Home > Royalty > เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ ‘สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3’ ที่เตรียมย้ายออกหลังขึ้นครองราชย์

หลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผ่านพ้นไปแล้ว พระราชวังและพระตำหนักมากมายจะตกทอดมาสู่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งรวมถึงพระราชวังบัคกิงแฮม ที่พระองค์และสมเด็จพระราชินีคามิลล่าจะทรงย้ายเข้าไปพำนักอยู่เป็นการถาวร HELLO! จึงขอพาไป เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก่อนที่พระตำหนักเหล่านี้จะไม่มีใครอยู่

ก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงยกทรัพย์สินส่วนพระองค์ในฐานะดยุคแห่งคอร์นวอลล์ (มูลค่ากว่า 1.2 พันล้านปอนด์) ให้แก่พระโอรสองค์โต เจ้าชายวิลเลี่ยม อย่างไรก็ตาม พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรยังทรงมีที่ดินและพระตำหนักอีกหลายแห่งในครอบครองส่วนพระองค์อีก ตั้งแต่พระตำหนักหลังน้อยในเวลส์ จนถึงบ้านพักรับรองแขกในทรานซิลเวเนีย ซึ่งในอนาคตเราก็ไม่แน่ใจว่าพระองค์จะทรงทำอย่างไรกับสถานที่เหล่านี้ จะทรงยกเป็นมรดกให้แก่พระราชวงศ์องค์ใด หรือจะทรงขายทอดตลาดก็ย่อมได้เช่นกัน

พระตำหนักคลาเรนซ์ กรุงลอนดอน

เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

พระตำหนักส่วนพระองค์แห่งแรกที่เราขอหยิบยกมาพูดถึงก็คือ พระตำหนักคลาเรนซ์ (Clarence House) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลล่าทรงพำนักอาศัยอยู่ที่พระตำหนักแห่งนี้เป็นหลักมาตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านั้น พระตำหนักแห่งนี้ก็เป็นบ้านส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และดยุคแห่งเอดินบะระ และยังเป็นที่ประทับสุดท้ายของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี ตั้งแต่ปีค.ศ. 1953 จวบจนถึงวาระสุดท้ายในปีค.ศ. 2022 อีกด้วย

พระตำหนักคลาเรนซ์ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1825 และได้รับการบูรณะซ่อมแซมรวมถึงต่อเติมส่วนต่างๆ เมื่อคราวที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงย้ายเข้าไปประทับ แต่โดยรวมแล้วพระองค์ไม่ได้ทรงเปลี่ยนการตกแต่งภายในมากมาย รวมถึงหลายห้องยังคงสภาพเดิมเหมือนสมัยที่พระอัยยิกาในพระองค์เคยประทับ

หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เสร็จสิ้นลง ทั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลล่าจะยังทรงพำนักอยู่ที่พระตำหนักคลาเรนซ์ไปก่อน เพื่อรอให้การบูรณะซ่อมแซมพระราชวังบัคกิงแฮมเสร็จเรียบร้อย เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากทั้งสองพระองค์ย้ายไปประทับยังพระราชวังหลวงแล้ว พระตำหนักแห่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป

พระตำหนักไฮโกรฟ มณฑลกลอสเตอร์เชียร์

เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงซื้อที่ดินส่วนพระองค์ในมณฑลกลอสเตอร์เชียร์ (Gloucestershire) พร้อมสร้าง พระตำหนักไฮโกรฟ (Highgrove) ขึ้นในปีค.ศ. 1980 และได้ประทับอยู่ ณ พระตำหนักแห่งนี้กับพระชายา เจ้าหญิงไดอาน่า และพระโอรสทั้งสอง เจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่

ภายในพระตำหนักประกอบไปด้วย 9 ห้องนอนและ 6 ห้องน้ำ ตัวพระตำหนักโอบล้อมไว้ด้วยสวนสีเขียวขจีและฟาร์มบนพื้นที่กว่า 2,277 ไร่ ซึ่งสวนภายในพระตำหนักไฮโกรฟมีความสำคัญต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นอย่างมาก ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา พระองค์จะทรงเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าเยี่ยมชมสวนได้ โดยรายได้ทั้งหมดจะถูกนำไปบริจาคให้แก่การกุศลต่อไป

เนื่องจากพระตำหนักไฮโกรฟถูกซื้อมาขณะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงดำรงตำแหน่งดยุคแห่งคอร์นวอลล์ ปัจจุบันพระตำหนักแห่งนี้จึงตกทอดสู่เจ้าชายวิลเลี่ยม อย่างไรก็ตามสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เองก็อาจจะเสด็จฯ ไปทรงพำนักบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อมีโอกาส

คฤหาสน์เบิร์กฮอลล์ ประเทศสกอตแลนด์

เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

คฤหาสน์เบิร์กฮอลล์ (Birkhall) คือบ้านพักส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลล่า ณ ประเทศสกอตแลนด์ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ของพระตำหนักฤดูร้อนบัลมอรัล (Balmoral Castle) ทั้งสองพระองค์ทรงใช้เวลาที่คฤหาสน์แห่งนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อแยกตัวจากสังคม และได้เสด็จฯ กลับไปอีกครั้งในช่วงแรกหลังพระราชพิธีพระศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

คฤหาสน์แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี มาก่อน ซึ่งพระองค์ทรงให้คำนิยามถึงคฤหาสน์แห่งนี้ว่า “Little Big House”

บ้านพักส่วนพระองค์ในเวลส์

เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงใช้เวลากว่า 40 ปีในการตามหาบ้านพักส่วนพระองค์ที่ถูกพระราชหฤทัย ก่อนที่จะมาลงเอยซื้อบ้านพักส่วนพระองค์ Llwynywermod ด้วยราคา 1.2 ล้านปอนด์ ในปีค.ศ. 2007

บ้านพักแห่งนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ตัวบ้านหลักที่พระองค์และสมเด็จพระราชินีคามิลล่าประทับ, โรงนาเก่าแก่ และกระท่อมหลังน้อยอีก 3 หลัง ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นที่ราว 486 ไร่ และเป็นที่คาดการณ์กันว่าบ้านพักแห่งนี้จะตกทอดเป็นสมบัติของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคต ผู้ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ในปัจจุบัน

บ้านไร่ในชนบท ทรานซิลเวเนีย

หนึ่งในทรัพย์สมบัติที่ดินที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีในครอบครองก็คือ บ้านไร่ในหมู่บ้าน Viscri ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในทรานซิลเวเนีย ประเทศโรมาเนีย โดยพระองค์ทรงซื้อบ้านไร่แห่งนี้เมื่อปีค.ศ. 2006 หลังเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนมาแล้วครั้งหนึ่ง และทรงตกหลุมรักโรมาเนียเข้าในปีค.ศ. 1998

โดยปกติแล้ว พระองค์จะเสด็จฯ มาพำนักเพียงไม่กี่วันต่อปี และปล่อยเช่าในส่วนของบ้านพักรับรองแขกในช่วงที่พระองค์ไม่ได้เสด็จมา ซึ่งแม้จะเป็นบ้านไร่ แต่ก็ได้ฉายาว่าเป็น Blue House ประกอบไปด้วย 7 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ห้องเขียนหนังสือ ห้องทานข้าว ห้องนั่งเล่น และห้องครัว

ปราสาทแห่งเมย์ สกอตแลนด์

เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สถานที่ถัดมาก็คือ ปราสาทแห่งเมย์ (Castle of Mey) ซึ่งพระองค์ทรงได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากพระอัยยิกา สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี โดยปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ มีขนาด 10 ห้องนอน และตั้งแต่ปีค.ศ. 2019 ได้เปิดให้บริการเป็นโรงแรมภายใต้ชื่อ Granary Lodge

พระตำหนักดัมฟรีส์ สกอตแลนด์

อีกหนึ่งพระตำหนักในสกอตแลนด์ พระตำหนักดัมฟรีส์ (Dumfries House) คฤหาสน์สไตล์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5,060 ไร่ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้เข้ามาดูแลและรักษาตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เพื่อให้พระตำหนักแห่งนี้ยังคงอยู่ โดยปัจจุบันได้เปิดให้ซื้อทัวร์เพื่อเข้ามาเยี่ยมชมได้ รวมถึงยังมีส่วนโรงแรมที่สามารถจองเข้ามานอนพักค้างคืนได้อีกด้วย

พระตำหนักโลมา หมู่เกาะซิลลี

ปิดท้ายการ เปิดภาพบ้านส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ไปด้วย พระตำหนักโลมา (Dolphin House) ซึ่งตั้งอยู่บนหมู่เกาะซิลลี (Isle of Scilly) พระตำหนักตากอากาศแห่งนี้มีขนาด 6 ห้องนอน โดยเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคต พร้อมด้วยพระโอรสพระธิดา เคยเสด็จมาทรงพักผ่อนตากอากาศในช่วงฤดูร้อนของปีค.ศ. 2019 เนื่องด้วยหมู่เกาะซิลลีแห่งนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก โดยบนเกาะมีครัวเรือนอาศัยอยู่เพียง 175 หลังเท่านั้นนั่นเอง

ข้อมูลและรูปภาพ : Courtesy of HELLO! UK and Getty Images

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.