Hyde Park Garden โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูย่านวิภาวดี – ดอนเมือง ตอบโจทย์ บ้านเดี่ยวใกล้โรงเรียน ในฝัน
หนึ่งในปัญหาที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่ ต่างต้องพบเจอเมื่อลูกถึงวัยเข้าเรียน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ ปัญหาการจราจรในเวลาเข้าเรียน คือสิ่งที่สูบพลังของแต่ละวันไปกว่าครึ่งแล้ว รวมไปถึงคุณลูกเอง ที่มักจะเสียเวลาชีวิต ที่ควรจะได้ออกมาทำกิจกรรม เรียนรู้ความรู้ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ Hyde Park Garden โครงการบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ย่านดอนเมือง บ้านเดี่ยวใกล้โรงเรียน ที่ตั้งอยู่ติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจที่จะสร้างชุมชนที่อยู่อาศัยในฝัน หรือ Most Desirable Community ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบในชีวิต
โครงการ Hyde Park Garden เป็นการจับมือร่วมกันของ คูน เอสเตท จำกัด (Koon Estate) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ อันหลากหลายในการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน กับ Asia International School Limited (AISL) ผู้บริหารการศึกษาโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในระดับภูมิภาคเอเชีย
ในครั้งนี้ 2 ผู้บริหารคนสำคัญของโครงการ คุณวัลเลอรี่ ชิวชร์ ผู้อำนวยการ Asia International School Limited (AISL) Academy และคุณณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร คูน เอสเตท จำกัด ให้เกียรติพา HELLO! ชมเฟสแรกของโครงการที่กำลังจะเปิดให้เข้าชมเในวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้
ความสำเร็จกว่า 25 ปี ของโรงเรียนนานาชาติระดับ Top-Tier ของประเทศไทย
โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ นับเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติระดับท็อปทรีของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2541 ทั้งยังเป็นโรงเรียนแรกของเครือฮารโรว์ทั่วโลกที่ก่อตั้งขึ้นในเอเชีย ความโดดเด่นด้านการศึกษาของที่นี่ คือการดูแลภายใต้โรงเรียนฮาร์โรว์ลอนดอน มีการใช้หลักสูตรการเรียนรู้ระบบอังกฤษ ควบคู่ไปกับการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาผสมผสาน กับค่านิยม และมรดกของฮาร์โรว์ลอนดอน ที่มีอายุกว่า 450 ปี ทั้งหมดนี้ดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย Educational Excellence for Life and Leadership หรือ การให้การศึกษาที่ดีเลิศ ควบคู่ไปกับกิจกรรมนอกหลักสูตร และกิจกรรมประจำกลุ่มบ้าน เพื่อส่งเสริม ให้นักเรียนได้ไปถึงเป้าหมายได้โดยสมบูรณ์
“โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์อีกจำนวน 10 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น ที่ AISL ดูแลและบริหารการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง มัธยมปลาย (K-12)” คุณวัลเลอรี่กล่าว เธอเป็นบุตรสาวของคุณแดเนียล ชิวชร์ ผู้ก่อตั้ง AISL นอกเหนือจากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เธอยังมีโรงเรียนสองภาษากระจายอยู่ทั่วประเทศจีน ซึ่งใช้หลักการเรียนรู้โดยการนำวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกมาผสานให้เข้ากันกับโลกยุคใหม่
“กว่า 25 ปีที่ผ่านมาเราสร้างรากฐานทางการศึกษาที่แข็งแกร่งให้กับเด็กๆ ในขณะเดียวกันเราก็มองว่าสิ่งที่โรงเรียนเชื่อและทำมาตลอดนั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เนื่องจากเราสามารถพานักเรียนให้ไปได้ไกลตามที่เขาต้องการ ในปีการศึกษา 2023 นี้เรามีเด็กนักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ได้ รวมถึงมหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวีลีค ที่สำคัญผลการสอบ A-Level ของนักเรียนของเราก็ดีที่สุดในกรุงเทพเช่นกัน” คุณวัลเลอรี่กล่าว
จากประสบการณ์การพัฒนาโรงเรียนที่ผ่านมา ทำให้เธอเชื่อว่า นอกเหนือจากเรื่องการศึกษา สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่นอกโรงเรียน ก็มีความจำเป็นในการบ่มเพาะเด็กๆ เช่นกัน “สถานที่และสังคมแวดล้อมที่เราเติบโตล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจ และแรงผลักดันสำคัญให้เราก้าวไปสู่สิ่งที่เรามุ่งหวังอยากเป็นได้” สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่เธอตัดสินใจริเริ่มโครงการ บ้านเดี่ยวใกล้โรงเรียน บนพื้นที่ 52 ไร่
คุณวัลเลอรี่เล่าว่าโดยปกติทั้งเธอและทีมบริหารจะประจำอยู่ที่ฮ่องกงเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงนี้มีโอกาสได้เดินทางมาประเทศไทยบ่อยครั้งขึ้นมาก เนื่องจากต้องเข้ามาช่วยดูแลโครงการ Hyde Park Garden “เราโชคดีที่ได้พาร์ทเนอร์อย่าง คูน เอสเตท ที่เข้าใจและทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน ทำให้การทำงานออกมาได้ตรงกับที่ตั้งใจ เราไม่ได้ต้องการแค่บ้านที่สวยแต่เรายังต้องการสร้างชุมชนที่ดี และเหมาะกับกลุ่มคนทุกช่วงวัย”
การทำงานบนแรงบันดาลใจเดียวกัน
ผู้ที่รับหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของโครงการทั้งหมดคือ คุณณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ผู้บริหารแห่ง คูน เอสเตท บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เคยฝากผลงานระดับพรีเมียมลักซ์ชัวรีไว้มากมาย ตั้งแต่โรงแรมคิมป์ตัน คีตาเล สมุย รีสอร์บนหาดเชิงมน เกาะสมุย โครงการบ้านหรูในทำเลใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิท ได้แก่ โครงการ Quarter Thonglor, Quarter 39 และ Quarter 31 นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 5 โครงการ ได้แก่ Cooper Siam, Klass Langsuan, Klass Siam, Klass Sarasin และ Klass Silom
คุณณัฐวัฒน์กล่าวว่าการทำงานในโครงการ Hyde Park Garden สำหรับเขานั้น มีทั้งบทบาทของผู้สร้างสรรค์และในมุมมองของผู้ที่จะมาอยู่อาศัย “หลังจากที่โครงการเสร็จแล้ว ผมก็ตั้งใจจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยครับ” คุณณัฐวัฒน์กล่าว ด้วยเหตุที่ ลูกสาวและลูกชาย ฝาแฝดวัย 8 ขวบของเขานั้นเป็นเด็กนักเรียนของฮาร์โรว์ กรุงเทพ เช่นกัน
“หากกล่าวถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดคือบ้านเดี่ยว และบ้านเดี่ยวที่คนอยากได้มากที่สุดคือ บ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกับโรงเรียน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่นอกเหนือจากการทำบ้าน เรายังมองไปถึงการที่ชุมชนของเราเป็นหนึ่งในสังคมคุณภาพของกรุงเทพฯอีกด้วย” คุณณัฐวัฒน์กล่าว แต่ไหนแต่ไร คูน เอสเตท นั้นถนัดงานระดับลักซ์ชัวรี่ที่เป็น Niche Market การสร้างสรรค์ Hyde Park Garden จึงตั้งอยู่บนโจทย์ของการทำ บ้านเดี่ยวใกล้โรงเรียน ที่สามารถรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ที่สุด
“ขั้นตอนการพัฒนาโครงการ Hyde Park Garden สำหรับผมนั้นง่ายมาก เราคิดในมุมกลับว่า มีอะไรที่ลูกเราอยากได้ เราก็สร้างสิ่งนั้นให้กับเขา นอกจากนี้ในตัวบ้านเราพยายามออกแบบให้ตอบโจทย์ความเป็น Multi-generation ของครอบครัวทั้ง 3 รุ่น ทั้งลูกๆ พ่อแม่ และคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และทำเป็น 3 ชั้น ด้วยเหตุนี้บ้านเราจึงติดตั้งลิฟท์ไว้ให้ทุกหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้นลงบันได” คุณณัฐวัฒน์กล่าว
บ้านที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว
บ้านในโครงการ Hyde Park Garden มีทั้งสิ้น 61 ยูนิต ในเฟส 1 ขนาดบ้านเริ่มต้นที่ 73 – 166 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 38 -81 ล้านบาท แต่ละหลังออกแบบในสไตล์ Modern Tropical เพื่อให้ความรู้สึกสบายเหมือนพักผ่อน อยู่รีสอร์ท มีความทันสมัย ออกแบบให้มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ลักษณะโถงสูงแบบ Double Volume เพื่อให้สมาชิกครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยจะมีแบบบ้านให้เลือก 3 ขนาด แบ่งเป็นไซส์ M/L/XL
- Type M บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 73.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 412 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
- Type L บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 117 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 659 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ
- Type XL บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 147 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 880 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ
ทุกหลังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ลิฟท์ จุดชาร์จรถ EV และครัวไทย ส่วนที่เป็นไฮไลท์ของโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นสวนสวยขนาดพื้นที่กว่า 5 ไร่ และคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมของ ครอบครัวและเด็กๆ
“เราพยายามทำให้ไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของครอบครัวเป็นไปอย่างสบาย เรากันพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อทำสวนขนาดค่อนข้างใหญ่ แนบไปกับตลอดแนวของที่ดิน ภายในบ้านเองเรามีสวนเล็กๆน้อยๆไว้ให้ สำหรับคนชอบปลูกต้นไม้ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อยากทำสวนเพื่อให้คนออกมาเดินเล่น ออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนเย็นได้ ถือเป็นหนึ่งในจุดศูนย์รวมของครอบครัว” คุณณัฐวัฒน์กล่าว ส่วนพื้นที่คลับเฮ้าส์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจ ที่อยากมอบความสะดวกสบายให้ลูกบ้าน องค์ประกอบทุกอย่างจึงจัดเตรียมไว้เพื่อให้ทุกคนได้ใช้งาน
“คลับเฮ้าส์ของเราค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดของโครงการ ส่วนการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกก็คิดถึงกิจกรรมที่เด็กๆและผู้ใหญ่น่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ เรามีพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้าน นัดครูสอนพิเศษ มีห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ ในขณะเดียวกันก็มีห้องซ้อมดนตรีที่สามารถซ้อมกันเป็นวงได้ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสตูดิโอสำหรับคลาสโยคะ พิลาทิส หรือการออกกำลังกายอื่นๆ นอกจากนี้เรายังมีอาหารเพื่อสุขภาพจาก Paleo Robbie เตรียมไว้บริการที่คลับเฮ้าส์ด้วย” คุณณัฐวัฒน์อธิบาย
ในส่วนของความปลอดภัย ภายในโครงการจะมีทางเข้าพิเศษที่เชื่อมต่อกับโรงเรียน ซึ่งมีหน่วยรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด “ในโครงการเราเตรียมทำทางสำหรับจักรยานไว้ให้ด้วย นักเรียนสามารถเดิน หรือขี่จักรยานไปโรงเรียนได้อย่างสะดวก ในกรณีที่ไม่มีคนที่บ้านเดินไปส่ง เรามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่จะคอยดูแลว่าเด็กๆจะปลอดภัยตั้งแต่ก้าวออกจากบ้าน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ดีกับแค่ตัวเด็ก แต่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองก็จะมีเวลาของตนเองมากขึ้น ไม่ต้องเร่งรีบออกจากบ้านเพื่อขับรถไปส่งลูกๆ ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ เป็นส่วนหนึ่งในคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัว”
การลงทุนที่คุ้มค่า
การลงทุนกับที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่า ในขณะเดียวกันหากมองในระยะยาว หากวันหนึ่งต้องการขาย การลงทุนที่จ่ายไปก็ควรจะได้กำไรกลับมาอย่างคุ้มค่าเช่นกัน นอกจากคุณภาพของบ้านที่เตรียมไว้อย่างดีเยี่ยม ทำเลที่ตั้งของโครงการก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Hyde Park Garden เป็นโครงการที่น่าลงทุน ทั้งตั้งอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง ทางด่วน รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง
“กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ 70% ผมมองว่าเป็นกลุ่มคนที่เรียนที่ฮาร์โรว์ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนอีก 30% ส่วนหนึ่งอาจเป็นคนที่มีลูกแต่ไม่ได้เรียนที่นี่ กำลังจะมีลูก หรืออาจจะครอบครัวที่ไม่มีลูกเลยก็ตาม แต่อยากเลือกอยู่ในทำเลนี้ ซึ่งต้องบอกว่าจริงๆพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯตอนเหนือ ไม่ค่อยมีหมู่บ้านใหม่ๆที่เป็นรูปแบบเดียวกับเรา” คุณณัฐวัฒน์กล่าวว่าหากมองจากประสบการณ์ของคนทำอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในโครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
“อสังหาริมทรัพย์ มี 2 ปัจจัยที่ค่อนข้างจะการันตีว่า จะช่วยให้สินทรัพย์นั้นยังเป็นที่ต้องการและงอกเงยขึ้นได้ในอนาคต สิ่งแรกคือกลุ่มผู้ซื้อหรือผู้เช่าที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่นี่แถบจะการันตีได้เนื่องจากทุกปีจะมีกลุ่มเด็กนักเรียนใหม่เข้ามาปีละร้อยกว่าคน และ Hyde Park Village โครงการบ้านเดิมที่มีมานานกว่า 20 ปี มีอัตราปล่อยเช่ากันในราคาที่ดีมาก มีตลาดพร้อมรองรับเสมอ ซึ่งจุดนี้ต้องย้อนกลับไปชื่นชมโรงเรียนที่ทางทีม AISL รักษาคุณภาพมาตรฐานมาอย่างยาวนาน”
“อีกปัจจัยหนึ่งคือ ในละแวกนี้แทบไม่มีโครงการบ้านที่มีลักษณะเดียวกันกับเรา หากมีก็เป็นคนละ Segment ในขณะเดียวกันในอนาคตที่ดินแถววิภาวดีก็จะยิ่งหายากมากขึ้น เพราะฉะนั้นโครงการหมู่บ้านที่เป็นกลุ่ม Niche Market เช่นเดียวกับเรา ในเขตกรุงเทพฯ ตอนเหนือ เราเป็นโครงการที่ใกล้เมืองที่สุดแล้ว” คุณณัฐวัฒน์กล่าวปิดท้าย
ติดต่อนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ เบอร์โทร 082 491 6166 หรือ Line @hydeparkgarden
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ HELLO!
รีแคปอีเว้นท์ ขนทัพเซเลบริตี้มาที่ บูติกคาร์เทียร์ใหม่ ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย และออกแบบร่วมโดยศิลปินไทย
‘วรัญญา ฉัตรพิริยะพันธ์ – กฤษฎิ์ ศุภเดชชูชัย’ จากความรักสู่ของสะสมที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก