์ทำร้านไคเซกิ ซึ่งเป็นอาหารชั้นสูงของญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 10 ปี ด้วยความที่ชอบเนื้อและธุรกิจของตัวเองที่ญี่ปุ่นก็เกี่ยวกับเนื้อโกเบ จึงนำความรู้ทางด้านเนื้อและการทำอาหารที่สั่งสมมาร่วม 30 ปีผันตัวมาเป็นอาจารย์และเชฟทำร้านอาหารในประเทศไทย ดูแลเรื่องเนื้อโกเบและเนื้อเอจจิ้งเป็นหลัก มั่นใจได้เลยว่าทุกสิ่งที่เชฟเลือกให้คือที่สุดแน่นอน



เริ่มต้นที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Classic Sweet Tomato with Rock Salt (220 บาท) มะเขือเทศญี่ปุ่นที่มีความหวานไม่เหมือนใคร เสิร์ฟบนแผ่นหินเกลือหิมาลายันทั้งลูก เวลารับประทานให้นำไปแตะกับแผ่นเกลือจะได้ความสดชื่น และได้กลิ่นพริกไทยที่โรยมาด้านบน กินคู่กับร็อกเก็ตสลัดตัดรสชาติที่แตกต่างแต่ลงตัว
ต่อกันที่ 50+ Days Dry Aged Beef Tongue (1,980 บาท) ลิ้นวัวดรายเอจด้วยวิธีพิเศษของเชฟมากกว่า 50 วัน นำไปย่างแล้วโรยเกลือ พริกไทย ได้รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น มีกลิ่นอายของการย่าง บีบเลมอนที่เสิร์ฟมาพร้อมกันเพิ่มความอร่อย
Deep Fried Oyster (270 บาท) หอยนางรมสดใหม่สายพันธุ์เฮียวโงะไซส์ใหญ่ ชุบเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอดอุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส ได้ความกรอบนอกนุ่มในและเหลืองนวลน่ารับประทาน เสิร์ฟคู่กับซอสทาร์ทาโฮมเมด


เข้าสู่จานสำคัญ Kobe Beef Champion Suki Yaki ( 2 ชิ้น 1,800 บาท) เนื้อโกเบเกรด 12 ซึ่งถือว่าเป็นเกรดที่ดีที่สุดของเนื้อ A5 ในปีปีหนึ่งมีจำนวนไม่มาก มีเพียง 5 ตัวเท่านั้น สไลด์โชว์ลายหินอ่อนสวย ย่างด้วยไฟแบบอาบุริแล้วเสิร์ฟมาบนจานสุดยูนีค ออนท็อปด้วยไข่สด ต้นหอมซอย และซอสสุกี้ยากี้ ก่อนรับประทานให้ตีไข่ให้ทั่วทั้งชิ้นเนื้อและม้วนจะได้ลิ้มรสความหวานชุ่มช่ำของเนื้อโกเบเกรด 12
เมนูของคาวเอาใจคนสายเนื้อกับ 50+ Days Dry Aged Black Angus (AUS) 400 กรัม (2,180 บาท) เนื้อวัวออสเตรเลียดรายเอจกว่า 50 วัน นำไปย่างให้สุกแบบ medium rare ทำให้มีรสชาติเข้ม นุ่มรับประทานคู่กับมันฝรั่งทอด วาซาบิดอง Chaliapin Sauce ซึ่งเป็นซอสสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยมีส่วนผสมของโชยุ หัวหอม เนย เกลือ และพริกไทย ช่วยเพิ่มรสชาติและความอร่อยให้กับเนื้อสเต็กได้เป็นอย่างดี
สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อที่วีโนเทคก็มีเมนูหมูที่น่าสนใจ อย่างจานนี้ Sous Vide Cooked Pork Cutlet Sandwiches (780 บาท) แซนด์วิชเนื้อหมูชิ้นโตนำไปซูวีก่อนแล้วชุบแป้งแบบบางๆ ทอด ประกบคู่ขนมปังนมฮอกไกโดให้ความนุ่มและหอมกลิ่นนมฮอกไกโด ราดซอสวูสเตอร์สูตรลับเฉพาะของเชฟ


เอาใจคนรักซีฟู้ดกับเมนู Mentaiko Pasta Special (1,300 บาท) สปาเก็ตตี้ที่มอบความนุ่มคลุกซอสครีมมี่ ใส่ไข่ปลาและท็อปด้วยไข่ปลาเมนไทโกะไซส์ใหญ่ที่สุดนำเข้าจากฟุกุโอกะ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เท็กซ์เจอร์ความกรุบของไข่ปลาที่ใส่แบบดับเบิลมาทุกคำ
Kobe Beef Sandwich (1,380 บาท) แซนด์วิชเนื้อโกเบชิ้นโตนำไปชุบแป้งทอดพอสุก ราดซอสวูสเตอร์และมัสตาร์ดให้เนื้อมีรสสัมผัสชุ่มช่ำ
ปิดท้ายด้วยมาที่เมนูขนมหวาน Basque Cheese Cake (ชิ้นละ 350 บาท) ชีสเค้กหน้าไหม้สไตล์สเปน รสชาติกล่อมกล่อมแตกต่างจากร้านอื่นตรงที่คิดสูตรมาให้แมตช์กับเครื่องดื่มเพิ่มอรรถรสให้ดินเนอร์มื้อนี้จบอย่างสมบูรณ์แบบ



นอกเหนือจากการบริการ เนื้อวากิว สุดพรีเมียมที่ Vinotheque (วีโนเทค) แล้วยังมีบริการเครื่องดื่ม ไวน์ สาเก และอุเมซูอีกมากมายให้เลือกชิม ซึ่งสามารถแพริ่งกับทุกเมนูอาหารได้ตามชอบ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบ Loft ผนัง Brick Wall สุดคลาสสิก ทุก ๆ พื้นที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นลำโพงที่หากคนรักเสียงเพลงเห็นจะรู้เลยว่าสถานที่ครีเอตขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับการทำอาหารที่ได้เชฟมากฝีมือมาครีเอตเมนูอร่อย
ร่วมสัมผัสความพิเศษได้ที่ Vinotheque (วีโนเทค) เปิดบริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17:00 น. – 23.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ สอบถามเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ โทร. 06–5514–7448