เรื่องราวของครอบครัวใหญ่ที่เต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่น การเลี้ยงดู การเติมเต็มความสัมพันธ์ในบ้าน ที่สะท้อนความสุขของการอยู่อาศัยแบบครอบครัวอินเตอร์เจเนอเรชั่นในโลกยุค 4.0 ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่าน ‘คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี’ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงแรมในเครือสุโกศลลูกสาวคนโตของ ‘คุณกมลา สุโกศล’ และ ‘คุณเทอร์เรนซ์ เอช แคลปป์’
ช่วงเวลาความสุขที่ไม่ใช่แค่การร้องแพลงร่วมกันของ ‘บ้านสุโกศล’
“คนภายนอกคิดว่าเวลาพวกเราเจอกันต้องเล่นดนตรี ต้องร้องเพลงร่วมกัน แต่ความจริงไม่มีเลยค่ะ เราใช้เวลาไปกับการพูดคุยเรื่องที่ไม่ต้องมีสาระอะไรและกินข้าวกัน (หัวเราะ) ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอาหารสามารถดึงทุกคนมารวมตัวกันได้ อาจเป็นเพราะการกินเป็นไลฟ์สไตล์ที่พวกเราเหมือนกัน ยิ่งช่วงคริสต์มาส เราจะไปรวมตัวกันที่บ้านแม่แถวสาทรหนึ่งคืน และไปค้างบ้านน้อย (คุณกฤษดา สุโกศล แคลปป์) อีกหนึ่งคืน เพราะเมลานี ภรรยาของน้อย ทำอาหารเก่งมาก เราโชคดีค่ะที่คนในครอบครัวเข้ากันได้ดี เวลาทำงาน เราพี่น้องต่างเชื่อมือและไว้วางใจในการทำงานของแต่ละคน ส่วนนอกเวลางาน เราสนุกสนานมากเมื่อได้อยู่ร่วมกัน ทั้งสะใภ้ทั้งลูกเขย
“อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบตรงกันคือการท่องเที่ยวยุโรปค่ะ แม่จะพาพวกเราไปต่างประเทศปีละครั้ง ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 7 – 10 วัน เป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความสนุก พี่น้อง ลูกหลานได้พูดคุยกันในบรรยากาศที่ห่างไกลจากความเครียดในชีวิตประจำวัน โดยส่วนตัวสาชอบยุโรปตอนใต้ เพราะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นเมือง มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เชิงลึกให้พวกเราได้สุนทรีย์ ได้เรียนรู้ และผู้คนในสังคมของเขาก็เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น”
ไม่เพียงเป็นผู้นำทริปให้ลูกๆ หลานๆ ได้พบปะกัน คุณกมลายังเป็นศูนย์รวมดวงใจของครอบครัวสุโกศล “คุณแม่รัก ให้เกียรติ และแฟร์กับทุกคนค่ะ ท่านเป็นคนสำคัญที่สร้างความปรองดอง สร้างความรักให้เกิดขึ้นในครอบครัว 3 เจเนอเรชั่น พวกเรา 4 คนรุ่นลูกไม่มีใครสปอยล์หลานๆ เลยค่ะ เราพยายามปลูกฝังความเพียร ความ Productive ไม่ฟุ่มเฟือย อ่อนน้อมถ่อมตัว แบบที่คุณพ่อคุณแม่ทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง สาเคยพาลูกๆ ไปดูบ้านเกิดคุณตาซึ่งเป็นเมืองเกษตรกรรมเล็กๆ ในอเมริกา คุณพ่อของสาไม่ใช่คนร่ำรวย แต่คุณพ่อก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนสามารถสร้างฐานะที่ดีให้กับตัวเองได้ ส่วนคุณแม่ก็เป็นนักสู้ตัวยง ท่านสร้างโรงแรมเองตั้งแต่ 45 ปีที่แล้ว สาอยากให้ลูกเห็นว่าทุกคนมีศักดิ์ศรีที่เราต้องให้เกียรติ”
ความต่างของช่วงวัยของสมาชิก ‘บ้านสุโกศล’
นับจนถึงตอนนี้ สมาชิกรุ่นหลานของคุณกมลามีทั้งสิ้น 8 คน ตั้งแต่วัยทำงานไปจนถึงวัยกระเตาะ หลานคนโตของเธอคือ คุณดีโน่ อายุ 24 ปี ในขณะที่คนเล็กสุดมีอายุเพียง 1 ขวบ ทั้งสองคนคือทายาทของคุณสุกี้ (กมล สุโกศล แคลปป์)
“Gene Pool ของพวกเรากว้างมาก สมาชิกในครอบครัวไม่มีใครดีเทลเหมือนกันเลย อย่างเรื่องเพลง คุณแม่ฟังแจ๊ส สาฟังบรอดเวย์ ณี (คุณดารณี บริโอเนส) ชอบโมเดิร์นหน่อย ส่วนน้อยกับสุกี้อาจจะใกล้เคียงกัน รุ่นหลาน อย่างนาตาเลีย ลูกสาวของณี เพอร์เฟกต์ สวย เก่ง ชอบเต้นรำ ร้องเพลง ดีโน่เปิดร้านกาแฟและเป็นดีเจ น้องฟิน ลูกของน้อยจะเอาต์โกอิ้งเหมือนแม่ ชอบแสดงละครเวที แมทธิว ลูกคนโตของสาเป็นหนอนหนังสือ ชอบไปถ่ายรูปต่างจังหวัด เป็นแชมป์หมากรุก เคยร่วมฝึกทีมชาติ เคยได้ตำแหน่ง National Master ที่อเมริกา ส่วนไมเคิล ลูกคนเล็กเป็นนักกีฬารักบี้และฟุตบอล ชอบเข้ายิม ฯลฯ
“สาว่าความสามัคคีของพวกเราเกิดจากความแตกต่างนี่ล่ะค่ะ ความต่างทำให้ครอบครัวใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลากหลายวัยมีสีสัน ถ้าบ้านใหญ่โต แต่ไม่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงที่เรารัก มันก็ไม่อบอุ่น ความอบอุ่นเกิดจากสมาชิกที่อาศัยอยู่ภายในบ้านค่ะ”
ความสุขที่ลงตัว กับ Mulberry Grove Sukhumvit
ในอนาคตอันใกล้ คุณมาริสาวางแผนสร้างโรงแรมแห่งใหม่เพื่อรองรับตลาด ‘Super Luxury’ หลังประสบความสำเร็จกับโรงแรม The Siam และเมื่อนักธุรกิจสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง Super Luxury อย่างคุณมาริสากำลังมองหาที่พักอาศัยอีก รูปแบบเพื่อการรวมตัวของครอบครัวใหญ่ในอนาคต “Mulberry Grove Sukhumvit” คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury แห่งแรกในประเทศไทย จึงดูจะตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด

ทั้งนี้ เนื่องจาก Mulberry Grove Sukhumvit เป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อชีวิตครอบครัวใหญ่สมัยใหม่ ที่มาพร้อมแนวคิด “Intergeneration Family Living” ซึ่งให้ความสำคัญกับรากฐานที่แท้จริงของครอบครัวผ่านการใช้ชีวิตร่วมกันของสมาชิกทุกเจเนอเรชั่น และการเรียนรู้ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น การออกแบบพื้นที่ใช้สอยกำหนดขึ้นในรูปแบบ “Luxury Multi-Residence Platforms” ซึ่งตอบโจทย์มากกว่า Luxury Residence โดยเอื้อให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันระหว่างสมาชิกหลายรุ่น เป็นการสร้างสังคมและที่อยู่อาศัยซึ่งเชื่อมต่อและเติมเต็มความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวที่ประกอบไปด้วยช่วงวัยที่หลากหลาย ทว่ายังคงมีความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ของตัวเอง
“สาอยากได้ที่อยู่อาศัยที่มีขนาดกำลังดี ให้ความรู้สึกอบอุ่นของการอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อไหร่ที่ลูกมีแฟน ก็สามารถมอบความเป็นส่วนตัวกับลูกได้ การออกแบบภายในเน้นฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ไม่ต้องดูแลมาก โทนสีโดยรวมมองแล้วสบายตา ถึงบ้านแล้วสบายใจ” คุณสาเล่าถึงที่พักอาศัยที่เธอปรารถนา
นั่นเพราะทุกรายละเอียดของ Mulberry Grove Sukhumvit ล้วนได้รับการออกแบบและพัฒนาจากความต้องการของสมาชิกครอบครัวทุกรุ่น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี 4.0 ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารหรือส่วนอยู่อาศัย การตกแต่งภายในที่งดงามคลาสสิกไร้กาลเวลา ร่วมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพแบบองค์รวมต่างๆ นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนกลางยังออกแบบให้เป็น Universal Design ที่ให้สมาชิกผู้สูงวัยสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น โดยผ่านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) อีกทั้งทำเลที่ตั้งในย่านสุขุมวิทก็มีความทันสมัยและสะดวกสบาย เหมาะสำหรับสมาชิกทุกรุ่นในครอบครัวคนเมือง