Home > Lifestyle > Home & Living > เยี่ยมเยียนเพนต์เฮาส์หลังใหม่ โอเอซิสแห่งความสุข ‘ฤาชุตา บุญสูง’

ท่ามกลางความร้อนระอุของกรุงเทพฯ ในคิมหันตฤดู ทว่าอากาศใน ‘เพนต์เฮาส์’ นี้กลับเย็นสบาย สุภาพสตรีในเดรสผ้าพลิ้วสีสดเดินมาต้อนรับเราที่หน้าประตู ฤาชุตา บุญสูง หรือ ‘คุณแอ๋’ เชื้อเชิญเราเข้าสู่อาณาจักรส่วนตัวของเธอและ คุณเอก-วัฒนชัย อนุรัฐพันธ์ ผู้เป็นสามี ผ่านโถงทางเดินบุผนังด้วยวอลล์เปเปอร์สีเขียวมะกอก พร้อมภาพวาดรูปผู้หญิงขนาดเล็กใหญ่ในกรอบไม้แบบเรียบและไม้แกะสลักลวดลายแขวนลดหลั่นกัน สุดทางเดินวางตู้ Fornasetti สีขาวลายพรินต์สีดำ บนหลังตู้วางของแต่งบ้านเซรามิกที่ซื้อจากต่างประเทศและภาพถ่ายรวมทั้งภาพเหมือนคุณแอ๋เมื่อยังเยาว์วัย ผลงานของ อาจารย์ จักรพันธุ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ

เพนต์เฮาส์ ฤาชุตา บุญสูง
คุณแอ๋ ในเดรสผ้าพลิ้วสีสด และ ‘น้องเส้นหมี่’ ต้อนรับ HELLO! สู่ เพนต์เฮาส์ แห่งใหม่

ด้านข้างเป็นผนังกระจกที่มองเห็นสระน้ำขนาดเล็ก และวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูง ซึ่งพอตกดึกจะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากทะเลตึกระฟ้า เมื่อเดินลึกเข้าไปก็จะพบกับครัวขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่คุณแอ๋มักจะปรุงอาหารเลี้ยงเพื่อนฝูงที่นี่ บนโต๊ะรับประทานอาหารตัวยาวดูสดใสด้วยดอกเยอบีร่าสีชมพูอ่อนไฮเดรนเยียสีม่วงอ่อน และไม้แซมที่เราไม่ทราบชื่อ ที่คุณแอ๋บรรจงจัดด้วยตัวเอง กับภาชนะเครื่องเคลือบพอร์ซเลนสไตล์ชินัวส์ของ Ginori 1735 ซึ่งคุณแอ๋ชื่นชอบ

โต๊ะอาหารและมุมทีวีถูกคั่นกลางด้วยโซฟาตัวใหญ่ จากตรงนี้มองเห็นภาพเหมือนคุณปู่ (จุติ บุญสูง) ฝีมือจักรพันธุ์ โปษยกฤต ฝั่งตรงข้ามเป็นภาพเหมือนคุณย่า (ภุชงค์ บุญสูง) คุณพ่อและคุณแม่ (ชาตรี – มัลลิกา บุญสูง) ผลงานของอาจารย์จักรพันธุ์อีกเช่นกัน เจ้าเส้นหมี่ พุดเดิ้ลสีขาวที่ได้มาจากในไทยและเจ้าซินเนมอน พุดเดิ้ลสีน้ำตาลจากเกาหลี วิ่งเล่นส่ายหางดุ๊กดิ๊กอยู่ในห้องนี้

เพนต์เฮาส์
โถงทางเดินบุผนังด้วยวอลล์เปเปอร์สีเขียวมะกอก เรียงรายด้วยผลงานภาพวาดของศิลปินหลายท่าน รวมถึงผลงานของคุณแอ๋เอง

โต๊ะทำงานของคุณแอ๋ตั้งอยู่บริเวณนี้ เป็นมุมทำงานเล็ก ๆ ส่วนชั้นตรงข้ามวางพระพุทธรูปขนาดเล็กสำหรับบูชา เมื่อเปิดประตูห้องนอนซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจะพบกับวอล์กอินคลอเส็ตและห้องน้ำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ด้านใน กิจวัตรประจำวันของคุณแอ๋เริ่มต้นตั้งแต่ย่ำรุ่งเพื่อไหว้พระสวดมนต์ จากนั้นจึงทำงานต่าง ๆ โดยฟังคลิปเสียงหลวงพ่อชาเทศน์ไปพลาง นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสงบสำหรับเธอ

“ถ้าไม่มีนัดกินข้าวกับเพื่อนก็จะไปนวดหรือทำผมเที่ยงหาอะไรทานแล้วให้แม่บ้านพัก เขาจะได้ไปทำอย่างอื่น ตกเย็นถ้ามีนัดก็จะกินข้าวข้างนอก สี่ทุ่มจึงเข้านอน แล้วไปตีเทนนิสกับสามีและลูกอาทิตย์ละครั้งแต่ช่วงนี้หยุดไปนาน จนลูกถามแม่ว่าไม่ออกกำลังกายหรือ ก็เลยโทร.นัดโค้ชเพื่อจะได้ซ้อมมือ”

เพนต์เฮาส์
โต๊ะรับประทานอาหารสดใสด้วยดอกเยอบีร่าสีชมพูอ่อน ไฮเดรนเยียสีม่วงอ่อน กับภาชนะเครื่องเคลือบพอร์ซเลนสไตล์ชินัวส์ของ Ginori 1735

ตกแต่งโดยดีไซเนอร์ชื่อดังของไทย

เดิมทีห้องชุดแห่งนี้ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบบิลต์อิน เรียกว่าพร้อมสำหรับเข้าอยู่ได้ทันที แต่คุณแอ๋เลือกที่จะรื้อทุกอย่างทิ้ง

“แอ๋ไม่ชอบสไตล์การตกแต่งที่เขาให้มา แต่ทีนี้จะให้ใครมาช่วยทำล่ะ นึกไปนึกมาก็นึกถึงเพื่อน อู้ (นพปฎล พหลโยธิน) ขึ้นมา บอกว่าช่วยดูให้หน่อยเขาเลยแนะนำรุ่นน้องมาเขียนแบบให้ แล้วเขาดูอีกที ตอนแรกกะว่าจะสั่งวอลล์เปเปอร์ของนอกมาติดในห้องนอน แต่เขาใช้เวลาวาดนาน 8 เดือน คิดว่าขืนสั่งไปแล้วดีเลย์ ครัวก็เหมือนกัน ถ้าใช้ครัวฝรั่งแค่แก้แบบนิดเดียวใช้เวลาเป็นเดือน เลยให้ทางนี้ออกแบบแล้วสั่งทำที่เมืองไทยเลย ไม่งั้นบ้านคงไม่เสร็จกันพอดี สรุปว่าใช้เวลาตกแต่งนานหนึ่งปีค่ะ”

เพนต์เฮาส์ ฤาชุตา บุญสูง
คุณเอก และคุณแอ๋ กับภาพเหมือนคุณปู่ (จุติ บุญสูง)

คุณแอ๋ยังบอกเราอีกว่า ด้วยความที่โถงทางเข้ายังขาดตู้ เธอจึงต้องเฟ้นหาและส่งรูปไปให้คุณอู้อนุมัติว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ “ส่งรูปไปถามอู้ตู้นี้ใช้ได้ไหม ส่งไปกี่แบบอู้ก็ยังไม่โอเคเสียที จนกระทั่งแอ๋ไปเจอตู้ Fornasetti ใบนี้ แล้วชอบมาก ก็คิดในใจว่าไม่ถามแล้ว ซื้อเลยดีกว่า พออู้มาบ้านแล้วเห็นตู้นี้เข้า เขาบอกเธอถามฉันทุกใบ มาตู้ใบนี้เธอไม่ถาม แต่ฉันโอเคเลยนะตู้นี้”

คุณแอ๋ยังบอกเราอีกว่าตั้งแต่บ้านเสร็จเพิ่งลงสระไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง “เห็นเขามีเครื่องทำออนเซ็นราคาไม่แพง ก็เลยเรียกคนมาติดที่สระน้ำเล็ก ๆ ของเราบ้างดีกว่า ติดตั้งเสร็จปุ๊บ ลงไปแช่หนหนึ่ง ตอนนั้นหน้าหนาวพอดี ปรากฏว่าบิลค่าไฟมา 5 หมื่นบาท ก็เลยบอกให้คนช่วยลงไปปิดออนเซ็นให้ที ไม่ต้องใช้อีกต่อไปแล้ว (หัวเราะ) ก็เลยเอาไว้แค่ชมวิวอย่างเดียวเท่านั้น ไม่แช่ ปรากฏว่าบิลค่าไฟลดไปครึ่งหนึ่งเลย”

เพนต์เฮาส์

เมื่อถามคุณแอ๋ว่าชอบห้องไหนมากที่สุด เธอตอบว่าห้องแต่งตัว “จริงๆ เป็นคนใช้เวลาอยู่ในห้องแต่งตัวไม่นานหรอกค่ะ แต่พอได้โต๊ะเครื่องแป้งมาใหม่ก็เลยนั่งอยู่ในนั้น จนเส้นหมี่กับซินเนมอนต้องเดินมาขู่และเห่าประมาณว่าทำไมไม่ออกมาสักที” คุณแอ๋พูดพลางหัวเราะ นอกจากนี้เธอยังชอบจัดบ้านย้ายโน่นย้ายนี่ไปเรื่อย ส่วนคุณสามีก็เป็นแผนกช่างคอยดูแลหาช่างมาซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆ ที่เสียขึ้นมา ส่วนเรื่องความสวยงามปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณแอ๋

“แอ๋เขาชอบต้นไม้” คุณเอกบอกกับเรา “แต่ปลูกไม่เก่ง ปลูกแล้วตายหมด แต่แม่บ้านเราที่ชื่อมะลิเป็นคนมือเย็น ปลูกอะไรก็งาม แอ๋เขาก็จะซื้อต้นไม้ต้นที่ชอบมาให้มะลิเลี้ยงแทน” คุณแอ๋เสริมว่า “ส่วนสวนบนระเบียงแอ๋ได้นักจัดสวนที่อู้แนะนำให้ ก็จะถามว่าชอบต้นนี้ ๆ วางตรงนี้ได้ไหม เขาจะหามาลงให้ จริง ๆ ไม้ดอกแอ๋ก็ชอบ อย่างกุหลาบ แต่เลี้ยงยาก ก็เลยหันมาเลี้ยงไม้ใบแทน เพราะสวยดี แล้วซื้อดอกไม้มาจัดแจกันมากกว่า”

เพนต์เฮาส์ ฤาชุตา บุญสูง
คุณแอ๋ และคุณเอก พร้อมลูกชาย คุณ ณ – จิรัฏฐ์ บุญสูง (เสื้อสีน้ำตาล) และ คุณเซฟ – ศุภกฤต บุญสูง

สองลูกชายเรียนอเมริกากับอังกฤษ ส่วนคุณแม่คนเก่งเรียนปีนัง

การมาเยือนบ้านคุณแอ๋ครั้งนี้ เรายังมีโอกาสได้เจอลูกชายทั้งสองของคุณแอ๋และคุณเอก ซึ่งมีประวัติการเรียนที่เก่งใช้ได้ และเป็นคนเอาการเอางาน ที่สำคัญคือรักครอบครัว คุณ ณ คนโตจบปริญญาตรีทางด้านไฟแนนซ์จาก Bryant University ที่อเมริกา และจบโทด้าน Data Science จาก Imperial College London ประเทศอังกฤษ ขณะนี้ทำงานใน Venture Capital Fund กองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพต่าง ๆ มีสำนักงานอยู่ในนิวยอร์กและกรุงเทพฯ เขาดูแลที่กรุงเทพฯ

ส่วนคุณเซฟเพิ่งจบปริญญาตรีที่ Regent’s University London ประเทศอังกฤษ และได้กลับมาช่วยพี่ชายทำซอสพริกขายทาง IG ยี่ห้อ Kiew Chilli ซึ่งเริ่มทำในช่วงโควิด และเสียงตอบรับดีมาก คุณ ณ ซึ่งเป็นคนริเริ่มทำซอสตัวนี้บอกเราว่า “ช่วงโควิดเราเห็นโอกาสว่าทางบ้านแฟนก็ทำซอสอยู่แล้ว และเราทั้งครอบครัวก็เป็นคนช่างกิน เลยคิดว่าถ้าเราทำซอสพริกขายก็คงจะดี ซอสนี้ไม่เหมือนยี่ห้ออื่น จะหอมโอลีฟออยล์มากกว่า สามารถกินกับอาหารได้หลายรูปแบบ”

ยามว่างคุณ ณ จะชอบตีเทนนิส วิ่ง และฟิตเนสเขาเล่นเทนนิสมาตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ สมัยที่เขาเรียนอยู่ Canterbury School คุณ ณ เป็นนักกีฬาเทนนิสของโรงเรียนจนได้รางวัล Athlete of the Week, MVP Award และ Alumni Award ส่วนคุณเซฟนอกจากจะเล่นฟุตบอลที่ราชกรีฑาสโมสร (RBSC) แล้ว เขายังชอบช่วยเหลือสุนัขจรจัดกับ Soi Dog Foundation “ผมกับแฟนชอบสุนัข ก็จะพาไปทำหมัน และยังอุปถัมภ์สุนัขจรจัดในระหว่างที่รอบ้านอยู่”

เพนต์เฮาส์
สองลูกชายหัวแก้งหัวแหวนของคุณแอ๋ คุณ ณะ – คุณเซฟ

ด้านคุณแอ๋นั้นเมื่อสมัยเด็ก ๆ เข้าเรียนที่โรงเรียนเซเว่นธ์เดย์แอดเวนตีสฝั่งไทย ก่อนจะไปเรียนต่อที่ปีนัง “เรื่องของเรื่องคือพี่ชายได้ไปเรียนอังกฤษก่อนแอ๋ซึ่งเป็นหลานรักของคุณปู่คุณย่า ก็เลยบอกคุณปู่ว่าหลานอยากไปบ้าง แต่ท่านไม่ให้ไปเพราะเป็นผู้หญิงคุณปู่คงรำคาญที่ต้องฟังแอ๋บ่นทุกวันเลยบอกว่างั้นไปปีนังก็แล้วกัน เพราะท่านมีเพื่อนอยู่ที่นั่น ก็ไปอยู่โรงเรียนประจำ แต่กลับมาแอ๋ก็ยังบ่น ท่านจึงส่งไปออสเตรเลีย เพราะมีบ้านอยู่ที่โน่น

“หลังจากกลับเมืองไทย เนื่องจากแอ๋ไม่ชอบอยู่ในกรอบ เรียนจบมาก็ไม่เคยทำงานจริงจัง มีแต่คุณย่าและคุณอาใช้ให้ไปทำธุรกรรมการเงินที่ธนาคารก็จะทำให้ค่ะ คุณปู่ทำเหมืองแร่ดีบุกที่ตะกั่วป่า พังงา แล้วก็ทำธุรกิจยางรถยนต์บริดจสโตนกับญี่ปุ่น ท่านเป็นเพื่อนกับคุณพจน์ สารสิน ก็เลยเข้าหุ้นทำบริษัทไทยน้ำทิพย์จนถึงปัจจุบันนี้”

เราถามคำถามคุณแอ๋และคุณเอกว่า ตอนนี้ลูก ๆ ก็เรียนจบแล้ว ทั้งคู่มองชีวิตทุกวันนี้ของตัวเองอย่างไรคุณเอกตอบสั้นๆ อย่างได้ใจความว่า “ชีวิตเราก็ลงตัวมีความสุขดีครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร สบาย ๆ อยากไปเที่ยวไหนก็ไป มีเพื่อนมากินอาหารบ้านเรา แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว และปีนี้เรายังมีสถานที่อีกหลายแห่งรอให้เราไปเยือนอยู่”

PHOTOS | จิตตรัตน์ จินตศิริกุล


อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในนิตยสาร HELLO! VOL.18 NO.8 (AUG 2023)

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.