Home > Lifestyle > Home & Living > เบื้องหลังความสำเร็จอีกก้าวของ ‘Studio Perception’ ดีไซน์ที่สวยงาม และรากฐานความสำเร็จของหลายแบรนด์ดัง

ด้วยความหลงใหลในศิลปะ และศาสตร์การออกแบบตกแต่ง บวกกับความปรารถนาที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจในเมืองไทย ‘คุณเบนซ์-กฤติ คูหาเรืองรอง’ Creative Director และ ‘คุณพราว-โศจิวรรณ อินธาระ Operation Director จึงได้ร่วมกันก่อตั้ง Studio Perception บ. รับออกแบบตกแต่ง และวางแผนการตลาด ที่มีใจความสำคัญอยู่ที่การนำสุนทรียศาสตร์ด้านความคิดสร้างสรรค์ มาผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งในแง่ความสวยงาม ตลอดไปจนถึงพลังแห่งความสำเร็จ  

ทั้งคู่เริ่มต้น Studio Perception จากการที่มีโอกาสได้ลองทำงานด้านออกแบบตกแต่งร่วมกันเป็นครั้งแรกให้กับคาเฟ่แห่งหนึ่งย่านเอกมัยเมื่อราว 7 ปีมาแล้ว “ตัวของคุณเบนซ์เขาเป็นนักออกแบบ ส่วนพราวเป็นศิลปินนักวาดภาพค่ะ ซึ่งเป็นงานที่ทำตามความต้องการของตัวเอง แต่พอเราเริ่มมาทำงานตรงนี้กัน มันคือการทำงานเพื่อคนอื่นมากกว่าทำเพื่อตัวเอง เหมือนทำให้พราวได้เปิดมิติด้านใหม่ๆ ให้ตัวเองมากขึ้น ได้ค้นพบความสามารถที่ไม่คิดว่าเราจะมี แต่สุดท้ายเราก็ทำมันได้ดี ที่สำคัญ เราสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้เยอะมาก พราวรู้สึกว่าการที่จะช่วยเหลือคนได้จำนวนมากๆ นั้น สิ่งที่เราทำ มันต้องสร้างขึ้นให้แข็งแกร่งในรูปแบบขององค์กร ก็เลยเป็นที่มาของการทำบริษัทนี้ค่ะ” คุณพราวกล่าว 

“เราไม่ได้เริ่มต้นเพราะคิดว่ามันจะทำกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เราคิดว่า ถ้าเรามีกันแค่สองคนสองแรง เราจะช่วยคนอื่นได้น้อย แต่ถ้ามีทีมงานเรา ก็จะมีคนเก่งหลายๆ คนมาร่วมกันช่วยใส่ใจผู้ประกอบการได้เยอะขึ้น” คุณพราวเล่าย้อนไปถึงก้าวแรกของ Studio Perception ก่อนจะให้มุมมองถึงงานออกแบบตกแต่งในยุคปัจจุบัน

“จริงๆ แล้วงานออกแบบตกแต่งมันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่มันยังหมายถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เป็นใจความสำคัญของธุรกิจยุคใหม่ และยังเป็นเหมือนกับอาวุธให้แก่ธุรกิจไปสู่เป้าหมายที่วางไว้”

ส่วนคุณเบนซ์กล่าวเสริมในแง่ของภาพรวมของบริษัทไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า “บริษัทของเรามีจุดเด่นที่ชัดเจนมากว่าออกแบบเพื่อผู้ประกอบการ เราเป็นพาร์ตเนอร์ในการร่วมพัฒนาธุรกิจ ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้ โดยเรามีความเข้าใจในสองความคิดหลัก คือเรื่องการตลาดและความคิดสร้างสรรค์ที่ชัดเจน แล้วนำทั้งสองศาสตร์มาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้งานออกมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสวยงามลงตัวที่สุด มันคือการสร้างสมดุลให้กับธุรกิจยุคใหม่ ยุคนี้ถ้ามีการตลาดอย่างเดียวก็จะแข็งกระด้างเกินไป ถ้าสร้างสรรค์อย่างเดียว ก็จะเพ้อฝันเกินไป เรียกว่าต้องขายอย่างมีศิลปะ มีเรื่องราวมีความเป็นมา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการขาย เพราะคนสมัยนี้เลือกเสพแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น

‘คุณเบนซ์-กฤติ คูหาเรืองรอง’ Creative Director Studio Perception

“และที่สำคัญ เราต้องเป็นมากกว่าดีไซเนอร์ เราต้องเป็นทั้งนักวางแผน นักแก้ปัญหา เป็นทุกอย่างให้กับลูกค้า มันมีบริบทหลากหลายมากครับ ทั้งเรื่องงบประมาณ กลุ่มเป้าหมาย สถานที่ตั้ง ฟังก์ชั่น พวกนี้เป็นกรอบให้เราคิด เพื่อนำความคิดสร้างสรรค์ใส่เข้าไป แล้วนำเสนอออกมาให้สวยงาม ซึ่งกรอบเหล่านี้มันยิ่งช่วยท้าทายเรามากขึ้น จริงๆ แล้วความคิดสร้างสรรค์มันต้องมีกรอบอยู่ด้วย ยิ่งมีกรอบมากเท่าไหร่ เรายิ่งคิดพลิกแพลงได้มากขึ้นเท่านั้น ลูกค้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์เพื่อทลายกรอบนั้นๆ” คุณเบนซ์กล่าว

ผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้งสองแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในบริษัทกันอย่างชัดเจน คุณพราวดูแลในส่วนของการดำเนินงานและลูกค้า ในขณะที่คุณเบนซ์กุมบังเหียนด้านงานสร้างสรรค์ ควบรวมวิสัยทัศน์ขององค์กร ซึ่งความเป็นคู่รักนักบริหารนี่เองที่นับเป็นข้อดีข้อเด่นให้ทั้งสองได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง 

“เรามีทั้งส่วนที่เหมือนและต่าง พราวเป็นคนชัดเจน ดำเนินการแบบภาพใกล้ ทำอะไรต้องเสร็จเรียบร้อยตามกำหนด ส่วนคุณเบนซ์จะเป็นคนมองภาพไกล เราสองคนดึงจุดเด่นของแต่ละคนออกมาผสมผสานกันในการทำงาน ถือว่าเราเป็นส่วนเติมเต็มกันและกันให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด และด้วยความที่เราคุยกันทุกเรื่อง มีเป้าหมายเดียวกัน และอายุยังน้อย เราก็จะเป็นคนที่คิดเร็วตัดสินใจเร็วและปรับตัวเร็ว” คุณพราวอธิบายได้อย่างเห็นภาพ 

“ผมจะเป็นคนช่างฝัน เป็นนักจินตนาการ ส่วนคุณพราวจะเป็นคนเติมเต็มให้กับผมในด้านของการดำเนินงานทั้งหมด เป็นคนตีกรอบให้เกิดขึ้นได้จริง เราต้องเข้าใจก่อนว่าก่อนที่จะผสมผสานกันได้มันต้องมีความต่างกันก่อน แล้วจึงค่อยๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และพัฒนาจากความต่าง ค่อยๆ ปรับกันไปทีละเล็กละน้อย เวลาเกิดปัญหามันจะนำไปสู่การแก้ปัญหา และนำไปสู่การทำความความเข้าใจกันในที่สุด” คุณเบนซ์กล่าวเสริมเติมเต็ม

บนเส้นทางร่วม 7 ปีของ Studio Perception ผ่านการออกแบบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในเมืองไทยมามากมาย หากเมื่อถามถึงผลงานสุดภาคภูมิใจ ทั้งคู่ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคือโปรเจกต์ที่รังสรรค์ให้กับ Booking.com

“เป็นโปรเจกต์ที่ท้าทายมากครับ  เราต้องไปเสนองานแข่งกับบริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกอีกหลายแห่ง โดยที่เราก็ไม่รู้มาก่อน ในขณะที่บริษัทเราเพิ่งเปิดมาได้แค่ 6 – 7 ปี แต่สุดท้ายก็ชนะมาได้ ถือเป็นโปรเจกต์ที่เราภาคภูมิใจ ผมว่าการที่เราไม่มีประสบการณ์มันเป็นจุดแข็งที่ทำให้เราไม่เคยกลัวอะไร เราทำไปเต็มที่ตามความรู้สึกว่ามันดี พอไม่กลัวก็ทำให้เรากล้าที่จะทดลองทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งก็พอดีตอบโจทย์ของลูกค้าที่เขากำลังต้องการอะไรที่แปลกใหม่”

นั่นคือหนึ่งก้าวสำคัญในความสำเร็จของบริษัทน้องใหม่มาแรงของเมืองไทย หากแต่เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล ที่สำคัญ พวกเขาก็ยังมีความมุ่งมั่นสดใหม่ที่ต้องการจะเติบโต คู่ขนานไปกับการทำงานอย่างมีความสุข ดังที่คุณพราวบอกเอาไว้ว่า 

“พราวอยากให้บริษัทเราแข็งแกร่งขึ้น มีทีมงานมากขึ้น เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้มากขึ้น อยากให้เราสำเร็จอย่างยั่งยืน ทั้งทีมงานและลูกค้าต้องมีความสุขค่ะ”

ฟากฝั่งคุณเบนซ์ฝันอยากจะสร้างสรรค์ผลงานในระดับสากล “ฝันแรกของเรา คือ เป็นบริษัทที่เป็นแนวหน้าในการออกแบบตกแต่งภายในที่ดี มีคุณภาพ เติบโตอย่างถูกต้องและยั่งยืน ฟังแล้วอาจดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ถามว่าเรามีการวางแผนนั้นกันอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าเราย่อมพยายามที่จะปูทางกันเป็นปีต่อไป และต้องตอบว่า ถ้ามันมีโอกาสเข้ามา แน่นอนว่าเราก็จะคว้ามันไว้อย่างดีและจะทำให้มันดีที่สุด เพราะนิยามความสำเร็จในใจของผมนั้นง่ายมากครับ คือลูกค้าสำเร็จ เราก็สำเร็จ ลูกค้าหลายๆ คนสำเร็จ เรายิ่งสำเร็จมากขึ้น” คุณเบนซ์กล่าวปิดท้ายประโยคด้วยนิยามของการทำงานที่ปลูกฝังในใจและตั้งมั่นมาตลอด

Studio Perception : 88 THE PARQ ชั้น 7-8 room 08-128 ถนนรัชดาภิเษก แขวง/เขตคลองเตย กทม. โทร 09-7171-3541         

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.