เปิดจุดเชคอินแห่งใหม่ ‘เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ’ กับบรรยากาศการพักผ่อนท่ามกลางแสงสีใจกลางกรุงฯ
เรียกว่ากลับมาคึกคักอีกครั้งภายหลังจากหลายๆ เมืองในหลายประเทศต้องตกอยู่ในสภาวะ Lock Down เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของธุรกิจต่างๆเริ่มกับมาฟื้นตัวดีขึ้น และล่าสุดเมื่อกรุงเทพฯ ประกาศคลายล็อกเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ทำให้แสงสี และความคึกคักลับมาอีกครั้ง วันนี้ HELLO! ขอพาคุณมาตื่นตากับจุดเชคอินโฉมใหม่อย่าง เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ พร้อมสัมผัสประสบการณ์การผักผ่อนในรูปแบบ Au Soleil ความสดใสภายใต้แสงอาทิตย์ในกรุงเทพฯ
เลอ เมอริเดียนโฉมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ป Au Soleil
หากพูกถึงแคมเปญ “Au Soleil” ที่แปลมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Under the sun หรือ ภายใต้แสงอาทิตย์ เป็นไอเดียหลักในการรีโนเวทโซนต่างของโรงแรม รวมไปถึงห้องพัก ที่จะทำให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ ผสมผสานเข้ากับกลิ่นอายของประติมากรรมต่างๆ ที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนานเหมาะกับบรรยากาศแสงสีต่างๆ ของกรุงเทพฯ ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกให้กลับมาสู่เมืองแห่งสีสันของประเทศไทยอีกครั้ง โดย คุณ Dieter Ruckenbauer ผู้จัดการคนล่าสุดของโรงแรมกล่าว่า “ให้ทุกคนดื่มด่ำไปกับแสงอาทิตย์ช่วง Golden hours ของกรุงเทพได้อย่างเต็มที่”
เริ่มต้นกันที่งานศิลปะที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์สำคัญที่ผู้ที่แวะเวียนมาไม่ควรพลาดแวะถ่ายรูปคู่กับ ‘ไอ้จุด’ รูปปั้นหมาสีขาวขนาดยักษ์ ที่ยืนเด่นรอต้อนรับอย่างร่าเริง บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมที่ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น มินิมอล ตามติดมาด้วยบรรยากาศภายในห้องพักได้รับการออกแบบอย่างประณีต คำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ รับชมทัศนีย์ภาพของกรุงเทพอย่างเต็มตาด้วย Floor to Ceiling windows กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจดเพดานบนโซฟานุ่มสบาย ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น โทรศัพท์ทัชสกรีน, สมาร์ททีวีจอ LED, ลำโพงเชื่อมต่อด้วยบลูทูธม, อ่างอาบน้ำที่แช่ได้ทั้งตัว และฝักบัวอาบน้ำที่แยกต่างหากเพื่อให้ความรู้สึกสงบสุขอย่างล้ำลึก
ห้องอาหารสุดล้ำ และบาร์สุดพิเศษ ที่ไม่ควรพลาด!!
เต็มอิ่มกับการพักผ่อน และความสวยงามของการตกแต่งในโซนต่างๆ แล้วก็ไม่ควรพลาดแวะมาลิ้มรสชาติอาหาร และเครื่องดื่ม เพราะที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน กรุงเทพ มีห้องอาหารไว้คอยให้บริการ 2 ห้องอาหาร 2 บาร์ด้วยรูปแบบการบริการที่แตกต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ เริ่มกันที่ ‘Latitude 13 Indoor’ มีบริการของว่างในรูปแบบอะลาคาร์ทแบบท้องถิ่น และอาหารว่างแบบสากล พร้อมทั้งอาหารที่สามารถแชร์กันได้ตลอดทั้งวัน พร้อมกับจานซิกเนเจอร์ของคาวอย่าง ครอสทินี ต่อด้วยของหวานเช่น บอมโบโลนี หรือจะเลือกดึ่มด่ำไปเครื่องดื่มที่รังสรรจากบาริสต้า
หากต้องการชมวิวกลางกรุงฯ ก็สามารถเลือกใช้บริการที่ ‘Latitude 13 Outdoor’ เป็นโซนที่เหมาะกับการสังสรรค์ ที่สำคัญคือสามารถพาน้องๆ เพื่อนสี่ขา มานั่งชิวด้วยกันได้อีกด้วย สำหรับสายดริ๊งก็สามารถสั่งเครื่องดื่มจาก ‘Tempo บาร์ใหม่เอี่ยม’ ที่มีมิกโซโลจิสต์ที่ผสมผสานกลิ่นอายของแดนอาทิตย์อุทัยใช้พืชผักสมุนไพรท้องถิ่น มารังสรรค์ค็อกเทลรสชาติแปลก แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะได้อย่างลงตัว
มาต่อกันที่มื้อหนักเอาใจสานเนื้อ กับห้องอาหารที่ตกแต่งสไตล์ Smoke House ผสมผสานกับความคันทรี่ โดดเด่นออกมากว่าโซนอื่น ที่ ‘Rolling Ribs Brew Bar & BBQ’ รับประกันได้ว่าต่อมรับรสจะถูกปรนเปรอด้วย ซี่โครงหมูย่างเนื้อนุ่ม เนื้อวัวส่วนอก ไก่ย่าง และอื่นๆ อีกมากมาย เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โคลด์สลอว์, ข้าวโพดปิ้งทั้งฝัก แกล้มด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่สั่งตรงจากไวด์เวสต์ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกให้คุณดึ่มด่ำไปกับค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟของเมืองที่ไม่มีวันหลับ
ตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนกับ SPA by Le Méridien
หลังจากอิ่มท้องก็ถึงเวลาพักกายพักใจกับการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบที่ SPA by Le Méridien สปาที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการการผักพ่อน และการดูแลตัวเอง ด้วยทรีทเมนต์ที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น การนวดน้ำมันแบบดิสคัฟเวอรี่ ในสไตล์ไทย-บาหลี และออนเซ็นส่วนตัว ซึมซับดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมเนียมที่รุ่มรวยของสปายุโรป ผสมผสานกับวิถีชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา และชุมชนริมน้ำดั้งเดิมของประเทศไทย
โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และชีวิตยามราตรีของย่านสีลม เข้าถึงได้ง่ายด้วยสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง และรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสามย่าน สามารถเดินทางไปยังแลนด์มาร์คสำคัญๆที่นักเดินทางห้ามพลาดในการไปเยี่ยมเยือน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่ 02 232 8888 หรือเว็บไซต์ www.lemeridienbangkoksurawong.com