หนุ่มนักเรียนนอกผู้นี้เริ่มจากสะสมแสตมป์สมัยรัชกาลที่ 5 – 6 ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น ครั้นคุณโอ๊คโตขึ้นมาหน่อย ก็เพิ่มคอลเลกชั่นเหรียญเก่า เงินพดด้วง ซื้อเองบ้าง ขอจากคุณแม่บ้าง
คุณอรรถดา คอมันตร์ หรือคุณโอ๊ค เป็นที่รู้จักในวงการ นักสะสมศิลปวัตถุและเครื่องเรือนไทยโบราณ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ หนุ่มนักเรียนนอกผู้นี้เริ่มจากสะสมแสตมป์สมัยรัชกาลที่ 5 – 6 ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น ครั้นคุณโอ๊คโตขึ้นมาหน่อย ก็เพิ่มคอลเลกชั่นเหรียญเก่า เงินพดด้วง ซื้อเองบ้าง ขอจากคุณแม่บ้าง
เมื่อเรียนจบกลับจากเมืองนอก คุณโอ๊คก็เริ่มสะสมรถโบราณ คุณโอ๊คเลิกสะสมรถคลาสสิกเมื่อมีลูก เพราะเวลาขับพาลูกสาวและภรรยาไปไหน รถเจ้ากรรม มักจะมีปัญหาและทำให้ภรรยา (คุณสมฤดี คอมันตร์) ต้องคอยจูงลูกสาวสองคนและรอให้คนขับรถมารับ หรือขึ้นรถไฟฟ้าอยู่หลายหน คุณโอ๊คเริ่มทยอยขายรถโบราณที่สะสมไว้ และนำเงินมาทุ่มให้กับการสะสมศิลปวัตถุ ภาพถ่ายโบราณ ศาตราวุธไทย และเฟอร์นิเจอร์ เอเชียโบราณ
นอกจากเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณ คุณโอ๊คยังสะสมเรือนไทยโบราณหลายหลัง หนึ่งในนั้นมีอายุกว่า 150 ปี ภายหลังยังได้ซื้อเรือนไม้ ปั้นหยาสไตล์โคโลเนียลอายุร้อยกว่าปี และย้ายทั้งสองหลังมาปลูกไว้ด้านหลังภวูนาลี รีสอรท์ เขาใหญ่ (ธรุกิจรีสอรท์ ของครอบครัว ) โดยคงสถาปัตยกรรมของเดิมไว้ทุกประการ
บ้านโคโลเนียลไม้สักทองหลังนี้ สร้างขึ้นช่วงปี 2450 ซึ่งเป็นช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ถึง ต้นรัชกาลที่ 6 เดิมเป็นที่ดินของ พระยาท่านหนึ่ง ภายในบ้าน คุณโอ๊คจึงกำหนดธีมตกแต่ง ให้เป็นบ้านขุนนางหนุ่ม ซึ่งได้ไปศึกษายัง ทวีปยุโรปในสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วกลับมารับราชการจนถึงยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองอันเป็นยุคของบ้าน ภายในตกแต่งด้วยเครื่องเรือนเอเชียในยุคเดียวกันซึ่งเขาค่อยๆสะสมมากว่า 20 ปี เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องรับรองชั้นล่างจะเห็นภาพแผนที่อยุธยาและภาพพิมพ์ทองแดง ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยอยธุยาประดับอยู่ ชั้นบนของบ้านมีพระบรมสาทิสลักษณ์พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นภาพพิมพ์หินประดับอยู่
เป็นเวลาร่วมสองปีที่คุณโอ๊คนั่งรถ ขึ้นเขาใหญ่ทุกอาทิตย์เพื่อไปคุมงาน ประกอบบ้านโคโลเนียลและเรือนไทยโบราณสองหลังนี้ และเขากำลังสร้างเพิ่มเติมอีกหลายหลัง เขาได้ดูแลการรื้อ การประกอบก่อสร้าง ซื้อวัสดุ และ ตกแต่งเองทุกขั้นตอน เฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งบ้านหลังนี้ ถ้าเป็นของไทยจะทำมาจากไม้สักเป็นส่วนใหญ่ ส่วนของที่มาจากประเทศในแถบเอเชียก็จะมีหลากหลายทั้งไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ชิงชัน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไทย พม่า เวียดนาม อินเดีย จีน และของ ไทยฝีมือช่างจีน แม้เฟอร์นิเจอร์จะมาจากหลายประเทศแต่ล้วนเป็นเฟอร์นิเจอร์แอนทีคยุคเดียวกับบ้าน จึงให้บรรยากาศย้อนยุคกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 และทุกอย่างก็สมบูรณ์ดังที่เขาตั้งใจ
“ความรู้สึกผมจะผูกพันอยู่กับยุครัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ของเก่าที่ผมสะสมก็จะเป็นของ ยุคนี้ส่วนใหญ่ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรถึง ผูกพันนักหนา บ้านเก่าสองหลังนี้ พอสร้างเสร็จ ผมก็รู้สึกภูมิใจมาก อยากให้อยู่ไปอีก 100 ปี ก็ไม่รู้ว่า ลูกหลานจะชอบหรือเปล่า แต่ผมทำตรงนี้ ผมสนุก และภูมิใจกับมัน และยังอยากจะทำหลังต่อๆ ไปอีก หากร่างกายเรายังไหวอยู่”