‘จันทนา สุขุมานนท์-มณี โรจน์กนก-พจนี พะเนียงเวทย์’ กับที่พักซึ่งตอบโจทย์ตรงใจไลฟ์สไตล์คนเมืองของ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
หลักเกณฑ์การเลือกที่พักอาศัยของแต่ละบุคคลนั้นล้วนแตกต่างกันออกไป แต่เมื่อใดที่ได้พบกับสิ่งที่ใช่และตรงกับความต้องการ ก็ทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายเพียงชั่วพริบตา ไม่ต่างจากกลุ่มเพื่อนสาวต่างวัยที่รู้จักคุ้นเคยกันมานับสิบปี อย่าง ‘คุณแมว-จันทนา สุขุมานนท์, คุณติ๋ม-มณี โรจน์กนก และคุณบี–พจนี พะเนียงเวทย์’ ที่พร้อมใจกันเลือกโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นที่พักอาศัยในอนาคต ด้วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองของทั้งสามที่ต้องการเฟ้นหาโครงการซึ่งตั้งอยู่ในโลเคชั่นดีเยี่ยม มาพร้อมบริการอันเป็นที่หนึ่ง ประกอบกับความประทับใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ดุสิตธานีมานานนับทศวรรษเป็นทุนเดิม ทำให้ในวันที่ชวนกันเข้ามาดูโครงการเป็นกลุ่มแรกๆ ทั้งสามตัดสินใจจองในวันเดียวกันนั้นเลย

ต่างเหตุผลแต่ใจตรงกัน
ความที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.รุ่นปี 2552 ประกอบกับเป็นกรรมการฝ่ายกิจกรรมทั้งคู่ ทำให้คุณติ๋ม และคุณบี สนิทสนมกันมานานกว่า 13 ปี เช่นเดียวกับคุณแมว ที่รู้จักคุณติ๋มและคุ้นเคยกับครอบครัวของคุณบีอยู่แล้ว จึงนัดมาชมโครงการพร้อมกัน ด้วยความตั้งใจหาที่พักในอนาคต
“ปัจจุบันตัวเองพักอยู่คอนโดฯอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆห่างจากที่นี่แค่ 500 เมตรเท่านั้น แต่ที่สนใจโครงการนี้เพราะทำเลที่ตั้งซึ่งสะดวกกว่า โจทย์ของดิฉันตั้งแต่แรกคือต้องเป็นเรสซิเดนซ์ที่มีโรงแรม เพราะบางทีเราไม่ได้ทำอาหารเอง ก็สามารถสั่งอาหารมาได้ หรือถ้าอยากมีปาร์ตี้ เขาก็พร้อมจัดให้เราได้” คุณแมว–จันทนา กล่าว

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบด้วยโรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า โดยเชื่อมต่อทุกองค์ประกอบด้วยสวนลอยฟ้า (รูฟพาร์ค) ขนาด 7 ไร่ ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกว่าเป็นซูเปอร์คอร์ซีบีดี หัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 ตรงข้ามกับสวนลุมพินี เป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมระบบรางทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม โดยส่วนอาคารที่พักอาศัยความสูง 69 ชั้น ถูกออกแบบในรูปแบบอัลตร้าลักชัวรี่ ประกอบด้วยแบรนด์ “Dusit Residences” และ “Dusit Parkside” ทุกรายละเอียดของงานดีไซน์สร้างสรรค์ด้วยความประณีตพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความรู้สึกถึง “บ้าน” ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ในฐานะอดีตผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งปูนอินทรี-บริษัทปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันมีความสุขกับชีวิตในวัยเกษียณ ได้วาดภาพ เรียนทำอาหาร ทำขนม ตัดเสื้อ ปักผ้า ในขณะเดียวกันก็ยังสนุกกับการเป็นโค้ชให้ผู้บริหารระดับสูง ทำให้วิถีชีวิตของคุณจันทนาต้องการความคล่องตัว การมีที่พักใจกลางเมืองจึงเป็นคำตอบที่เธอต้องการ “จุดเด่นที่สำคัญของโครงการนี้ก็คือที่ตั้งซึ่งไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก ทั้งห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า หรือแม้แต่สวนลุมพินีก็สามารถเดินไปได้ในระยะ Walking Distance คิดเผื่อไว้ว่าถ้าวันหนึ่งเราอายุมากกว่านี้ อยู่ที่นี่จะสะดวกกว่า” คุณจันทนากล่าว

ในขณะที่คุณติ๋ม – มณี กรรมการผู้จัดการบริษัท เออีเอส กรุ๊ป จำกัด เจ้าของธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยระดับประเทศ เล่าว่า “ส่วนตัวทราบเกี่ยวกับโครงการนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัว พอ Sale Gallery เปิดจึงนัดเพื่อนๆให้มาดูกัน วันที่มายังคุยเล่นว่า อีกหน่อยพอพวกเราอายุมากขึ้นกว่านี้ก็มาอยู่ที่เดียวกัน คงรู้สึกอุ่นใจดี ที่สำคัญที่นี่ยังใกล้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ อยู่ตรงข้ามกับสวนลุมพินี สามารถข้ามไปเดินออกกำลังกายได้” ปัจจุบันที่พักของคุณมณีคือชั้นเพ้นท์เฮ้าส์ของอพาร์ตเม้นต์ส่วนตัวซึ่งเธอพักอยู่กับลูกสาว แต่เธอคิดว่าหากในอนาคตลูกสาวแต่งงานมีครอบครัว เธอเองก็น่าจะมองหาที่พักสำหรับตนเองไว้อีกแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ชื่นชอบการอยู่คอนโดมิเนียมมากกว่าบ้าน ประกอบกับเป็นสายออกกำลังกาย ที่ดูแลสุขภาพตนเองเสมอ การได้อยู่ใกล้พื้นที่ออกกำลังกายสีเขียวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะเจาะพอดี

ส่วนคุณบี – พจนี รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) นั้นเป็นน้องเล็กในกลุ่ม เธอเป็นสาวสายกิจกรรมที่หากมีวันว่างจะหาเวลาไปดำน้ำ หรือเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านปากช่องเพื่อใช้เวลาอยู่กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ร่วม 30 ตัว คุณพจนีมาชมโครงการตามคำชักชวนของรุ่นพี่ ก่อนจะตกลงใจขอมาเป็นลูกบ้านด้วยอีกคน “วันนั้นพวกพี่ๆชวนกันมาดู แต่ไม่ได้บอกว่าจะซื้อเลย ปรากฏพอดูเสร็จ พี่ๆก็บอกว่าเซ็นต์จองเลยบี รู้ตัวอีกทีก็เซ็นต์ชื่อเรียบร้อย (หัวเราะ)” ผู้บริหารบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่ากล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนเสริมว่า “สำหรับบี สิ่งหนึ่งที่ชอบและทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นคือความเป็นดุสิตธานี สมัยก่อนเวลาเพื่อนคุณพ่อ (คุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์) มาจากเมืองนอก จะระบุมาเลยว่าต้องอยู่โรงแรมดุสิตธานีเท่านั้น บีก็คิดว่าอีกหน่อยถ้าโรงแรมกลับมาเปิดอีกครั้ง คอนโดฯสร้างเสร็จ เวลาเพื่อนๆคุณพ่อมาท่านก็นัดเพื่อนมาเจอที่เรสซิเดนท์ได้ อีกอย่างเราไม่มีที่พักในเมือง ถ้ามีบ้านอยู่ตรงนี้ก็น่าจะสะดวกกว่า เดินทางมาง่ายและมั่นใจว่าขับรถมาเองไม่หลงแน่ๆ ข้อสำคัญการมีคอนโดฯที่มีวิวสวนลุมฯ คือเรารู้ว่าไม่ว่าจะอีกกี่ปี จะไม่มีตึกไหนมาสร้างบังวิวเราแน่นๆ และเรายังมีสวนสวยๆที่ไม่ต้องดูแลเอง มันเป็นอะไรที่สุดยอดที่สุดแล้ว”
ตอบโจทย์ที่บริการระดับห้าดาว
เมื่อตั้งใจจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน ทั้งสามจึงเลือกห้องที่อยู่ในแนวลิฟท์ล็อบบี้ส่วนตัวแนวเดียวกันเพื่อให้ไปมาหาสู่กันง่าย ในขณะเดียวกันยังชักชวนเพื่อนสาวคนอื่นๆมาจองตามด้วย “พวกเราเลือกยูนิตลักษณะเดียวกันคือห้อง 2 ห้องนอน ซึ่งขนาดกำลังดี วิวจากห้องที่อยู่ตรงกลางอาคารเปิดให้เห็นสวนลุมฯชัดเจน” คุณมณีกล่าว และด้วยความที่ไม่ชอบอยู่บนชั้นที่สูงมากนัก ทั้งสามท่านจึงเลือก Dusit Parkside ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชั้น 9-29 มีจำนวนรวม 246 ยูนิต แต่ละยูนิตมีพื้นที่ 55-115 ตารางเมตร ในขณะที่ Dusit Residences ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 30-69 มีจำนวน 160 ยูนิต พื้นที่ตั้งแต่ 117-700 ตารางเมตร
พื้นที่ส่วนกลางที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันครบครันสำหรับการพักผ่อนและสันทนาการแบบเป็นส่วนตัว เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้การอยู่อาศัยน่ารื่นรมย์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้และเจ็ทพูล ห้องอาบน้ำและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ห้องอบไอน้ำ ห้องซาวน่า ห้องออกกำลังกาย (Fitness Centre) ห้องโยคะ สกายเลาจน์ พร้อมห้องรับประทานอาหารเป็นส่วนตัว รวมพื้นที่อำนวยความสะดวกทั้งหมดกว่า 6,500 ตารางเมตร
“เรานัดกันไว้แล้วว่าจะมาบาร์บีคิวปาร์ตี้กัน เชิญเชฟมาคุ้กได้ตรงพื้นที่จัดเลี้ยงส่วนกลาง” คุณพจนีกล่าว
“พื้นที่ส่วนกลางที่มีหลากหลายจุด ช่วยให้เราเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่นได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เราสามารถใช้จัดเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ ยิ่งทำให้สะดวก” คุณจันทนาช่วยเสริม

ความประทับใจกับบริการระดับห้าดาวที่โครงการมอบให้ ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเลือกพักอาศัยที่นี่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น “ชอบที่โครงการใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกสัปดาห์จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้สองครั้ง และทุกเดือนจะมีแม่บ้านมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เราสองครั้ง” คุณมณีกล่าว ก่อนคุณจันทนาช่วยเสริมว่า “ทั้งหมดเป็นบริการที่รวมมาในค่าส่วนกลาง ซึ่งถือว่าดีเพราะปกติเราต้องจ้างแม่บ้านแบบไปกลับมาทำความสะอาดอยู่แล้ว”
ข้อคิดเรื่องการลงทุน
โครงการที่อยู่อาศัยของดุสิต เซ็นทรัล พาร์คนั้น เป็นการเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว หรือ Leasehold รวม 58 ปี หากมองในแง่ของการลงทุน หลายคนอาจยังมีความกังวลว่าจะคุ้มค่าเช่นเดียวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบ Freehold ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตลอดไปหรือไม่ ในฐานะที่ทั้งสามท่านล้วนคร่ำหวอดในเชิงธุรกิจและการลงทุน ทั้งคุณจันทนา คุณมณี และคุณพจนี ล้วนให้ทัศนะที่ตรงกันว่า ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่าหนึ่งชั่วอายุคน ความกังวลในแง่ของความคุ้มค่ากับราคาที่เสียไปนั้น ไม่ใช่ประเด็นที่พวกเธอนำมาตัดสินใจเลือกที่พักที่ถูกใจครั้งนี้เลย
“ต้องบอกว่าหากเป็นคอนโดมิเนียมระดับนี้ โลเคชั่นแบบนี้ที่เป็น Freehold ราคาจะสูงกว่าแบบ Leasehold มาก และสำหรับระยะเวลา 58 ปี หากมองในเรื่องมรดกตกทอด ตอนนี้ลูกสาวอายุเกือบ 30 ปีแล้ว แสดงว่าเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ถึงจนถึงอายุ 90 ซึ่งนับว่ามากเพียงพอแล้ว และในอนาคตเขาจะเลือกเก็บไว้หรือขายไปก็ยังได้ ส่วนตัวจึงมองว่านี่ถือเป็น Good Investment ด้วยซ้ำ” คุณมณีกล่าว
“คนไทยส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นเคยกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น Leasehold แต่ในต่างประเทศนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เช่นในอังกฤษ พื้นที่ส่วนใหญ่รัฐบาลเป็นเจ้าของ และปล่อยเช่านาน 99 ปี ดังนั้นเวลาซื้ออสังหาริมทรัพย์คนส่วนใหญ่เขาไม่แคร์ว่าจะต้องเป็นมรดกให้ลูกหลานหรือไม่ ในทางกลับกันหากมองในแง่ของการลงทุน อสังหาฯที่เป็น Leasehold นั้นเหมาะจะให้เช่า เนื่องจากหากดูในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า แต่โดยส่วนตัวตั้งใจซื้อไว้อยู่เองจึงไม่ได้มองเรื่องการลงทุน”

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เกิดขึ้นจากความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและเซ็นทรัลพัฒนา ภายใต้บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ในส่วนของที่พักอาศัยทางโครงการได้เลือกเฟ้นบริษัทที่มีคุณภาพและศักยภาพในการทำงาน ทั้งด้านการออกแบบโครงสร้างภายนอก งานใต้ดิน งานก่อสร้าง จึงมั่นใจว่าทุกอาคารในโครงการมีคุณภาพสูง แข็งแรง และผู้พักอาศัยทุกคนได้รับความสะดวกสบายสูงสุด
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่างและจองยูนิตได้ที่สำนักงานขายโครงการดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์ บริเวณหัวมุมถนนสีลม – พระราม 4 โดยนัดหมายล่วงหน้าที่เบอร์ติดต่อ 02-233-5889 อีเมลล์: enquiry@dusitresidences.com และช่องทางโซเชียลมีเดีย www.facebook.com/dusitcentral, www.instagram/dusitcentralpark
นอกจากนี้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ www.dusitresidences.com