ชื่อเสียงของเกาะโบราโบราเลื่องลือกันว่า แพงระยับ ขนาดที่ว่า ไปโบราโบราครั้งเดียวเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ได้ 4 – 5 เที่ยวกันเลยทีเดียวแต่หากประจักษ์ด้วยสองตาเปล่าของคุณเอง ก็จะรู้ว่า ทุกคำขู่ใดๆ ล้วนไม่มีความหมายสำหรับนักท่อง ‘เกาะ’ เพราะบนเรือบินที่หอบผู้โดยสารจากเกาะตาฮิติไปสู่เกาะโบราโบรานั้นแทบไม่มีที่ว่างเหลือให้คนที่ไม่ได้จับจองมาล่วงหน้า
ตาฮิติเป็นประตูสู่โบราโบรา มีทั้งเรือและเรือบินให้บริการผู้สัญจรระหว่างเกาะ แต่นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะเลือกโดยสารทางเรือ นักท่องเที่ยวจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ถ้าใครจองที่พักสุดหรูที่อยู่ตามเกาะวงแหวน หรือที่เรียกว่าโมตู (motu) ก็จะมีเรือมารับจากสนามบินไปเลย แต่ถ้าใครที่พักบนเกาะกลาง ก็จะมีเรือบริการฟรีจากสนามบินไปส่งที่ท่าเรือของเกาะกลาง พิกัดอยู่ที่เมืองไวทาเป (Vaitape) จากนั้นโรงแรมที่กระจายอยู่ทั่วเกาะก็จะส่งรถมารับจากท่าเรือของเมืองไวทาเป
ไวทาเปเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยเกือบ 5 พันคนจากชาวเกาะที่อาศัยอยู่บนเกาะโบราโบราทั้งหมด 9 พันกว่าคน แต่เมื่อเห็นสภาพหน้าตาของเกาะ คุณอาจไม่อยากเชื่อว่าเกาะแห่งนี้จะมีผู้คนอาศัยอยู่เฉียดหมื่น เพราะบ้านช่องห้องหับของผู้คนซ่อนตัวอยู่ตามเหลี่ยมเขาก็เยอะ ส่วนบ้านที่ตั้งเรียงรายอยู่เรือบิน จะเจอกับลากูนสีสวยสดกระจายอยู่ทั่วผืนน้ำ ราวกับภาพวาดชิ้นงาม
ทั่วทั้งโบราโบรามีโรงแรมอยู่ราวๆ 10 แห่งเท่านั้น และก็อย่างที่รู้กันว่าแต่ละแห่งนั้น ล้วนแต่เป็นโรงแรมมีชื่อชั้นทั้งสิ้น ราคาจึงวิ่งตามความสะดวกสบายไปติดๆ ชนิดที่ว่านอนผึ่งแดดแถวนี้หลายวันเกินไปอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพทางการเงินได้
เรือนพักแทบทุกแห่ง มักจะมีทั้งแบบที่ชมวิวมหาสมุทรและอยู่บนชายหาด แต่ที่เหมือนกันคือเป็นวิลล่ากลางน้ำที่ชวนให้นึกถึงเกาะมัลดีฟส์วิลล่าแต่ละหลังก็อวดความหรูหรากันอย่างเต็มที่เรียกว่ามีวิวมหาสมุทรแปซิฟิกเสิร์ฟถึงบนเตียง หรือดูแล้วเกิดคึกคักจนอยากจะดีดตัวลงไปแช่น้ำ ก็เดินลงบันไดจากบ้านได้เลย แน่นอนว่าปลา ปะการัง และสัตว์ทะเลอีกหลายอย่างรอทุกคนอยู่อย่างคับคั่ง หากเบื่อหน่ายการนอนผึ่งแดดบนชายหาด ที่เกาะโบราโบราก็มีกิจกรรมให้เลือกทำแบบไม่ซ้ำหน้าโปรแกรมยอดนิยมที่หลายคนชอบกันคือล่องเรือไปรอบเกาะ ไม่ได้แค่ชมวิวสวยๆ ของเกาะที่มีเทือกเขาสูงเป็นฉากธรรมชาติอยู่ด้านหลังผืนน้ำสีสดเท่านั้น แต่โลกใต้ทะเลที่นี่ยังสมบูรณ์มาก มีทั้งฝูงฉลามและกระเบนชนิดต่างๆ
สีสันของน้ำทะเลในแถบลากูนาเรียมอาจทำให้หลายคนไม่อยากจาก เรือนำเที่ยวทุกลำจึงพานักท่องทะเลไปตั้งโต๊ะกินมื้อกลางวันกันกลางน้ำ กินไปชมกระเบนไปกันอย่างเพลินอารมณ์นอกจากทัวร์ทางทะเลแล้ว ยังมีทัวร์ตะลุยเกาะโบราโบราด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อด้วย เขาจะขับพาวนรอบเกาะ จากนั้นขึ้นไปจุดชมวิวหลายมุมของเกาะ ที่มองลงมาแล้วจะเห็นท้องทะเลที่งดงามได้อย่างเต็มตาลำพังในวันปกติ เกาะโบราโบราก็งดงามอยู่แล้วแต่ถ้าคุณได้มาโบราโบราในช่วงที่มีเทศกาลจะยิ่งน่าประทับใจและสนุกสนานมากขึ้น เช่นในช่วงเดือนกรกฎาคม เขาจะมีเทศกาลเต้นรำเฮวา (Heiva) รวมถึงยังมีเทศกาลแข่งเรือ (Hawaiki nuiva’a) ที่แข่งกันพายเรือพื้นเมือง ซึ่งจะจัดช่วงปลายๆ ปีโดยเขาจะแข่งกันหลายเกาะ เริ่มต้นที่เกาะฮัวฮิเน(Huahine) แล้วก็ไปที่เกาะไรอาเตีย (Raiatea) ตามมาด้วย
เกาะตาฮา (Taha’a) และมาสิ้นสุดที่เกาะโบราโบราบริเวณหาดมาทีรา (Matira beach) ใช้เวลาแข่งขันรวม 3 วันพูดถึงหาดมาทีรา ที่นี่เป็นหาดสาธารณะแห่งเดียวของเกาะที่ชาวเกาะมักจะบิดมอเตอร์ไซค์มานั่งเล่นกันนักท่องเที่ยวบางคนที่เบื่อกับการเล่นน้ำและผึ่งแดดแถวโรงแรม ก็มาแช่น้ำทะเลแถวนี้เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศแต่ไม่ว่าจะหาดสาธารณะหรือหาดส่วนตัวของโรงแรม หาดทรายบนเกาะโบราโบราก็ขาวละเอียดราวกับแป้งหากคุณประกาศตัวว่าเป็นนักล่าเกาะน่าเที่ยว
….โปรดรู้ไว้เถอะว่า ในโลกนี้ไม่มีเกาะไหนน่าไปนอนแช่น้ำทะเลเท่าที่เกาะโบราโบราอีกแล้วไม่ใช่เพราะมีความหรูหรารออยู่ที่ปลายทาง แต่เพราะโบราโบราโอบกอดทุกคนด้วยธรรมชาติ ขับกล่อมทุกคนด้วยเสียงคลื่นและสายลม และปรนเปรอทุกคนด้วยความสุขกลางสายน้ำ นั่นคงเป็นเหตุผลมากพอที่ทำให้นักท่องเกาะพากันพร่ำเพ้อถึงโบราโบรา