การเดินทางมอบประสบการณ์พิเศษให้นักเดินทางเสมอ หลายคนเลือกที่จะไปยังมิวเซียมแต่ละประเทศ ดื่มด่ำความงดงาม ความรู้ ท่ามกลางความเงียบสงบ และกลิ่นอายของของอดีตกาล วันนี้ HELLO! การเดินทางสุดพิเศษกับ 7 สถานที่รวบรวมของมีค่าของโลกเอาไว้ให้ชื่นชมความอลังการ ใช้เวลาให้คุ้มค่าอิ่มเอมไปกันศิลปะการออกแบบอันเป็นที่สุดของโลก
1.พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงอย่างสมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุดของเมืองไทย เมื่อ พ.ศ. 2546 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ใช้อาคารหอรัษฎากรพิพัฒน์เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 ภายในแบ่งเป็นห้องนิทรรศการต่างๆ ห้องแรกคือนิทรรศการ ‘ราชพัสตราจากผ้าไทย’ จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดสากล ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักออกแบบไทยและต่างชาตินำผ้าไหมไทยมาใช้ในการตัดเย็บโดยผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆ ห้องจัดแสดงที่ 2 นิทรรศการ ‘ไทยพระราชนิยม’ ที่ห้องนี้จะแนะนำให้รู้จักกับชุดไทยพระราชนิยม ซึ่งเกิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ต้องการให้คนไทยมีชุดประจำชาติไว้สวมใส่ในโอกาสต่างๆ สำหรับนิทรรศการ ‘งามสมบรมราชินีนาถ’ (Fit For a Queen: Her Majesty Queen Sirikit’s Creations by Balmain) จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 นิทรรศการจัดแสดงฉลองพระองค์กว่า 30 องค์ ที่ออกแบบโดยนายปิแอร์ บัลแมง นักออกแบบชาวฝรั่งเศสผู้ดูแลการตัดเย็บฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาเป็นเวลากว่า 22 ปี

‘โขน’ คืออีกหนึ่งห้องที่ไม่ควรพลาด ห้องนี้มีความเชื่อมโยงกับนิทรรศการ ‘เครื่องโขน’ นอกจากผู้เข้าชมจะได้รับความบันเทิงแล้ว ยังได้ทำกิจกรรมผ่านการปฏิบัติจริง ทำให้เข้าใจเนื้อหาของนิทรรศการได้มากขึ้น นิทรรศการ ‘เครื่องโขน’ (Dressing Gods and Demons: Costume for Khon) จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ เล่าเรื่องราวความเป็นมาของเครื่องโขนในอดีตที่ส่งผลให้เกิดการปรับปรุงและฟื้นฟูศิลปกรรมชั้นสูงต่างๆ จนเกิดเป็นเครื่องโขนพระราชทาน ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้การสนับสนุน
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ (www.qsmtthailand.org) เปิด ทุกวัน เวลา 09.00 – 16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 15.30 น.
2.BRITISH MUSEUM

เป็นมิวเซียมที่อยู่อันดับต้นๆ ของใครหลายคน ที่ตั้งใจว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต หรือเป็นจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาลอนดอน ยิ่งในวันที่อากาศไม่ดี หมอกหนาหรือฝนตก การมาใช้เวลาในบริติชมิวเซียมคือสิ่งที่ทำให้การเที่ยวลอนดอนของคุณไม่เสียเปล่า เป็นสถานที่รวบรวมวัตถุต่างๆ จากทั่วโลกกว่า 7 ล้านชิ้น ที่มีชื่อเสียง มีการบันทึกเรื่องราวของวัฒนธรรมมนุษย์จากในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ที่นี่มีโบราณวัตถุที่เป็นชิ้นเดียวในโลกมากมาย ใครที่เคยไปชมพิพิธภัณฑ์ในไคโรมาแล้วคงจำได้ว่าไกด์มักจะพูดถึงก้อนหินโรเซตตายืดยาวและเราได้ยืนดูแต่ของจำลอง เพราะของจริงอยู่ที่นี่ รวมทั้งห้องที่จัดแสดงมัมมี่ของที่นี่ดูจะยิ่งใหญ่สมบูรณ์กว่าที่ไหนๆ ไม่เพียงแต่โบราณวัตถุของอียิปต์ แต่ที่นี่มีชิ้นเอกชิ้นเด่นมาจากทุกมุมโลก ประตูหินแกะสลักขนาดมหึมาของอัสซีเรียที่ชื่อ บาลาวัต (Balawat gate) ที่เก่าแก่ก่อนคริสตกาลราวๆ แปดร้อยกว่าปีที่ห้องหมายเลข 6 ก็แสนจะ ตื่นตาตื่นใจ ดังที่เราทราบว่านี่คือรากฐานของวัฒนธรรมแบบเปอร์เซียที่เคยยิ่งใหญ่จนเป็น อู่อารยธรรมของโลก แน่นอนว่ามาที่นี่แล้วที่ไม่ควรพลาดก็คือ ห้องอียิปต์ แต่อย่าเพลินไปกับมัมมี่และโลงที่บรรจุมัมมี่ที่มีการประดับประดาสวยงาม ต้องชมว่าการจัดแสดงมัมมี่ที่นี่ทำได้น่าสนใจและเพื่อการศึกษาจริงๆ ไม่ใช่จัดวางแสดงเป็นโบราณวัตถุอย่างเดียว แต่มีการลำดับเรื่องราว การจัดแสดงโลงของมัมมี่เป็นชั้นๆ มีขั้นตอนการทำมัมมี่อย่างละเอียด ไม่มีที่ไหนที่ทำเรื่องมัมมี่ได้สมบูรณ์แบบเท่าที่นี่ ชิ้นเอกในห้องมัมมี่ที่จัดแสดงก็ถือว่าแทบจะ ทุกชิ้นในห้องนี้ แต่ชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจในห้องอียิปต์ก็คือรูปปั้นอาลักษณ์ ผู้ที่มีหน้าที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ รูปปั้นนี้ถือว่าทำได้คล้ายจริงมาก การฝังดวงตาด้วยลูกแก้วทำให้หุ่นนี้เหมือนมีชีวิตจริงๆ

มิวเซียมแห่งนี้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครันสมกับเป็นมิวเซียมอันดับต้นๆ ของโลก การมาชมที่นี่จริงๆ ใช้เวลาทั้งวันก็ไม่พอ ดังนั้นอาจจะลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของมิวเซียม www.britishmuseum.org ก่อน จะมีแกลเลอรี่ออนไลน์ให้ชมด้วย แล้วเจาะจงไปเลยว่าต้องการชมอะไร
3.EL MUSEO DEL ORO

โบโกตา คือนครหลวงแห่งโคลอมเบีย คือเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ ให้เดินสายเที่ยวชมกันหลายแห่ง ทั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ แต่สุดยอดพิพิธภัณฑ์ที่นักเดินทางต่างพากันมุ่งหน้าไปหาคือพิพิธภัณฑ์ทองแห่งโบโกตา ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงผลงานในทุกแง่มุมเกี่ยวกับทองคำในช่วง Pre-Hispanic ซึ่งนับเป็นคอลเลกชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลงานกว่า 55,000 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้ 30,000 ชิ้นเป็นทองคำ แต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมทองคำทุกคอลเลกชั่น กันที่นี่ปีละเกือบล้านคน

ส่วนชั้นที่สองของพิพิธภัณฑ์จะถูกเรียกว่า ‘People and Gold in Pre-Hispanic Colombia’ โดยเป็นการแสดงนิทรรศการของช่างทองในสมัยโบราณแตกต่างกันไปตามยุคสมัย แค่ชั้นนี้คุณก็จะตะลึงพรึงเพริดไปกับทองนานา รูปแบบและลวดลาย ที่มีทั้งเป็นหน้ากากและเครื่องประดับต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือชั้นเยี่ยมยุทธ์ของการทำทองในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงแสดงให้เห็นศิลปะของการทำทองในยุคต่างๆ ที่ทำได้อย่างน่าพิศวง

Golden mask มาที่นี่จะมีหน้ากากทองคำให้ดูเยอะมาก โดยเฉพาะบนชั้นสองของพิพิธภัณฑ์มีคอลเลกชั่นหน้ากากทองคำและเครื่องประดับอายุมากกว่า 2 พันปี ที่ใช้ในงานต่างๆ เช่น พิธีศพ และงานเฉลิมฉลอง ไปจนถึงงานเชิงศาสนา พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ โดยในวันอังคารถึงเสาร์เปิดตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น. ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุดเปิดตั้งแต่ 10.00 – 16.00 น. รวมถึงปิดทำการ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. ของทุกปี ค่าเข้าชมคนละ 4,000 เปโซ
4. V&A MUSEUM

ถือเป็นมิวเซียมที่ดีที่สุดในโลกที่จัดแสดงเกี่ยวกับงานศิลปะและการออกแบบต่างๆโดยเฉพาะงานมัณฑณศิลป์และเช่นเดียวกับมิวเซียมหลักๆในอังกฤษคือเปิดให้ชมฟรีไม่ว่าจะเป็นคนอังกฤษหรือนักท่องเที่ยวข้างในส่วนการจัดแสดงจะมีการปรับปรุงตลอดและมีนิทรรศการหมุนเวียนใหม่ๆที่น่าสนใจสามารถใช้เวลาอยู่ในนี้ได้ทั้งวัน


สิ่งแรกที่เป็นที่สนใจของคนไทยอย่างแน่นอนและ เพิ่งนำมาจัดแสดงเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็คือ เข็มขัดและเข็มกลัดเพชรของพระพันปีหลวง (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) ที่ท่านเจ้าของคนปัจจุบันได้ให้มิวเซียมยืมมาจัดแสดง ซึ่งจะอยู่ที่มุมศิลปะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นมุมเล็กๆ แต่น่าสนใจมาก ใครที่ได้ยินเสียงร่ำลือถึงความงดงามของเครื่องประดับเพชรชุดนี้ต้องมาดูให้เป็นบุญตา เพราะจะหาที่ไหนเสมอเหมือนยาก ทั้งฝีมือช่างและการออกแบบที่ประณีต มีภาพที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงเข็มขัดและเข็มกลัดนี้ประกอบกับคำอธิบายเล็กๆ แต่ไม่ยากที่เราจะเสาะหาภาพใหญ่ๆ อิ่มตาชมเพราะเป็นภาพที่ค่อนข้างแพร่หลายในบ้านเรา ส่วนจัดแสดงนี้จะอยู่ชั้นล่าง ไม่ได้อยู่ในห้องแสดงจิวเวลรี่ดังที่หลายคนมักจะเข้าใจผิด ส่วนนี้มีของสะสมของมหาเศรษฐินี ดอริส ดุ๊ก เธอสะสมศิลปวัตถุของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากมาย
ส่วนจัดแสดงวิวัฒนาการแฟชั่น หลังจากการปรับโฉมใหม่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่วนนี้ได้รับการพูดถึงมากขึ้น ไม่เสียทีที่ลอนดอนก็เป็นหนึ่งในเมืองหลวงของแฟชั่นโลก เขาไม่ได้เน้นแต่นักออกแบบชาวลอนดอน แต่แสดงให้เห็นแฟชั่นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 เรื่อยมาจนถึงยุค New Look ของดิออร์
วี แอนด์ เอ เปิดทุกวันเวลา 10.00 – 17.45 น.วันศุกร์เปิดถึง 22.00 น. VICTORIA AND ALBERT MUSEUM Cromwell Road, London, SW7 2RL โทร. +44 20 7942 2000 www.vam.ac.uk
5 . THE NATIONAL JEWELRY

ที่นี่คือ ‘กรุสมบัติ’ หรือมิวเซียมเก็บเครื่องเพชรพลอยอัญมณีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ไม่มีใครกล้าประเมินมูลค่าที่แท้จริงของมหาสมบัติกรุนี้ และอาจนับได้ว่านี่น่าจะเป็นทุนสำรองที่ค้ำเศรษฐกิจของประเทศอิหร่านไว้ด้วยซ้ำไป


มหามงกุฎ เครื่องประดับ อัญมณี เครื่องทองประดับอัญมณี ฯลฯ มากมายหลายสิบตู้ ในห้องมั่นคงในอาคารของธนาคารกลางแห่งประเทศอิหร่าน มีทั้งของเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ซาฟาวิด ที่สะสมเก็บกันมาร่วม 2,500 ปีก่อนและสร้างสะสมเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ จนถึงสมัยราชวงศ์ ปาห์ลาวี ทั้งงานฝีมือช่างท้องถิ่นยุคอาณาจักรเปอร์เซีย จนถึงฝีมือห้างเพชรทองชื่อดังจากฝรั่งเศส เป็นกรุที่ อลังการและยิ่งใหญ่กว่าห้องแสดง Crown Jewels ในมิวเซียมของประเทศอื่นใดในโลก ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม
ในอดีตเคยมีเหตุอัญมณีสำคัญ ‘หาย’ ไปจากกรุมหาสมบัติของเปอร์เซียครั้งหนึ่งในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 นั่นคือการสูญหายของเพชรโคห์อินูร์ (Koh-i-Nur) ที่จู่ๆ ไปโผล่ที่อินเดียและกลายเป็นบรรณาการถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ในที่สุด (ปัจจุบันประดับอยู่บนพระมงกุฎของพระราชชนนี ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร)

เวลาเปิดทำการ เสาร์ – อังคาร เวลา 14.00 – 16.30 น. ปิดวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ค่าเข้าชม คนละ 200,000 เรียล เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีห้ามเข้า หากไม่ได้ไปกับทัวร์ อาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่ (ที่ค่อนข้างยุ่งยากและท้าทายทักษะการต่อรองไม่ใช่น้อย)
……………………………….
ติดตามที่สุดของมิวเซียมกว่า 50 แห่งใน 6 ทวีปทั่วโลกกับการท่องเที่ยวแบบเฟิร์สต์คลาสได้ที่ HELLO! Travel ปี 2017 วางแผงแล้ววันนี้ !
หรือติดตามฉบับดิจิตอลได้ทาง https://shop.burdathailand.com