ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา โปรตุเกสได้เข้ามาอยู่ในการเดินทางของเราด้วยความตั้งใจ เพราะโดยปกติแววชอบเมืองที่ความหลากหลาย และไม่อยากไปซ้ำในเมืองเดิม ทั้งการไปประเทศใหม่ๆ เมืองใหม่ๆ ทำให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ กลับมาด้วย – – HELLO! Destination พร้อมตามรอย ‘คุณแวว-ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ เตชะอุบล’ ไปกับทริปครอบครัวแสนอบอุ่นครั้งนี้แล้ว !!

แวว พี่เบน (สามี) และวรัตถ์ (น้องเตช-ลูกชาย) เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการขึ้นเครื่องบินไปลงที่ลอนดอนก่อนจะนั่งเครื่องบินต่อไปที่ปอร์โต้ เพราะเมืองไทยไม่มีสายการบินใดที่บินตรงไปลิสบอนหรือเมืองอื่นในโปรตุเกส เราเช่ารถขับเลาะลงทางใต้อย่างไม่เร่งร้อน ตามนิสัยที่ชอบเสพบรรยากาศของเมืองที่ไป แพลนในแต่ละวันจึงถูกเขียนขึ้นไว้อย่างหลวมๆ เพื่อให้เราเดินเล่นหรือแวะทานอะไรอร่อยๆ ได้ตามใจ หรือที่เที่ยวอื่นๆ ที่จะเหมาะกับเด็กอายุสี่ขวบบ้าง

กำเนิดเหล้าพอร์ต มีโบสถ์สวยๆ อยู่หลายแห่งที่มีเอกลักษณ์ด้วยการใช้กระเบื้องเคลือบเขียนลายเป็นผนัง หรือที่เรียกกันว่า ‘Azulejo’ ซึ่งศิลปะการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนลายเหล่านี้ ได้รับอิทธิพลจากแขกมัวร์ที่เคยเข้ามาปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน

ที่จริงแล้วปอร์โต้เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่เดินหนึ่งวันก็อาจครบ แต่เราก็ใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึงสามคืน เพื่อทำความรู้จักกับเมืองที่เคยคึกคักในอดีตให้มากหน่อย Church of Saint Ildefonso และ Capela das Almas คือโบสถ์ที่แววจดลงลิสต์ว่าจะต้องไปให้ได้ ตามวิสัยของคนที่ชอบงานเซรามิก ทั้งสองโบสถ์นี้มีผนังที่เป็นกระเบื้องทั้งหมด ส่วนภายในมีโครงสร้างแบบบารอกเหมือนกันทั้งคู่ เรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาและประวัติศาสตร์ ถูกเขียนขึ้นบนแผ่นกระเบื้องเป็นรูปภาพขนาดใหญ่

เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่แค่ในโบสถ์ที่เราไปเยือน เพราะที่สถานีรถไฟ São Bento ก็มีเรื่องเล่าบนแผ่นกระเบื้องเช่นเดียวกัน เมื่ออ่านแล้วเราจะเข้าใจว่าแต่ละลวดลายที่เห็นนั้นเกิดจากอะไร เป็นเหตุการณ์ไหนที่มีอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล หรือเรื่องราวเกี่ยวกับการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ในอดีตกาล

ดูเหมือนว่าปอร์โต้จะเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญไม่ว่าโบสถ์หรือพระราชวัง จะมีไพรเวตทัวร์ที่นำบรรยายได้หลายภาษา หรือจะไปจอยน์กับทัวร์ที่จัดเป็นรอบทุกชั่วโมงอยู่แล้วก็ได้ ที่ปอร์โต้เราเลือกเดินเที่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ แม้จะเป็นการเดินขึ้นลงบนเนินสลับกันไปก็ไม่ได้ทำให้เรานึกเบื่อ เพราะมีอะไรให้เราเพลินตาได้ตลอดเวลา

เราพักค้างที่ซินตร้าในคืนที่สี่หลังจากเดินทางมาทั้งวัน ความจริงแล้วซินตร้าอยู่ไม่ห่างจากลิสบอนเมืองหลวง เพียงใช้เวลาแค่สี่สิบนาที เราก็จะไปถึงลิสบอนได้ง่ายๆ แต่เราเลือกที่จะพักที่นี่เพราะซินตร้าเป็นเมืองตากอากาศที่บรรยากาศต่างจากปอร์โต้ซึ่งเป็นเมืองท่าและเมืองค้าขายอยู่ลิบลับ โรงแรมที่พักหลายแห่งเป็นการซื้อพาเลซเก่ามาปรับปรุงใหม่ แต่คำว่า ‘พาเลซ’ ของที่นี่ ไม่ได้มีความหมายว่าเป็นพระราชวังมาก่อน แต่เป็นคำที่ใช้เรียกบ้านหลังใหญ่โตของเศรษฐีซึ่งมีอยู่มากในซินตร้า

เราพักอยู่ที่ซินตร้าสองคืน ก่อนจะออกเดินทางอีกครั้งในเส้นทางเลียบมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อมุ่งหน้าไปลิสบอน ซึ่งเป็นเมืองซึ่งให้บรรยากาศที่ต่างไปอีกครั้งเมื่อเทียบกับปอร์โต้และซินตร้ ผู้คนที่นี่ยินดีกับความเรียบง่ายในแบบที่เป็นอยู่ การได้เดินเล่นซอกแซกในเมืองที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหาร ที่มีทั้งร้านมิชลิน ภัตตาคาร หรือร้านแบบบ้านๆ สลับกันไป มีตลาดให้เดินช้อปปิ้งได้สนุกทั้งสบู่ น้ำหอม เทียนหอม และงานเซรามิก

Torre de Belém หรือ Belém Tower ป้อมปราการสำคัญซึ่งเป็นตัวแทนแห่งยุคการสำรวจของชาวโปรตุเกส ไม่ไกลกันนักคือ Padrão dos Descobrimentos หรืออนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวาสโก ดา กามา ในการออกเรือไปสำรวจอินเดีย เราอดไม่ได้ที่จะไปชมบ้านเศรษฐีหลังหนึ่งซึ่งไม่ได้มีแนะนำในไกด์บุ๊ค Palácio dos Marqueses da Fronteira เป็นตึกโบราณของบรรพบุรุษที่เจ้าของรุ่นปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ ลักษณะเหมือนลอดจ์ที่สร้างขึ้นไว้เพื่อพักยามล่าสัตว์จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงเช้า และต้องจองบัตรก่อนเข้าชม เราไปในช่วงวิสทีเรียสีม่วงกำลังออกดอกสะพรั่ง จึงทำให้บ้านหลังนี้ยิ่งสวยเป็นพิเศษ

เรายกให้ลิสบอนเป็นช่วงเวลาของเตชอย่างเต็มที่ ด้วยการพากันไปเที่ยวอควาเรียมที่มีปลาโมลาโมลาตัวใหญ่ เราตั้งใจมองหาปลาตัวนี้แต่หาเท่าไรไม่เจอ จนได้รู้ว่ามันเพิ่งตายไปเมื่อไม่นาน จึงเหลือแต่ตัวย่อมๆ ให้เราได้ดู และพาเขาไปวิ่งเล่นใน Monsanto Forest Park สวนสาธารณะที่เป็นเหมือนป่าขนาดใหญ่ ที่สวนสาธารณะนี้ เตชได้ผูกมิตรกับเพื่อนวัยเดียวกันด้วยภาษาที่สื่อสารกันคนละทาง ในขณะที่เขาเรียกหนุ่มน้อยโปรตุเกสว่า ‘My Friend’ อีกฝ่ายก็เรียกเตชว่า ‘Amiko’

แม้จะพูดกันคนละภาษา แต่พวกเขาก็เล่นสนุกกันได้เป็นชั่วโมง ทำให้โปรตุเกสนอกจากจะเป็นเมืองที่เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่ประทับใจในความงดงามที่เรียบง่าย เราเชื่อว่าเตชเองก็คงจะสัมผัสได้ถึงมิตรภาพเล็กๆ กับเพื่อนต่างภาษา ที่เขาคงจะจำได้เมื่อได้เห็นภาพถ่ายที่เราบันทึกเอาไว้