Home > Lifestyle > พาชมห้องดินเนอร์สุดหรูของ ‘เอ-ดนัย สรไกรกิติกูล’ ที่เต็มไปด้วยดีเทล และจะเปิดต้อนรับแขกสำคัญเพียงปีละครั้ง

ทุกวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี ห้องดินเนอร์สำหรับ 22 ที่นั่งของ เอ-ดนัย สรไกรกิติกูล แห่ง ALIST จะคอยต้อนรับแขกคนสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญว่า ปาร์ตี้บ้านสรไกรกิติกูล เป็นปาร์ตี้ที่สร้างโมเมนต์ความสุข โดนใจผู้มาเยือน และวันนี้ก็ถึงคราวที่ HELLO! ได้มีโอกาสพามาเปิดห้องดินเนอร์สุดหรู หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า ห้องนก อูดูบอง (Audubon’s Bird of America) กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องนก อูดูบอง จะพบกับโต๊ะดินเนอร์ขนาด 22 ที่นั่ง ละลานตาด้วยภาพนกนานาพันธุ์ที่มีหลากหลายขนาดประดับเต็มผนัง และที่ดึงดูดสายตาไม่แพ้กันคือ เซ็ตจาน ที่ถูกจัดวางสลับสีและลวดลายอย่างประณีต เสมือนงานศิลปะชิ้นเอก

คุณเอเล่าย้อนความหลังกว่าจะเป็นห้องดินเนอร์ห้องนี้ว่า “ด้วยความชอบสไตล์การแต่งบ้านแบบมีดีเทล บ้านหลังนี้ของแต่งบ้านทุกชิ้นจะมีดีเทล ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน มีตั้งแต่อายุเกือบร้อยปี บางชิ้นเราเห็นมาตั้งแต่เราเกิด ก็นำมาใช้ตกแต่งใหม่ มีทั้งวินเทจและโมเดิร์นผสมผสานกันไป”

“อย่างภาพนกที่ประดับอยู่ในห้องนี้ เป็นซีรีส์ภาพจาก หนังสือ เบิร์ด ออฟ อเมริกา (Birds of America) เป็นหนึ่งในหนังสือที่ขึ้นชื่อว่าแพงที่สุดอีกเล่มหนึ่งของโลกถ้าครบทุกรูป เพราะเป็นหนังสือพร้อมภาพวาดและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนก เป็นผลงาน มร.จอห์น เจมส์ อูดูบอง นักธรรมชาติวิทยาและจิตรกร ที่ได้วาดภาพนกขนาดเท่าของจริงจากป่าในสหรัฐอเมริกา จำนวน 489 ชนิด ซึ่งภาพแรกที่ผมได้มาคือ ภาพนกฟลามิงโก้ ซื้อที่อังกฤษ แต่ที่อยู่ในห้องนี้ส่วนใหญ่เป็น Amsterdam Edition 1971″

“พอย้ายบ้านมาหลังนี้ก็มองหา Object ไอเดียแรกเลยคือ จะติดภาพขนาดใหญ่ 2 ภาพ หรือ จะติดวอลล์เปเปอร์ แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่เราชอบเลยเกิดไอเดียนำภาพนกฟลามิงโก้มาแต่งผนัง และช่วงนั้นบริษัท Theatrum Orbis Terrarum ในอัมสเตอร์ดัม ร่วมกับบริษัท Johnson Reprint Corporation ในนิวยอร์ก นำภาพ Birds of America กลับมาตีพิมพ์ใหม่ โดยได้รับอนุญาตจากทายาทอูดูบอง เรียกว่าเป็น Amsterdam Edition คุณภาพการพิมพ์ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น จึงเป็นที่มาของการเริ่มสะสมภาพเซ็ต Birds of America – Amsterdam Edition จนครบ และนำมาประดับห้องดินเนอร์”

นอกจากบรรยากาศการตกแต่งห้องที่หรูหราสไตล์ เอ ดนัย แล้ว แอ็กเซสซอรี่ส์บนโต๊ะอาหารก็ช่วยเพิ่มความตื่นตาให้กับแขกผู้มาเยือนไม่น้อย ซึ่งคุณเอเล่าว่า เซ็ตจานที่เห็นอยู่บนโต๊ะนี้ เป็นของ แบรนด์ Ginori 1735 อันเป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี่เครื่องเคลือบพอร์ซเลนเก่าแก่กว่า 287 ปี จากประเทศอิตาลี

“ด้วยความที่ตัวเองชอบอะไรที่มีดีเทล พอได้เห็นเครื่องเคลือบพอร์ซเลน Ginori 1735 ที่เมือง Florence ตอนนั้นปี 2014 จำความรู้สึกได้เลยว่า จานอะไรทำไมสวย ช็อปก็แต่งได้เก๋มาก เหมือนเดินเข้าไปในอีกโลกหนึ่งเลย แต่ก็ไม่ได้ซื้อกลับมาเพราะติดที่ต้องเดินทางไปหลายเมือง”

“หลังจากนั้น 6 ปีกลับมาเจอแบรนด์นี้อีกครั้งที่มิลาน ก็คิดแล้วว่าต้องเอากลับไทยให้ได้ จึงเริ่มซื้อคอลเล็กชั่นตลอดกาล Oriente Italiano ชอบความคลาสสิกของลายที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมตะวันออกสไตล์จีน มาผสานกับอัตลักษณ์เครื่องลายครามจากอิตาลี และมีสีให้เลือก 10 เฉดสี เวลาเอามาแมตช์สีแต่ละสีสลับกันยิ่งสวย กลายเป็นยิ่งสะสมยิ่งสนุกกับการจัดโต๊ะปาร์ตี้”

และล่าสุดก็มีคอลเล็กชัน Il Viaggio di Nettuno ซึ่งร่วมกับ Luke Edward Hall ศิลปินชาวอังกฤษที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล ได้รับฉายาว่าอัจฉริยะแห่งโลกการออกแบบภายใน มาดีไซน์ลวดลาย เนปจูน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลของโรมัน และ ซาราเซีย เทพีแห่งน้ำทะเล ภรรยาของเนปจูน

เซ็ตนี้คุณเอบอกว่า ไว้ใช้สำหรับใส่อาหารทะเล จะยิ่งเพิ่มอรรถรสให้กับมื้ออาหาร เพราะอาหารอร่อย จานสวย มีเรื่องราว ยิ่งเพิ่มฟิลลิ่งให้สนุกกับปาร์ตี้มากยิ่งขึ้น

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องทานข้าวและปาร์ตี้ให้เต็มไปด้วยรสนิยมมากยิ่งขึ้นแบบ ‘เอ-ดนัย สรไกรกิติกูล’ สามารถเลือกใช้เครื่องเคลือบพอร์ซเลน Ginori 1735 แบรนด์ลักซ์ชัวรี่จากอิตาลี โดยเลือกชมได้ที่ MOTIF ชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 02-261-9115 #526

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.