ในช่วงล็อคดาวน์แบบนี้ การจะออกไปหาอะไรทานก็อาจจะดูเสี่ยงเกินไป แม้การทำอาหารทานเองที่บ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในวันนี้ HELLO! ขอเอาใจสายเนื้อวัวใน 5 ส่วนของเนื้อวัว ประกอบเมนูอาหารจานเด็ด การันตีโดยเชฟแพม และแน่นอนว่าถ้าพูดถึงเมนูเนื้อ เชฟคนแรก ๆ ที่เราจะนึกถึงก็คือ เชฟแพม พิชญา อุทารธรรม แบรนด์แอมบาสเดอร์ True Aussie Beef ประจำประเทศไทย และเคยเป็นหนึ่งในกรรมการติดสินรายการ Top Chef Thailand และประสบการณ์ในการทำร้านอาหารโดยเฉพาะเมนูเอาใจคนรักเนื้อวัว
และในวันนี้ 5 ส่วนของเนื้อวัว ประกอบเมนูอาหารจานเด็ด การันตีโดยเชฟแพม ที่เชฟแพมก็ได้นำเคล็ดลับการนำส่วนต่าง ๆ ของวัวมาปรุงให้ได้รสชาติที่ออกมาดีที่สุดสำหรับเหล่าเชฟมือใหม่ ที่อยากเข้าครัวในช่วงของการ Work From Home หรือเอาใจคนพิเศษด้วยการทำอาหารเองให้ทานก็ดูจะโรแมนติกไม่เบา แต่ก่อนจะพูดถึงวิธีการปรุงอาหาร ก็ต้องเริ่มจากการเลือกเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้ตรงกับเมนูในใจของเราก่อน
สิ่งที่เราต้องรู้เพื่อเลือกวัตถุดิบมาประกอบอาหาร เชฟแพมได้ให้คำแนะนำก็คือ คุณภาพของแหล่งผลิต วิธีการเลี้ยง อาหารที่ใช้ และมาตรฐานการแปรรูป ที่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ เพราะว่าปัจจัยที่พูดมาจะส่งผลอย่างมากต่อรสชาติและสัมผัสของเนื้อวัวโดยตรงเลย และทางเชฟแพมเอง ก็นำเนื้อวัวออสเตรเลียมาประกอบอาหารให้ลูกค้าเสมอ เพราะเชฟต้องการนำเสนอของที่ดีที่สุดให้ลูกค้า เนื้อวัวออสเตรเลียนั้นผลิตจากฟาร์มปศุสัตว์ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี วัวจะสามารถเดินเล่นในทุ่งหญ้าได้อย่างอิสระ ทานหญ้าและธัญพืชคุณภาพดี ทำให้วัวมีสภาพความเป็นอยู่ดี ไร้ความเครียด ตัวเนื้อที่ได้ออกมานั้นจะมีรสชาติเยี่ยม ตามที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเนื้อทุกส่วนจะนำมาประกอบอาหารยังไงก็ได้ วันนี้เชฟแพมจะมาบอกวิธีการนำเนื้อส่วนต่าง ๆ นำมาประกอบให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
สันคอ (Chuck) – จะเป็นเนื้อส่วนไหล่ที่มีไขมันน้อย ราคาไม่ได้แพงมากจนเกินไป สามารถซื้อนำมารับประทานได้ในทุก ๆ วัน ใช้ปรุงอาหารได้หลายอย่าง เหมาะกับการปรุงโดยใช้ความร้อนนาน ๆ หรือการเคี่ยวเพื่อให้เนื้อนุ่มขึ้น ไม่ว่าจะเอาไปทำสตูว์เนื้อ หรือ เนื้ออบก็เป็นเมนูที่ชูรสชาติของเนื้อให้เข้มข้ม ออกมาอร่อยกลมกล่อม
ส่วนเนื้อใบพาย (Oyster Blade) – เป็นเนื้อบริเวณไหล่ที่มีความชุ่มฉ่ำ นุ่ม รวมถึงชั้นไขมันที่แทรกเยอะ เหมาะกับการนำไปปิ้งย่าง และให้สัมผัสที่เคี้ยวสนุก เพราะมีเยื่ออยู่ตรงกลาง
ซี่โครง (Beef Ribs) – เนื้อซี่โครงมี 2 แบบ คือ Back Ribs กับ Short Ribs โดย Back Ribs มาจากส่วนหลังบนของวัว ส่วน Short Ribs จะอยู่ต่ำลงมาจากซี่โครงด้านหลังของเสือร้องไห้ ทำให้มีไขมันแทรกเยอะมาก ซี่โครงสองส่วนนี้ให้สัมผัสที่แตกต่างกัน ในส่วนวิธีการปรุงนั้น คือต้องใช้ไฟอ่อนช้า ๆ ไม่ว่าจะเป็นการย่าง เคี่ยว ตุ๋นในหม้อแรงดัน ปิ้งไฟอ่อน หรือซูวี (Sous Vide) แต่ถ้าจะใช้ส่วน Back Ribs อาจจะต้องเติมน้ำมันลงไป เมนูที่เหมาะก็คือสเต็ก หรือซี่โครงเนื้ออบราดด้วยซอสเกรวี่
สันใน (Beef Tenderloin) – เนื้อแถบยาวที่แทบจะไร้ไขมันบริเวณสะโพก เป็นเนื้อที่มีมูลค่าและนุ่มที่สุดในตัววัว วิธีการปรุงที่สะดวกที่สุดของส่วนนี้คือ การนำไปย่างเป็นสเต็ก หรืออบให้ได้ความสุกที่ Medium Rare เมนูที่แนะนำก็คือ Beef Wellington
ริบอาย (Ribeye) – เนื้อส่วนซี่โครงของวัวที่เลาะเอากระดูกและเอ็นด้านนอกออก มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มพร้อมรสชาติเนื้อที่เข้มข้น ถูกใจสายกินเนื้อทุกคน วิธีที่ทำให้ได้รสชาติออกมาดีที่สุดคือ การอบ การย่าง การเซียร์ หรือจะเอามาทำบาร์บีคิวก็ดี
และอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เชฟแพมแนะนำมาสำหรับผู้ชื่นชอบในสเต็กก็คือ ขนาดที่เหมาะกับการทำก็คือ 1.5 นิ้ว -2 นิ้ว
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 ส่วนของเนื้อวัว ประกอบเมนูอาหารจานเด็ด การันตีโดยเชฟแพม ที่ทาง HELLO! ได้นำมาแชร์กัน หวังว่าทุก ๆ คนจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปรังสรรค์เมนูต่าง ๆ กันได้นะครับ