ว่ากันว่าความรู้ความสามารถนั้นถ่ายทอดสู่กันได้จากรุ่นสู่รุ่น แต่หากเป็นเรื่องความรักความชอบ บางครั้งแม้เป็นครอบครัวเดียวกันแต่ก็ยังคิดต่าง แต่สำหรับ ‘ครอบครัวศุภกฤตกุล’ กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทั้งลูกสาว ‘คุณแอร์-กรสิริ และลูกชาย คุณอู๋-กวิน ศุภกฤตกุล’ นอกจากจะได้รับสืบทอดดีเอ็นเอนักบริหารจากคุณพ่อ ‘เป็นเอก’ และคุณแม่ ‘แพรทิพย์’ มาอย่างเต็มเปี่ยม (ปัจจุบันคุณแอร์ ลูกสาวคนโต เป็นผู้บริหารบริษัท เพเนทรา กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้าน Air Space ร้านอาหารยอดนิยมที่ใครได้แวะเวียนไปหัวหินต้องรู้จัก ส่วนคุณอู๋ ลูกชายคนเล็ก ช่วยดูแลธุรกิจอิมพอร์ตเอ็กซ์พอร์ตด้านสินค้ากลุ่มบิวตี้ ที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มต้นมาตั้งแต่ 22 ปีก่อน) ทั้งครอบครัวยังใจตรงกันแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะการเลือกที่อยู่อาศัยในอนาคต ที่พร้อมใจกันโหวตให้ Dusit Residences ในโครงการ Dusit Central Park คือบ้านที่ตอบโจทย์ทุกด้านของทุกคนในครอบครัว
เสน่ห์ของพื้นที่ธรรมชาติในทำเลใจกลางเมือง
“ที่ผ่านมาเรามองหาคอนโดที่อยู่ใจกลางเมืองมาโดยตลอด เพียงแต่เราไม่ได้รีบ หลายคนอาจคิดว่าในเมืองจะวุ่นวายหรือเปล่า แต่เรามองเรื่องทำเลมากกว่า จนได้มาดูโครงการ Dusit Central Park ที่ทุกคนในครอบครัวเห็นตรงกันว่าใช่ ก็เลยตัดสินใจได้ไม่ยาก” คุณอู๋-กวินกล่าว การตัดสินใจที่ว่าไม่ยากนั้นยืนยันด้วยคำพูดของคุณพ่อเป็นเอก ที่กล่าวว่า “วันนั้นเราเข้ามาดูโครงการกันจนถึงเย็น ตกลงใจกันเรียบร้อยว่าเราชอบและตัดสินใจว่าจะจอง ทางเซลส์ก็บอกว่าให้มาทำสัญญากันพรุ่งนี้ก็ได้ แต่ผมบอกเองว่าทำวันนี้ไปเลย อย่างไรเราทุกคนก็เลือกที่นี่”
เหตุผลหลักที่ทำให้ทั้งครอบครัวตัดสินใจอย่างไม่ลังเลคือทำเลที่ตั้งอันโดดเด่น ของย่านซูเปอร์คอร์ซีบีดี หัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 ตรงข้ามกับสวนลุมพินี สะดวกด้วยการคมนาคมที่ไม่ใช่แค่ทางรถ แต่มีทั้งการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินตรงเข้าถึงโครงการ รวมถึงการออกแบบโครงการให้เชื่อมต่อกับธรรมชาติใจกลางกรุงได้อย่างไร้รอยต่อ นับเป็นจุดเด่นที่ตรงกับความต้องการของทุกคน
“แอร์รู้สึกว่าแต่ละเมืองใหญ่ๆ จะมีสวนสาธารณะหลักอยู่หนึ่งที่ซึ่งเป็นเซ็นเตอร์ของเมือง สวนตรงนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน ไม่ว่าเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร เพราะฉะนั้นตั้งแต่แอร์และน้องชายไปเรียนต่อที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา คอนโดที่อยู่จึงเลือกที่ติดกับสแตนลีย์พาร์ค เวลาคุณพ่อคุณแม่บินไปหา ท่านก็ชอบไปเดินเล่นกัน จนแอร์ย้ายไปเรียนปริญญาโทที่นิวยอร์ก ก็ยังเลือกที่พักที่ติดกับเซ็นทรัลพาร์ค ดังนั้นพอมาเจอโครงการ Dusit Residences ที่อยู่ตรงข้ามกับสวนลุมพินีก็ตอบโจทย์เรื่องโลเคชั่นมาก ยิ่งในโครงการเองก็จะมีทั้งศูนย์การค้าและโซนออฟฟิศ ก็จะยิ่งสะดวกมาก” คุณกรสิริให้เหตุผล
“สำหรับผมสิ่งที่ประทับใจคือการวางเลย์เอาต์ของโครงการ ซึ่งแต่ละตึกแยกกันเป็นสัดส่วน มีช่องให้ลมผ่าน มีการวางพื้นที่สีเขียวไว้ด้านบนเป็น Roof Park แบบ 7 ไร่เลย เรียกว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงๆ และถูกออกแบบอย่างดีให้สบายตา เราสามารถจินตนาการได้เลยว่าเมื่อเข้าไปอยู่แล้วจะเป็นอย่างไร” คุณกวินกล่าว
ไม่เพียงแต่ไลฟ์สไตล์ของรุ่นลูกที่ชื่นชอบความเป็นเมืองในขณะเดียวกันก็ชอบใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติ “ผมเองก็เป็นคนชอบอยู่ในเมืองมากกว่า ยิ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือใกล้กับสวนลุมพินีเลย ปัจจุบันถึงจะอยู่บ้าน แต่ในหนึ่งสัปดาห์ผมกับภรรยาจะหาเวลามาเดินออกกำลังกายที่สวนลุม ไม่นานมานี้ผมเดินออกกำลังในสวนลุมไป 4 รอบโดยไม่ได้พักเบรกเลย” คุณเป็นเอกกล่าว
ส่วนคุณแพรทิพย์เสริมว่า “โครงการนี้ยังเดินทางไปไหนมาไหนง่ายจริงๆ แล้วก็อยู่ไม่ไกลกับออฟฟิศของเราที่พระราม 3 เดินทางไปมาได้สะดวกมาก นอกจากนี้เรายังมองว่าหากอายุมากกว่านี้ การมาอยู่ที่นี่จะสะดวกกว่า ที่ถูกใจมากๆ อีกอย่างคือบริการจากดุสิตธานีที่เราไว้ใจ เราชอบไลฟ์สไตล์เมือง ที่นี่ก็จะมีศูนย์การค้า Central Park ซึ่งก็เหมาะมากเพราะเรา
ก็ชอบเดินช็อปปิ้ง หากอยากออกกำลังกายก็ข้ามไปสวนลุมหรือเดินที่ Roof Park ของโครงการได้เลย”
Dusit Central Park คือโครงการมิกซ์ยูสอันโดดเด่นที่กำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ระดับโลกภายใต้แนวคิด Here for Bangkok ภายในโครงการประกอบด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า โดยเชื่อมต่อทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกันผ่าน Roof Park ขนาด 7 ไร่ ซึ่งออกแบบด้วยแนวคิดที่ต้องการให้คนเมืองได้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อมต่อทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติกว่า 360 ไร่จากสวนลุมพินี
ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามได้อย่างไร้รอยต่อ นับเป็น Privilege ที่หาได้ยากในทำเลใจกลางเมือง ทั้งยังเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตเมืองให้เทียบกับเมืองชั้นนำระดับโลก เช่น เซ็นทรัลพาร์ค (Central Park) ที่นิวยอร์ก และไฮด์พาร์ค (Hyde Park) ที่ลอนดอน ในส่วนของที่พักอาศัยเป็นอาคารสูง 69 ชั้น ประกอบด้วยสองคอนเซปต์หลักคือ
‘Dusit Residences’ และ ‘Dusit Parkside’ ทุกรายละเอียดงานดีไซน์ถูกสร้างสรรค์ด้วยความประณีตพิถีพิถัน สะท้อนคุณค่าดั้งเดิมของความเป็นดุสิตธานีที่ผสานเข้ากับดีไซน์ทันสมัยในมาตรฐานสากลเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความรู้สึกถึง ‘บ้าน’ ที่มีทั้งความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ครบครันด้วยบริการระดับ 5 ดาว
ในฐานะที่ทำธุรกิจร้านอาหารซึ่งนับเป็นงานด้านการบริการเช่นกัน เมื่อเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวคุณแอร์จึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ “โจทย์ที่ครอบครัวเราตั้งไว้ตอนมองหาคอนโด คืออยากได้ที่เป็น Branded Residence โดยส่วนตัวบ้านเราชอบเซอร์วิสของโรงแรม แม้แต่เวลามีทริปของครอบครัว เราจะเลือก Destination เราจะเลือกโรงแรมหรือร้านอาหารที่อยากไปก่อน แล้วถึงเลือกเมืองที่จะไป อย่างเช่น เราเคยมีทริปไปเปรู เนื่องจากอยากไปนอนที่พักที่หนึ่งที่นำปราสาทเก่าอายุกว่า 400 ปีมาปรับปรุง หรือเราไปสเปน เพราะจองร้านอาหารที่อยากไปได้ คือครอบครัวเราคำนึงถึง Lifestyle เป็นสิ่งต้นๆ เพราะฉะนั้นหากเป็นที่พักอาศัยซึ่งมีเซอร์วิสเตรียมไว้ให้เหมือนโรงแรม ก็คือตอบโจทย์ของเรา
Dusit Residences มีทั้งบริการ Concierge แม่บ้าน รวมถึงบัตเลอร์ Room Service จัดงานได้ในบ้านต่างๆ มากมาย ซึ่งดีกับทั้งรุ่นเราและรุ่นคุณพ่อคุณแม่ ที่จะมีคนมาช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้” คุณกรสิริกล่าว
สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการระดับห้าดาวนั้นครบครันที่ Dusit Residences ในฐานะที่มีความเป็นเลิศด้าน Hospitality ของโรงแรมมาตรฐานระดับโลก การบริการมีทั้งที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ (Standard Services) และการบริการที่ผู้พักอาศัยสามารถขอรับบริการเพิ่มเติม (À La Carte Services) ประกอบกับแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจ ยังได้จัดสรรพื้นที่ชั้น 8 ให้เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนมีศูนย์สุขภาพ ห้องอเนกประสงค์ ห้องสปา ห้องทำผม ทำเล็บ ฯลฯ พื้นที่ส่วนกลางที่จัดเตรียมไว้มากถึง 6,500 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยสระว่ายนํ้าแบบอินฟินิตี้และเจ็ตพูล ห้องอาบนํ้าและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ห้องอบไอนํ้า ห้องซาวน่า Fitness Centre ห้องโยคะ Sky Lounge พร้อมห้องรับประทานอาหารเป็นส่วนตัว อยู่ที่ชั้น 29 และ 46 นอกจากนี้โครงการยังมีบริการเสริม เช่น การช่วยดูแลผู้สูงอายุและเด็กๆ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก เช่น ห้องเด็กเล่น Outdoor Kids’ World
ลงตัวทุกเจเนอเรชั่น
การมองหาที่อยู่ใหม่สำหรับครอบครัวถือเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ ที่คิดว่าวันหนึ่งลูกๆ ต้องเติบโตไปมีครอบครัวของตนเอง แต่ด้วยความใกล้ชิดผูกพันก็ยังอยากจะอยู่ดูแลกันไม่ห่าง ด้วยเหตุนี้ครอบครัวศุภกฤตกุลจึงเลือกห้องที่มียูนิตอยู่ในแนวลิฟต์ส่วนตัวในแนวเดียวกัน เพื่อไปมาหาสู่กันได้สะดวก แต่ในขณะเดียวกันสมาชิกแต่ละคนก็มีพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง
“ก่อนหน้านี้เราอยู่บ้านเดี่ยวตลอด แต่คุณพ่อคุณแม่ท่านเข้าใจดีว่าทุกคนต้องมีพื้นที่ของตัวเองและคิดไว้อยู่แล้วว่าเมื่อลูกๆ โตขึ้น ต่อไปก็ต้องมีครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราทุกคนก็ยังอยากอยู่ใกล้ๆ กัน ได้ดูแลกันและกันไป ซึ่งโครงการตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีมาก” คุณกวินกล่าว ส่วนคุณเป็นเอกเสริมว่า “ในขณะเดียวกันเราก็เชื่อมั่นในแบรนด์ดุสิต ผมเห็นแบรนด์นี้มาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดใหม่ๆ จนวันนี้ก็ยังดูพรีเมียมเสมอ ส่วนตัวจึงคุ้นเคยและมั่นใจว่าเขาทำได้ดีแน่นอน”
ความมั่นใจเช่นนี้มีผลต่อการตัดสินใจอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยด้านการถือครองสิทธิ์เช่าซื้อในระยะยาว หรือ Leasehold ในระยะเวลาถึง 58 ปี “ในมุมมองของเรา การตัดสินใจลงทุนกับที่อยู่อาศัยเป็นการลงทุนเพื่อครอบครัว ด้วยคุณภาพทั้งหมดของโครงการ ผมว่ามันตอบโจทย์การใช้ชีวิตและความต้องการของทุกคนในครอบครัวแล้ว ถ้าวันหนึ่งผมมีครอบครัว ผมก็สามารถจินตนาการได้ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่กับในอนาคตแน่นอนว่าย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงรุ่นลูกตอนนั้นเขาอาจจะไม่อยากอยู่ตรงนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นสำหรับรุ่นผมสิทธิ์การถือครอง 58 ปี คิดว่ายาวนานเพียงพอแล้ว” คุณกวินกล่าว
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่างและจองยูนิตได้ที่สำนักงานขายโครงการดุสิต เรสซิเดนเซส และดุสิต พาร์คไซด์ บริเวณหัวมุมถนนสีลม – พระราม 4 โดยนัดหมายล่วงหน้าที่เบอร์ติดต่อ 02-233-5889 อีเมลล์: enquiry@dusitresidences.com และช่องทางโซเชียลมีเดีย www.facebook.com/dusitcentral, www.instagram/dusitcentralpark
นอกจากนี้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ www.dusitresidences.com