ทายาทตระกูลดัง ‘ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์’ ผู้สร้าง MARQUE SUKHUMVIT ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่
ทายาทตระกูลดังรุ่น 2 ‘ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์’ นักธุรกิจเบอร์ต้นๆ ในแวดวงเรียลเอสเตทของเมืองไทย หลังถูกเรียกตัวกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัวนั้น ประสบการณ์ได้ถูกสั่งสมและตกผลึกจนได้สร้างความสำเร็จในหลายๆโครงการ รวมไปถึงโครงการล่าสุด MARQUE SUKHUMVIT ที่โดดเด่นงามสง่าและสูงที่สุดบนถนนสุขุมวิท
จากโครงการอกัสตัน สุขุมวิท 22 นับเป็นโครงการแรกที่ คุณบี-ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ ได้เข้ามาทำงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ถึงแม้จะเป็นนักธุรกิจมือใหม่ในตอนนั้นแต่ด้วยความมุ่งมั่นปลุกปั้นจนอกัสตันได้ถูกออกแบบด้านสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใครจนประสบความสำเร็จ และต่อยอดด้วยโครงการอื่นๆเรื่อยมา จนกระทั่งโครงการล่าสุดก็ยังได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะความเป็นที่สุดในทุกนิยามของคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี ณ ทำเลสุดพรีเมียมบนถนนสุขุมวิท
ความสำเร็จในธุรกิจเรียลเอสเตท
เมื่อถูกถามว่าอะไรเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์และเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนต์ ประสบความสำเร็จในทุกโครงการที่สร้างสรรค์ขึ้น คำตอบคือ…เพราะความชัดเจนของคอนเซ็ปต์และคีย์เวิร์ดที่ว่า ต้องเป็นไฮเอนด์คอนโดมิเนียม เป็น high rise และต้องเป็นตลาดพรีเมียม ซึ่งเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนต์ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาบุกตลาดระดับนี้
“เราพยายามคงคอนเซ็ปต์นี้ไว้ ผมโฟกัสกับการทำคอนโดมิเนียมพรีเมียมมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี แต่ถ้าเป็นบริษัทฯ ก็คงเกือบ 20 ปีแล้ว มีบ้างช่วงหลังๆ ที่แตกไลน์ไปทำ office building ทำโรงแรมบ้าง แต่ก่อนหน้าเราขลุกอยู่กับการทำคอนโด ทำให้มีข้อได้เปรียบจากคู่แข่งรายอื่นๆ คือรู้จริง รู้ลึก รู้ถึงโครงสร้าง มีความเข้าใจตลาด และเข้าใจทัศนคติของผู้ซื้อในตลาดระดับนี้”
และถึงแม้จะทุ่มเททำงานเต็มพลังในทุกโครงการของบริษัท แต่ ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ ยังคงสามารถบาลานซ์เวลาทำงานเฉพาะ week day ส่วน weekend จะเป็นวันหยุดพักผ่อนของเขากับครอบครัว
“ตารางชีวิตผมไม่ซับซ้อนครับ จันทร์ถึงศุกร์ต้องเข้าบริษัท หากตารางวันไหนต้องออกไปตรวจไซต์ก็จะไม่ได้เข้าออฟฟิศ ส่วนใหญ่ทุกวันพฤหัสฯ ก็จะเข้ามาตรวจไซต์ก่อสร้างที่ MARQUE นี่แหละครับ สำหรับ weekend จะใช้เวลากลับครอบครัว ผมอยู่กับคุณแม่ก็จะพาท่านไปตีแบดบ้าง ออกกำลังบ้าง และพาไปทานข้าวกับพี่สาวด้วย”
MARQUE SUKHUMVIT แห่งความภาคภูมิใจ
ภายใต้รูปทรง ‘Diamond Shape’ ที่เสมือนเพชรเม็ดงาม ที่โดดเด่นจนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท นับเป็นสถาปัตยกรรมจากแรงบันดาลใจอันทรงคุณค่าระดับเพชร “เป็นความแตกต่างในรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่เราตั้งใจออกแบบให้รูปทรงคล้ายเพชร คล้ายอัญมณี ที่มีทั้งมูลค่าและคุณค่าในตัวเองอย่างเป็นเอกลักษณ์”
สำหรับ MARQUE SUKHUMVIT ยังรวมไว้ซึ่งที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ทั้งโครงการมีเพียง 147 ยูนิต ทำให้ห้องที่พักอาศัยกลายเป็นห้องใหญ่ที่มีความเป็นบ้านได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะห้องเพนท์เฮ้าส์ที่มีอยู่ 7 ยูนิต ณ โซนสูงสุดชั้น 44 – 49 ในขนาดเริ่มต้น 300 ตร.ม. ไปจนถึงราว 600 ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันคุณบีบอกว่าห้องเพนท์เฮ้าส์ได้ขายไปแล้ว 3 ยูนิต จึงมีเหลือพอให้จับจองได้อีกเพียง 4 ยูนิต เท่านั้น
“หากให้เปรียบ MARQUE SUKHUMVIT เป็นคนสักคนหนึ่ง ผมว่า…คาแรกเตอร์เขาจะเป็นผู้ชายครับ อายุประมาณสัก 40 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจ อาจมีครอบครัวแล้ว เพิ่งแต่งงาน มีลูกเล็กๆ สัก 6-7 ขวบ ใช้ชีวิตในแบบที่สามารถบาลานซ์เรื่องงาน ครอบครัว ได้อย่างลงตัว นับเป็นคอนเซ็ปต์ที่เราวางไว้กับโครงการนี้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะมองว่านี่คือ ‘บ้านหลังที่สอง’ ด้วยเป็นห้องขนาดใหญ่ทุกห้อง แต่ละห้องมีพาวเดอร์รูม มีครัวไทย มีครัวโชว์ เป็นอะไรที่เรียกว่าอยู่อาศัยได้จริงๆ”
สร้าง Facilities ที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟกว่าใคร
เมื่อพูดถึง facilities ผู้บริหารแห่ง MARQUE SUKHUMVIT ที่นี่ตอบโจทย์ความเหนือระดับให้แก่ลูกค้าทุกคน “ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ สามารถมีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ถึง 400 เมตร ที่ชั้น ground และชั้น 7 พร้อม club house สระว่ายน้ำ สระน้ำวน จากุชซี ห้องโยคะ ห้องออกกำลังกาย golf Simulator และยังมีสนามสควอชอีกด้วย”
ไม่หมดเพียงเท่านี้…เพราะยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งกว่า บนชั้น 43 Sky Cigar and Wine Bar และ Library ที่สามารถจัดปาร์ตี้ส่วนตัวหรือปาร์ตี้ครอบครัว พร้อมการบริการระดับโรงแรมห้าดาวด้วยบริการ concierge ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านในการจองห้องอาหาร การสั่ง catering ขึ้นมาบริการในชั้น 43 แห่งนี้ รวมไปถึงชั้น 50 ที่ประกอบไปด้วย Outdoor theater สามารถฉายหนังจาก smart phone ขึ้นบนผนังจอ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศบนความสูง 50 ชั้น ท่ามกลางย่านพร้อมพงษ์
…………………………………………………………………………………………
MARGUE SUKHUMVIT / Call center 1266