ดื่มด่ำความเอ็กซ์คลูซีฟระดับโลก ไปกับเทศการอาหาร World Gourmet Festival 22 และเชฟเหล่าเชฟมิชลินสตาร์
ไม่มีสิ่งใดจะเพอร์เฟกต์ไปกว่าการได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่เอ็กซ์คลูซีฟ แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้น เรียกได้ว่าการทานอาหารจากสุดยอดเชฟ คงเป็น Life Goal ของใครหลายคน และในปีนี้ เทศกาลอาหารระดับโลกได้วนกลับมาอีกครั้ง ให้คุณได้ลิ้มลองอาหารและไวน์ที่ดีที่สุด จากเหล่าสุดยอด เชฟมิชลินสตาร์ และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก ที่พร้อมจะเสิร์ฟความลักชัวรี่ให้คุณ ทั้งเมนูชั้นเลิศ และไวน์ชั้นเยี่ยมพิเศษกว่าใคร! กับ World Gourmet Festival 22 งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 22

สุดยอดเชฟจากทั่วโลก
World Gourmet Festival 22 นี้ถูกจัดขึ้นที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ตั้งแต่วันอังคารที่ 6 กันยายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565 โดยมีเชฟที่ถูกรับเชิญมาอย่างเอ็กซ์คลูซีฟถึง 9 ท่าน บินตรงมาจาก 5 ประเทศทั่วโลก และรวมไปถึงสุดยอดเชฟจากประเทศไทยเองด้วย ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม ซึ่งเชฟแต่ละท่านก็มาพร้อมกับเมนูสุดตื่นเต้น ที่ HELLO! ขอรับประกันคุณภาพและความอร่อย!
เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast)


ในปี 2002 – 2018 เชฟปีเตอร์ได้เปิดร้านอาหารของตัวเอง ชื่อ ‘t Schulten Hues เมือง Zutphen ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเมนูจะมีส่วนประกอบของพืชสมุนไพรและดอกไม้ที่เขาปลูกเอง โดยใช้เวลาไม่ถึงสองปีก็ได้รับรางวัลดาวมิชลินครั้งแรก เมื่อเขามีอายุเพียง 25 ปี หลังจากนั้นเชฟปีเตอร์และภรรยาได้ย้ายไปที่เมืองอัมสเตอร์ดัม และเปิดร้านอาหาร Graphite ซึ่งได้รับรางวัลดาวมิชลินอีกครั้ง
เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini)


เชฟดาวิด เป็นเจ้าของร้านอาหาร Materior ในเมือง Cernobbio ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับความสนใจที่สุดในอิตาลี และได้รับเลือกอยู่ใน “50 Best Discovery” โดย “World’s 50 Best” หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำอาหาร เชฟดาวิด ได้ทำงานในร้านอาหารที่ดีที่สุดของยุโรป อาทิ ร้าน Maze ของ เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay), ร้าน Le Gavroche และ Apsleys ในเมืองลอนดอน และร้าน Noma ในเมืองโคเปนเฮเกน เชฟดาวิดยังได้รับรางวัลเชฟรุ่นใหม่ยอดเยี่ยมประจำปี ค.ศ. 2018 (Best Italian Young Chef 2018) โดยได้การยอมรับจาก L’Espresso ไกด์บุ๊คแนะนำอาหารอิตาเลียนชื่อดัง และคู่มือแนะนำร้านอาหาร ในมิชลินไกด์ 2018 อีกด้วย
เชฟอเมริโก้ เซสทิ (Amerigo Sesti)


เชฟอเมริโก้ ถือสัญชาติอิตาลีโดยกำเนิด ได้เข้าทำงานกับร้านอาหารระดับมิชลินหลายร้านในยุโรปเพื่อพัฒนาความเป็นเลิศในด้านการทำอาหารของตัวเอง ตั้งแต่จบการศึกษาในสาขาวิชาอาหารและการท่องเที่ยวจาก Lycée d’Hotellerie de Gascogne รวมถึงการเข้าศึกษาใน Catering School of San Pellegrino เขาได้โอกาสในการทำงานกับเชฟของห้องอาหารที่มีชื่อเสียงต่างๆ รวมถึง เชฟ Alain and Michel Roux และ Patrick O’Connell ก่อนที่จะย้ายมาที่ประเทศไทย เขาได้พัฒนาความสามารถของเขาโดยเข้าทำงานที่ Jean-Michel Lorain’s Côte Saint Jacques ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับมิชลินสตาร์ และได้รับการฝึกสอนจาก Jean-Michel โดยตรง
เชฟนิโคลัส อิสนาร์ด(Nicolas Isnard)


เชฟนิโคลัส เกิดในปี ค.ศ. 1977 ได้เริ่มต้นเรียนรู้การทำอาหารกับร้านอาหารต่างๆ ที่ได้รับรางวัลการันตีมิชลินสตาร์ระดับ 1 จนถึง 3 ดาว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เขาได้เรียนรู้ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงการรังสรรค์อาหารระดับลักซ์ชัวรี่ จนได้รับตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวที่ร้านอาหาร Auberge du Vieux Puits ในวัยเพียง 25 ปี ในปี 2000 เขาได้เป็นทหารรับใช้ชาติ โดยการทำหน้าที่พ่อครัวในทำเนียบมาตีญง ซึ่งเป็นประสบการณ์ 10 เดือนที่น่าจดจำในทำเนียบรัฐบาลฝรั่งเศส และต่อมาเขาได้รับรางวัล “Young Talent” จาก Gault & Millau Guide ในวัย 27 ปี
เชฟชุดารี เทพาคำ (เชฟตาม)


เชฟชุดารี เทพาคำ (เชฟตาม) ท็อปเชฟไทยแลนด์คนแรกของประเทศไทยในวัย 29 ปี ก่อนลงแข่งขันในรายการนี้ เชฟตามจบการศึกษาจาก The International Culinary Center ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมประสบการณ์จากการทำงานในร้านอาหารชื่อดังในมหานครนิวยอร์ก ร้านบลู ฮิลล์ แอท สโตน บาร์นส์ (Blue Hill at Stone Barns) ของเชฟ แดน บาร์เบอร์ (Dan Barber) ทำให้เชฟตามหลงใหลในการทำฟาร์มและการเกษตรแบบยั่งยืน และยังเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งวัตถุดิบในท้องถิ่นต่างๆ นำมาทำอาหารเพื่อยกระดับวัตถุดิบการทำอาหารของไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
เชฟสุธากร สุวรรณโชติ (เชฟเป่า)


เชฟสุธากร สุวรรณโชติ (เชฟเป่า) เคยเข้าแข่งขันในรายการ MasterChef Thailand และติด 1 ใน 10 ผู้เข้าแข่งขันรายการ “TOP CHEF THAILAND ขนมหวาน” เชฟเป่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและขนมหวาน เป็นที่ปรึกษาให้ร้านอาหารและโรงแรม ฟู้ดสไตลิสต์ และยังเป็นผู้ออกแบบมื้ออาหารทั้งในและนอกประเทศมาแล้วมากมาย
เชฟคริสเตียน มาร์เทนา (Christian Martena)


เชฟคริสเตียน มาร์เทนา ชาวอิตาเลียน เปิดร้านอาหารอิตาเลียนสมัยใหม่ ในซอยเย็นอากาศ กรุงเทพฯ จุดเด่นของร้านจะอยู่ที่การให้ความสำคัญของรสชาติของวัตถุดิบในการทำอาหาร ซึ่งหาได้ในท้องถิ่น และบรรยากาศของร้านที่เป็นกันเองพร้อมการต้อนรับดูแลอย่างอบอุ่น
เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi)


เชฟซูจิโอะชาวญี่ปุ่น เปิดร้านอาหาร Botanique ในเมืองปารีส ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากร้านอาหารที่ดีที่สุดในฝรั่งเศส เชฟได้ใส่จิตวิญญาณของการทำอาหารจากแคว้นลียง ทำให้เชฟท่านอื่นได้เห็นวิธีการทำอาหาร ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของเขา
เชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark)


เชฟแคลร์ คลาร์ก ถือเป็นหนึ่งในเชฟขนมที่ดีที่สุดในโลก ได้รับรางวัล British Empire Award และ Best Pastry Chef จากนิตยสาร Restaurant และ MOGB – Meilleur Ouvrier de Grande Bretagne ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจร้าน Pretty Sweet ซึ่งถือว่าสภาสามัญแห่งรัฐสภาสหราชอาณาจักร ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของเธอ เธอเคยสอนที่สถาบันสอนทำอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ และทำงานที่ The French Laundry ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว
ตารางของเทศกาล World Gourmet Festival 22
ภายในงานเหล่าเชฟจะมารังสรรค์อาหารในวันและเวลาที่แตกต่างกันไป โดยในบางวันก็จะมาร่วมมือกันเพื่อสร้างมื้อสุดวิเศษให้กับคุณด้วย

การรวมตัวกันของ 5 เชฟชื่อดัง
ความพิเศษของงานเปิดเทศกาลเวิลด์ กูร์เมต์ ในปีนี้ คือการร่วมมือของเหล่าเชฟมากฝีมือที่จะมารังสรรค์เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 5 คอร์ส จากเชฟจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi), เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast), เชฟนิโคลัส อิสนาร์ด (Nicolas Isnard), เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini) และเชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) โดยแต่ละท่านก็จะรับผิดชอบอาหารแต่ละคอร์ส โดยสุทธิอยู่ในราคา 8,500++ รวมไวน์แพริ่ง ในงานกาลาดินเนอร์ วันที่ 6 กันยายน 2565 ณ ห้องบอลรูม
มาสเตอร์คลาสจากเชฟมิชลินสตาร์
ความเอ็กซ์คลูซีฟที่สองคือกิจกรรมมาสเตอร์คลาสที่ถูกจัดขึ้น ที่ท่านจะได้ลิ้มรสชาติอาหารจานพิเศษระดับมิชลินสตาร์ ซึ่งเชฟรับเชิญจะมาเผยเทคนิคพร้อมสาธิตการทำอาหารอย่างใกล้ชิด พบกับเชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) ผู้มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในเพสทรีเชฟที่ดีที่สุดในโลก จากร้าน Pretty Sweet ในเมืองลอนดอน สหราชอาณาจักร และ เชฟสุธากร สุวรรณโชติ (เชฟเป่า) จาก Chocolatier Boutique Café กรุงเทพฯ จะมารังสรรค์ขนมหวานเสิร์ฟพร้อมกับน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ ตลอดเทศกาล ณ บริเวณล็อบบี้
ตารางของเชฟ ณ ห้องอาหารต่างๆ
ห้องอาหารกิลตี้ วันที่ 8-10 กันยายน สัมผัสรสชาติอาหารจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ เชฟปีเตอร์ แกสต์ (Peter Gast) ที่จะดูแลมื้ออาหารค่ำสุดพิเศษตลอด 3 วัน
ห้องอาหารบิสก็อตติ พบกับเชฟคริสเตียน มาร์เทนา (Christian Martena) จากห้องอาหาร Clara กรุงเทพฯ ซึ่งจะดูแลมื้อค่ำในวันที่ 7-8 กันยายน ส่วนในวันที่ 9-10 จะได้ชิมมื้อค่ำฝีมือของ เชฟดาวิด คารันจีนี (Davide Caranchini) ซึ่งได้รับรางวัลเป็นสุดยอดเชฟอิตาเลียนหนุ่มแห่งปี 2018 โดย L’Espresso Restaurant Guide อิตาลี นอกจากจะนำพาให้ ห้องอาหาร Materia ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์แล้ว ยังติดในลิสต์หนึ่งใน 50 ห้องอาหารที่ดีที่สุดในโลก อีกด้วย (‘50 Best Discovery’ collection by the World’s 50 Best)
ห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์ มื้อค่ำวันที่ 7-8 กันยายน พบกับเชฟมิชลินสตาร์ นิโคลัส อิสนาร์ด (Nicolas Isnard) ที่มีความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารฝรั่งเศสและยังได้รับรางวัล “Young Talent” โดย Gault & Millau Guide จากนั้นในวันที่ 9-10 กันยายน พบกับเชฟอเมริโก้ เซสทิ (Amerigo Sesti) จากห้องอาหาร แแฌม บายฌองมิเชล โลรองต์ กรุงเทพฯ (J’AIME by Jean-Michel Lorain) มิชลินสตาร์ 1 ดาวในกรุงเทพ
ห้องอาหารชินทาโร่ วันที่ 8-10 กันยายน ผู้ชื่นชอบอาหารฝรั่งเศส ห้ามพลาดการผสมผสานรสชาติอาหารที่ลงตัวโดยเชฟชาวญี่ปุ่น เชฟซูจิโอะ ยามากูจิ (Sugio Yamaguchi) ผู้หลงใหลการทำอาหารฝรั่งเศสและได้เปิดห้องอาหาร Botanique ในฝรั่งเศส ส่วน ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ต เชิญคุณลิ้มลองการสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยโดย เชฟชุดารี เทพาคำ (เชฟตาม) ผู้ชนะเลิศการแข่งขันท็อป เชฟ ไทยแลนด์ (Top Chef Thailand) ที่มีอายุน้อยที่สุด ในวันที่ 8-10 กันยายน
ในครั้งนี้ ยังมีกิจกรรมมาสเตอร์คลาส ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ท่านจะได้ลิ้มรสชาติอาหารจานพิเศษระดับมิชลินสตาร์ ซึ่งเชฟรับเชิญจะมาเผยเทคนิคพร้อมสาธิตการทำอาหารอย่างใกล้ชิด พบกับเชฟแคลร์ คลาร์ก (Claire Clark) ผู้มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในเพสทรีเชฟที่ดีที่สุดในโลก จากร้าน Pretty Sweet ในเมืองลอนดอน สหราชอาณาจักร และ เชฟสุธากร สุวรรณโชติ (เชฟเป่า) จาก Chocolatier Boutique Café กรุงเทพฯ จะมารังสรรค์ขนมหวานเสิร์ฟพร้อมกับน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ ตลอดเทศกาล ณ บริเวณล็อบบี้
รายได้จากการจำหน่ายบัตรรับประทานอาหารมื้อค่ำ 600 บาทต่อ 1 ใบ และรายได้ทั้งหมดจากการประมูลของรางวัลจะนำไปร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิอนุเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ต่อไป
งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 22 ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจาก ธนาคารซิตี้แบงก์ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้ง ผู้ให้การสนับสนุนสื่อโมษณาประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการจาก นิตยสาร Prestige และนิตยสาร HELLO!
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งงานเทศกาลอาหารและไวน์ชั้นเลิศครั้งที่ 22 ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ โทร. 0 2126 8866 หรือ เว็บไซต์ www.worldgourmetfestival.asia