HELLO! พาไปรีวิวบ้านเดียวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ พร้อมอยู่ บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเอกมัย Lavista Ekkamai 10
ปีใหม่นี้ ใครบ้างไม่อยากอัพเกรดชีวิตให้อยู่ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มาเริ่มต้นเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้กับชีวิตด้วยสภาพเเวดล้อมดี ๆ ใจกลางเมือง HELLO! จะพาชมบ้านโครงการบ้านเดี่ยว ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ผลงานใหม่ล่าสุด ของบริษัท เอสพี เจ แลนด์ จำกัด ที่บอกได้คำเดียวว่า หรูหราเเละพรีเมียม! เพราะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และความชํานาญมากกว่า 20 ปี เพื่อตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้า Luxury Urban Lifestyle ทำให้ Lavista Ekkamai 10 มีความโดดเด่น อยู่บนทําเลที่ดีที่สุด ใจกลางเอกมัย เพียง 7 หลังเท่านั้น

เพียงเเค่ก้าวเท้าเข้ามาในโครงการ ก็เหมือนหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เพราะร่มรื่น เขียวขจี และเป็นส่วนตัวสุด ๆ เนื่องจากที่นี่ให้ความสําคัญกับ Privacy มาเป็นอันดับหนึ่ง จึงเป็น Prestige Community ที่ตอบโจทย์ สำหรับคนที่ต้องการเลือกสังคมเพื่อนบ้านให้ลูกและครอบครัว
โลเคชันของโครงการถือเป็นไฮไลต์เด่น เพราะเชื่อมต่อทางลัดหลายเส้นทางกับถนนสายหลัก เช่น ทองหล่อ เอกมัย สุขุมวิท และปรีดีพนมยงค์ ที่สำคัญยังใกล้ 3 ทางขึ้นทางด่วนอีกด้วย นอกจากนี้ยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ เเละคาเฟ่ ฯลฯ อีกมากมาย


ก่อนที่จะพาทุกท่านเข้าไปชมภายในตัวบ้าน พื้นที่นอกตัวบ้าน ที่จอดรถสามารถรองรับการจอดรถได้ 4 ถึง 6 คัน สำหรับคุณพ่อ คุณเเม่ คุณลูก เเละเพื่อนหรือเเขกที่มาหา ที่สำคัญทางโครงการเขายังใส่ใจ รองรับระบบ EV Charger ที่มีให้ทุกยูนิต
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน สิ่งเเรกที่จะพบ คือ Arriving Hall สุดลักชัวรี สำหรับใช้ตอนรับเเขกก่อนที่จะขึ้นไปชั้นบน ซึ่งตัวบ้านมีทั้งหมด 4 ชั้น ทางโครงการจึงมอบลิฟต์ที่ได้มาตรฐานมาให้พร้อมใช้งาน

เเละหัวใจหลักของการออกเเบบพื้นที่ภายในบ้าน คือ ครอบคลุมสมาชิกทุกเจเนอเรชัน ให้สามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังมีส่วนที่เชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในบ้าน เพราะพื้นที่ของเขากว้างมาก เริ่มต้นที่ 429 ตารางเมตร ขนาดที่ดินเริ่มต้น 40.3 ตารางวา เรียกว่าเเทบจะหาไม่ได้เเล้ว สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ขนาดนี้ ใจกลางทองหล่อ เอกมัย

มาต่อกันที่ชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งเป็น Gathering Area สำหรับให้สมาชิกในครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน เเละยังเป็น Open Space อันเป็นศูนย์รวมการใช้งานที่ต่อเนื่องกันหลายส่วนอีกด้วย โดยเราจะเริ่มต้นที่บริเวณมุมพักผ่อน ที่มองเห็นวิวภายนอก และสามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับเป็นมุมจิบกาเเฟยามเช้าอันเงียบสงบ เเละยังเชื่อมต่อกับครัวเปิด Western Kitchen ที่มีพื้นที่กว้างขว้าง ดูโปร่งโล่ง เพราะมีเพดานสูงถึง 3 เมตร
นอกจากนี้ทางโครงการยังเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม อย่างเช่น Top ของ Western Kitchen ที่เป็นหินควอทซ์อย่างดี ซึ่งสามารถกันความร้อน และทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง รวมถึงฟังก์ชั่น socket แบบ wireless และ USB ที่ทำซ่อนไว้ ก็สามารถดึงขึ้นมาใช้งานได้ เรียกว่าสะดวกสบาย สำหรับเเม่ครัวมือใหม่ ที่อยากจะทำอาหารไปด้วย เปิดดูคลิปทำอาหารไปด้วย

ส่วนตรงระเบียง ทางโครงการได้เลือกใช้กระจกเป็นสีเขียวตัดแสง และบาน กรอบอลูมิเนียม Tostem นําเข้าจากญี่ปุ่น ดีไซน์เป็นเเบบสลิมสวยงาม เเละป้องกนเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี สามารถต้านเเรงลมเเละกรอบด้านล่างเป็นเเบบป้องกันน้ำ ติดตั้งตัวระบายน้ำได้


ถัดมาเป็น ห้องอเนกประสงค์ หรือห้อง Multipurpose เสริมให้จุดนี้สามารถใช้กิจกรรมได้หลากหลาก โดยที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องออกกําลังกาย หรือถ้าใครมีเเขกมาพักบ่อย ๆ ตรงนี้ก็กว้างพอที่ จะปรับให้เป็นห้องพักสำหรับรับแขก เพราะที่ชั้น 2 นี้ยังมีห้องน้ำ ที่มีโซนอาบนํ้า ซึ่งสามารถลิ้งค์เข้าห้อง Multipurpose ได้ด้วย

ขึ้นมาที่ ชั้น 3 จะพบกับความอลังการของห้องนอน Grand Suite Master Bedroom ที่มีขนาดกว้างใหญ่ พร้อมด้วยมุมพักผ่อน โต๊ะทำงาน เเละ walk in closet โดยตรงนี้ทางโครงการตกแต่งทั้งโซนของสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ให้อารมณ์เหมือนเป็นคู่รักพ่อแม่ ที่ใครมาเห็นต้องชอบ แน่ๆ
ส่วนห้องน้ำของ Grand Suite Master Bedroom ก็มีพื้นที่กว้างมาก เพราะทางโครงการได้เเบ่งสัดส่วน ให้เป็นโซนเปียก โซนแห้ง และพิเศษมากยิ่งขึ้นด้วย Bathtub ที่เเยกเป็นมุม His&Her อย่างชัดเจน





ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เราจะพาทุกท่านไปต่อกันที่ชั้น 4 บอกเลยว่า พื้นที่กว้างมาก ซึ่งตอบโจทย์ Luxury Urban Lifestyle อย่างเเท้จริง เเละตอนนี้เราก็อยู่ชั้นบนสุดของตัวบ้าน ที่มีถึงสองห้องนอนด้วยกัน เเละยังมีห้อง Multipurpose ทั้งกว้างขว้างเเละหรูหรา เเละใช้งานได้จริง
ห้องนี้จะเป็นห้อง Junior Master Bedroom ขนาดรอง ๆ ห้อง Grand Suite Master Bedroom ที่มี walk in closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ เพราะทางโครงการคิดมาเเล้วว่า สามารถรองรับให้บ้านที่มีลูก ๆ ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กจนโต แบบไม่ต้องย้ายออกไปไหนกันเลย



ส่วนห้องนี้จะเป็นห้องนอนที่อยู่ติดกัน ก็จะมีโซน เตียงนอน Walk-in Closet และห้องน้ำ ที่ตกเเต่งด้วยโทนสีครีมชมพูสุด ทั้งหรูหราเเละน่ารักสุด ๆ


เเละห้องสุดท้ายของชั้น 4 ได้เเก่ ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องนี้ทุกคนในบ้านสามาถมาใช้ได้ ไม่ว่าจะมาอ่านหนังสือ ทำงาน หรือให้ครูมาสอนพิเศษในห้องนี้ก็ได้เช่นกัน

บ้านหรูสไตล์ Prestige ขนาดนี้เเล้ว ความเป็นส่วนตัวจึง เป็นสิ่งที่โครงการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้ที่นี้มี ฟังก์ชัน Maid Pavillion สามารถเข้า-ออก จากด้านหลังตัวบ้าน เเละมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน
เเละยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์น่าสนใจ คือ ครัวไทย เพราะมีขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ก็ยังมี ส่วนซักรีด Common Area ห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน

พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งส่วนสำคัญของโครงการ คือ บ้านที่มีขนาดพื้นที่ 443.1 ตารางเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าหลังที่เราพาชม ขึ้นมาอีกหนึ่งไซส์ โดยจะมีสระน้ำเกลือ ขนาด 1.8×8 เมตร ช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ Pool villa เเต่มีความเป็นส่วนตัวสุดเเละร่มรื่นสุด ๆ

สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านเดียวใจกลางเมือง อันเงียบสงบ เป็นส่วนตัว รวมถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่เรียกได้ว่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Luxury Urban Lifestyle เเละตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกเจเนอเรชั่นของครอบครัว พร้อมวางเเผนส่งต่อเป็นสินทรัพย์ให้ลูกหลานในอนาคต นัดหมาย เพื่อเข้าชม โครงการ Lavista Ekkamai 10 ที่สร้างเสร็จทุกหลังพร้อมเเล้ว สำหรับการเข้าอยู่ เพื่อให้ทุกท่านได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์จริง ทั้งภายนอกและภายใน ราคาเริ่มต้นที่ 80 ล้านบาท