หากเอ่ยชื่อของที่พักระดับ 6 ดาว ในประเทศไทยที่สวยที่สุดแล้ว HELLO! ต้องบอกว่า ที่ ‘Soneva Kiri’ (โซเนวา คีรี เกาะกูด) เป็นหนึ่งในที่พักอันดับต้นๆและยังเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะไม่เพียงแต่ความงามของเกาะกูดสถานที่ตั้งซึ่งมีท้องฟ้าสวยน้ำทะเลใสเป็นฉากหลัง แต่รีสอร์ทและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของโซเนวา คีรี ได้ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว สมกับที่ใครหลายคนนิยามว่าที่นี่คือสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง
ประสบการณ์สุดลักซ์ชัวรีครั้งนี้เริ่มขึ้นด้วยความมีระดับตั้งแต่ก้าวแรกที่เราได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯก็มาถึงเกาะกูด จากนั้นเราได้นั่งเรือชมบรรยากาศแบบเพลินๆจนไปถึงยังที่พัก
ซึ่งที่โซเนวา คิรี มีห้องพักแบบวิลล่าจำนวน 36 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นชายหาดและบนเขาหันหน้าสู่อ่าวไทย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ดูคลาสสิก มีอ่างจากุซซี่แบบโอเพนแอร์ ให้เราได้ผ่อนคลายแนบชิดธรรมชาติ หรือถ้าหากมากับครอบครัวรับรองว่าเด็กๆจะต้องถูกใจกับสไลเดอร์ส่วนตัวที่มีในวิลล่าทุกหลัง รวมทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่นรถกอล์ฟและฟิตเนสส่วนตัวไว้บริการ แถมยังมีพนักงานบริการที่เรียกกันว่า Mr./ Ms. Friday ประจำวิลล่าซึ่งคอยดูแลตลอดเวลาอีกด้วย
พลาดไม่ได้สำหรับไฮไลต์อันโด่งดังอย่าง “ทรี พอท” กระเช้าบนต้นไม้สูงกว่า 5 เมตรที่เสิร์ฟอาหารรสเลิศพร้อมด้วยประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบไม่ธรรมดา ทำให้เราทั้งตื่นเต้นและประทับใจไปกับวิวสุดอเมซิ่งในเวลาเดียวกัน หรือถ้าอยากสัมผัสค่ำคืนของดินเนอร์มื้อพิเศษแนะนำว่าต้องไม่พลาดนั่งเรือล่องเข้าไปที่คลองยายกี๋จะพบเรือนไม้ทรงไทยท่ามกลางป่าโกงกาง อันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารไทยซึ่งใช้ชื่อตามเชฟว่า ‘เบนซ์’ จุดเด่นของร้านคุณเบนซ์นี้ไม่ธรรมดาเพราะไม่ต้องพึ่งพาเมนูใดๆให้มากความ เชฟเบนซ์จะสร้างความเซอร์ไพร์สด้วยเมนูเด็ดจากวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลองจนต้องติดใจไปตามๆกัน
นอกจากนี้โซเนวาคีรี ยังมีความพิเศษต่างๆทั้งจอหนังกลางแจ้งขนาดใหญ่, หอดูดาว, ห้องช็อคโกแลตและไอศครีม และ สนามเด็กเล่นขนาดมหึมา แถมเวลาที่โซเนวา คีรีจะเร็วกว่าเวลาท้องถิ่น 1 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ตื่นเช้าขึ้นและนอนเร็วขึ้น เอ็นจอยกับชีวิตได้มากขึ้น รับรองว่าเพลิดเพลินกันจนลืมเวลา
สิ่งที่เราประทับใจและนับเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนที่นี่คือเรื่องของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวคิดของสองสามีภรรยาผู้ก่อตั้งโซเนวา คีรี โสนุและเอวา ชิฟดาซานี ที่ได้บุกเบิกปรัชญาการท่องเที่ยวแบบ SLOW LIFE (Sustainable-Local-Organic-Wellness Learning-Inspiring-Fun-Experiences) โดยที่นี่หยุดการสั่งซื้อน้ำจากภายนอกมาตั้งแต่ปี 2008 และทำน้ำดื่มเองที่รีสอร์ท ทำให้สามารถลดมลพิษ และงดการใช้ขวดพลาสติคได้ราว 900,000 ขวด รวมถึงทุกบิลค่าใช้จ่ายของแขกที่มาพัก โซเนวาจะชาร์จเพิ่ม 2% เพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มาตรการนี้สามารถรวบรวมเงินกองทุนได้ถึง 5.7ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายโครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ล้านตันภายใน 7 ปี และมีผู้คนกว่า 150,000 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการเหล่านี้
ด้วยคอนเซ็ปต์ว่า No News No Shoes ทำให้ตลอดระยะเวลาหลายวันที่พักที่นี่ เราได้ใช้ลองใช้ชีวิตที่ปราศจากความวุ่นวาย ได้ลองเปิดตามองดูธรรมชาติแทนการจ้องโทรศัพท์มือถือ ได้เปิดหูฟังเสียงร้องของเหล่านกตัวน้อยและเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ได้ลองเปิดใจให้กับการท่องเที่ยวแบบ Slow life ที่หรูหราและเป็นส่วนตัวได้แต่ไม่ทำลายธรรมชาติ เป็นมนต์เสน่ห์ของโซเนวา คีรี ที่ทั้งงดงามและล้ำค่า ทำให้เราภูมิใจว่าเมืองไทยงดงามไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยจริงๆ