Home > Lifestyle > Travel > ‘เคปทาวน์’ เมืองหรูในดินแดนแอฟริกา กับ 5 กิจกรรมสุดมัน สนุกครบทุกรส

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ ‘การท่องเที่ยวแบบผจญภัย’ ในสไตล์ลักชัวรี่แล้วละก็ วันนี้ HELLO! จะขอพาคุณไปรู้จักกับ ‘เมืองเคปทาวน์’ (Cape Town) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ เมืองที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก…แต่บอกเลยว่า “ที่นี่คือสวรรค์บนดินที่คุณไม่ควรพลาด!!!”

เมืองเล็กที่คุณจะต้องหลงใหล และเพลิดเพลินจนลืมเวลา (คำเตือน.!!! ควรแบ่งเวลาในการเที่ยวให้ดีๆนะคะ) เพราะ เคปทาวน์ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี แถมยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก และเรามาดูกันว่าที่เคปทาวน์ มีกิจกรรมอะไรเด็ดๆ สถานที่ไหนน่าเที่ยวกันบ้าง เตรียมตัวเชคลิสต์จัดทริปกันให้ดีๆเลยค่า

Shark Cage Diving ที่ Seal Island

เอาใจคนที่รักความแอดเวนเจอร์ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์ตรีมให้เรามีโอกาสได้ใกล้ชิดแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับปลาฉลามขาว,โลมา และแมวน้ำ อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยเช่นกัน แต่เที่ยวกับ HELLO! ทั้งที มีหรือจะพลาดเพราะเพียงแค่ดำดิ่งไปใต้น้ำพร้อมกับกรงเหล็กที่กั้น เราก็ได้พบกับเจ้าฉลามที่จะว่ายวนไปมาอยู่รอบกรง แถมยังได้มีโอกาสยลโฉมแมวน้ำในเวลาใกล้ๆ กันอย่างใกล้ชิด

ซึ่งเซเลบริตี้ที่มาร่วมทริปกับเราอย่าง ‘ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ’ และลูกชาย ‘คุณกวิน’ ถึงกับบอกว่า “เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้เห็นปลาฉลามขาวว่ายเข้ามาหาเรา แต่กว่าจะไปค่อนข้างเหนื่อยเพราะนั่งเรือนาน แต่พอไปถึงได้เห็นแมวน้ำนับหมื่นตัว ก็หายเหนื่อยเลยครับ ใครอยากมาต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรง เพราะเรือแล่นเร็ว คลื่นก็แรง แต่ตื่นเต้นคุ้มค่าครับ”

ถือเป็นกิจกรรมสุดตื่นเต้น เพราะนอกจากจะได้ใกล้ชิดฉลามตัวเป็นๆแล้ว ยังได้รับความตื่นเต้น ด้วยความที่วิสัยทัศน์ใต้ท้องทะเลนั้นไม่ได้ดีเยี่ยม ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ในระยะเพียง 3-5 เมตรแค่นั้น เลยทำให้นักดำน้ำอย่างเราเกิดอาการแอบตกใจเวลาเห็นฉลาม เพราะกว่าจะรู้ตัว เจ้าฉลามก็ว่ายเข้ามาประชิดติดกรงซะแล้ว ซึ่งถ้าคนที่ตกใจง่ายอาจจะทำให้ฉลามตกใจและจู่โจมได้ ดังนั้นเราจึงต้องสงบสติอารมณ์กันสุดฤทธิ์ !!!

 

Table Mountain

ภูเขาที่มีรูปคล้ายโต๊ะ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากทั่วทุกที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงจุดไหนของเมือง และได้รับเลือกให้เป็น 1 ในมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก้ด้วย เนื่องจากมีรูปร่างไม่เหมือนภูเขาปกติทั่วไปที่มักจะมียอดเขา ภูเขานี้มีความสูง 1,086 เมตร หรือ 3,563 ฟุต

เมื่อแดดร่มลมตก อากาศกำลังสบายเหมาะกับการนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา Table Mountain อันเกิดจากหินหลายชนิดที่ผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศนานหลายร้อยปี จนกลายเป็นภูเขารูปร่างแปลกตาอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งถ้าได้อยู่บนยอดภูเขานี้จะมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเคปทาวน์ได้โดยรอบเลย

 

Boulder Beach

ชายหาดที่มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยเหล่านกเพนกวินสายพันธุ์แอฟริกาตัวเล็กอ้วนปุ๊กลุกอยู่กันนับพันตัว ซึ่งเซเลบริตี้หนุ่มช่างสังเกตอย่าง ‘คุณบอย-หิรัญ ตันมิตร’ ผู้ชื่นชอบเจ้าเพนกวินสายพันธุ์นี้มาก “เพนกวินทั่วไปสีดำทั้งตัว แต่ที่นี่มีสีขาวตรงท้องกับคอตัดกับสีดำทำให้คล้ายกับใส่ทักซิโด้” ที่ Boulder Beach พวกเราต้องเดินบนสะพานไม้ที่ลัดเลาะไปตามชายหาดเท่านั้น

เพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติของเจ้าเพนกวิน แต่แค่นี้ก็ได้เห็นถึงความน่ารักของเจ้าเพนกวินอย่างใกล้ชิดแล้ว ทั้งที่กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่อย่างสนุกสนาน หรือที่เดินต้วมเตี้ยมไปมาอย่างน่าดูชม เห็นแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ว่ากันว่านกเพนกวินเป็นสัตว์ที่อยู่เป็นคู่และรักเดียวใจเดียว จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นพวกเขาจับคู่กัน ยืนหลับเอาหัวพาดกันมั่ง บ้างก็พากันนอนหงายเอาเท้าชี้ฟ้าหลากหลายอารมณ์ ทำให้พวกเราต่างคว้ากล้องมาถ่ายภาพกันอย่างรัวๆ

 

Cape of Good Hope

ทัศนียภาพอันงดงามของเคปทาวน์ เมืองที่ติดอันดับน่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของโลก

แหลมดังระดับโลก เพื่อชื่นชมความงามของมหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมฟังตำนานมิติลี้ลับของเรือผีสิงอย่าง Flying Dutchman ที่อับปางกลางสายหมอกใกล้กับแหลมแห่งนี้อีกด้วย พร้อมกับชมจุดชมวิวบนยอดสูงสุดของ Cape Point ซึ่งมีประภาคารเก่าแก่ตั้งอยู่ให้ขึ้นไปชมวิวโดยรอบได้

 

ชมไร่องุ่นและดูกรรมวิธีการผลิตไวน์ ณ Tokara Wine Estate

ถือเป็นสินค้าส่งออกชื่อดังของแอฟริกาใต้ที่เมืองสเตลเลนบอช ซึ่งสำหรับคอไวน์แล้วต้องไม่พลาดไวน์แดง Tokara ผลิตจากองุ่นปิโนทาจ (Pinotage) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสายพันธุ์ประจำชาติ ที่พัฒนาสายพันธุ์จากองุ่นปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) กับแซงโซลต์ (Cinsault) หรือที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า เฮอโนทาจ (Hermitage) ถือเป็นไวน์ที่พิเศษสุดและหาได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

 

ท่องป่าซาฟารี ณ Private Game Reserve เขตการู 

อุทยานส่วนตัวที่รวบรวมสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะ The Big Five สัตว์ใหญ่หายากทั้ง 5 ชนิดของแอฟริกาใต้ ได้แก่ สิงโต เสือดาว แรด ช้าง และกระบือแอฟริกัน ณ Private Game Reserve ในเขตการู เจ้าหน้าที่ขับรถที่ทำหน้าที่เป็นไกด์พาเข้าไปในแดนต่างๆ เริ่มจากแดนสิงโตที่อยู่กันเป็นฝูง จากนั้นก็ได้เห็นช้างป่าแอฟริกัน,เสือชีตาร์ปราดเปรียว,ฝูงม้าลาย,ยีราฟ,ฝูงแรดนอนอาบแดดอย่างขี้เกียจ

ปิดท้ายการท่องซาฟารีด้วยฝูงเจ้า Springbok ที่เป็นสัตว์ประจำชาติของแอฟริกาใต้ มีลักษณะคล้ายกวางแต่กระโดดได้เหมือนจิงโจ้ และด้วยภูมิประเทศที่ยื่นออกไปทางระหว่างสองมหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้สภาพอากาศของที่นี่จึงอบอุ่นแบบเมดิเตอร์เรเนียน เรียกได้ว่าอากาศใกล้เคียงกับประเทศไทย…

 

ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนบอกเลยว่า…

‘เคปทาวน์’ จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

 


ขอขอบคุณ Siam Paragon สำหรับทริปท่องเที่ยวสุดพิเศษ ตั้งแต่การเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ ที่มี Mr.Mohammad Sarhan ผู้จัดการประจำประเทศไทย บินร่วมทริปเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม และ ‘คุณน้อง-มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์’ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ที่บินตามมาดูแล VVIP ของพารากอนด้วยตัวเอง เราขอยกนิ้วให้สปริตในการดูแลลูกค้าและผู้ร่วมทริป แม้อากาศค่อนข้างเย็นและแห้ง อีกทั้งแดดแรงมาก พารากอนก็เตรียมครีมเพิ่มความชุ่มชื้นจากคลาแร็งส์ และครีมกันแดด SPF สูงคอยบริการให้ทาเติมกันตลอดทริป ไกด์บุ๊กเที่ยวเคปทาวน์จากหลุยส์ วิตตอง ผ้าพันคอลายซาฟารีจากจิม ทอมป์สัน รวมถึงคอยแจกวิตามินซีเพิ่มความแข็งแรงกันทุกวันตลอดทริป

Siam Paragon ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ เรียกว่าเป็น Luxury Service beyond Expectation จริงๆ ค่ะ

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.