ทิ้งท้ายปี 2020 กับเรื่องราวสุดประทับใจที่ Deva Manor ผู้พันแซม บูรณะวังเทเวศร์ มากว่า 10 ปี ให้กลับมาเหมือนพระตำหนักเมื่อ 124 ปีที่แล้ว เพื่อถวายเป็นพระเกียรติให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ผู้เป็นเจ้าของพระตำหนักใหญ่ในสมัยนั้น

ด้วยความปราถนาของ “ผู้พันแซม หรือพันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา” ทายาทพระยาอนิรุทธเทวา ที่ต้องการจะทำให้วังเทเวศร์ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “Bring back to life” โดยเปิดให้ชมแล้ววันนี้ที่ Deva Manor ซึ่งล่าสุดได้จัดงานฉลองคริสมาสต์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวังเทเวศร์ตั้งแต่ พ.ศ. 2439 จนถึงปัจุบัน
Deva Manor – Christmas Celebration

โดยชื่องาน “กาลเวลา” เป็นการรังสรรค์เมนูอาหารมาเป็น 6 คอร์สเมนู สื่อสารเรื่องราวของวังเทเวศร์ให้แขกได้เข้าใจถึงประวัติศาตร์ความเป็นมา แน่นอนว่ามีแขกมากหน้าหลายตาได้มาสัมผัสประสบการณ์อันแสนล้ำค่านี้ โดยมี ‘คุณกฤษฎา จีนะวิจารณะ’ ปลัดกระทรวงการคลัง มาร่วมงานนี้อีกด้วยจัดงานฉลองคริสมาสต์

ก่อนเริ่มงานแขกทุกๆ ท่านจะได้เดินชมความงดงามของบ้านเทเวศร์ในรูปแบบใหม่ โดยในแต่ละห้องจะยังคงเก็บของใช้สมัยก่อนไว้ครบทุกชิ้น ภายในห้องรับแขกชั้นบน ห้องตกแต่งไปด้วยสีชมพู ไม่ว่าจะเป็น Wallpaper ไปจนถึงชุดจานชามสมัยก่อน โดยเป็นสีที่ท่านโปรดปรานมาก

ห้องอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้แขก ที่มีความหรูหรา และยังคงใช้ของตกแต่งในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นไม้สักทองที่นำไปขัดและทาสีใหม่ เสิร์ฟอาหารแบบจัดเต็มครบ 6 คอร์สเมนู พร้อมเรื่องราวจานต่อจาน โดยเรียงลำดับดังนี้ กาลเวลา แรกพบ นิมิต รอคอย คำนึงถึง และพบรัก โดยเชฟผึ้ง จาก Le Lapin Bangkok ผู้รังสรรค์เมนูในครั้งนี้
กาลเวลา: Truffle Choux

เริ่มกันที่อาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยกับ กล่องปริศนา ที่เมื่อเปิดออกจะมีละอองควันฟุ้งออกมา ภายในกล่องจะมี Truffle Choux วางอยู่ ไส้ที่ทะลักออกมาด้วยเห็ดทรัฟเฟิล พร้อมแป้งบางนุ่มห่อหุ้มอยู่ เป็นการเป็นคอร์สอาหารได้อย่างลงตัวมาก
รอคอย: Cold Soba with Seared Foie Gras

เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำหรับค่ำคืนนี้กับจาน “รอคอย” ที่เชฟผึ้ง ได้รังสรรค์ออกมาได้อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นการนำลายฉลุบนฝาผนังและกระจกส่องมาเป็นต้นแบบของอาหารจานนี้ สวยละสมบูรณ์มากๆ เนื้อ Foie Gras ที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศส ทอดออกมาได้อย่างละมุนมากๆ
พบรัก: Ispahan Rose

ปิดท้ายที่ขนมหวานสุดพิเศษ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขวดน้ำหอมสีทอง สามารถนำมาฉีดใส่ตัว Raspberry Mouse ได้เลย มีกลิ่นหอมหวานปนเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นการปิดท้ายค่ำคืนอันแสนประทับใจ เหมือนได้ซึมซับประวัติศาสตร์ระหว่างทานอาหารจริงๆ

และต้องขอชื่นชม ‘คุณพีช-ภาคิน’ The Voice Thailand ที่มาคอยสร้างบรรยากาศให้ร่วมสมัย โดยการนำเพลงย้อนยุคที่คุ้นหูกันดี มาขับร้องระหว่างการรับประทานอาหารทั้ง 6 คอร์สเมนู ประทับใจในเสียงที่ทรงพลัง และความหมายของเพลงแต่ละเพลงที่เลือกมามากๆ เลย