หากปักหมุดจุดหมายท่องเที่ยว ณ ถนนบรรพปราการ ในใจกลางเมืองเชียงรายวันนี้ นอกจากมีหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติที่ออกแบบสุดตระการตาโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ปรากฏบน google map เป็นแลนด์มาร์คสำคัญแล้ว ใกล้ๆ กันนั้น เมื่อเดินทางผ่านถนนสายนี้ ยังได้ตื่นตากับสถาปัตยกรรมยุค Midcentury Design หรือยุค 60’s ของ Sooknirund Hotel (โรงแรมสุขนิรันดร์) ที่ถูกรีโนเวตกลายเป็น Luxury Boutique Hotel แห่งแรกของเมืองเชียงราย ภายใต้ฝีมือผู้บริหารสาวคนเก่ง ‘คุณส้ม-สุธาสินี จิตรสกุล’ ทายาทรุ่น 4 ของครอบครัว ‘จิตรสกุล’ ตระกูลธุรกิจใหญ่แห่งเมืองเหนือที่ครอบครองกิจการโรงแรมหรูหลายแห่งในเชียงรายและเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นดีลเลอร์โตโยต้ารายใหญ่ในภาคเหนือ

‘สุขนิรันดร์’ หมุดหมายใหม่ของเมืองเชียงราย
หลังเรียนจบ Hospitality Specialize in Leadership จาก GLION ซึ่งเป็นการเรียนที่รวมไว้ซึ่ง service industry ในทุกแวดวงธุรกิจ เช่น โรงพยาบาล การบิน รถ โรงแรม ฯลฯ คุณส้มในฐานะลูกสาวคนโตก็กลับมาช่วยครอบครัว โดยนั่งเก้าอี้ผู้บริหารธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าที่มีโชว์รูปกว่า 14 แห่งในเชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา รวมถึงธุรกิจกลุ่มโรงแรมเวียงอินน์ โดยล่าสุดรับไม้ต่อจากคุณพ่อ (เรืองชัย จิตรสกุล) ปรับโฉม Sooknirund Hotel โรงแรมเก่าแก่อายุเกือบ 60 ปี และปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ สัญลักษณ์แห่งเมืองเชียงรายอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมา

“ย้อนไปภาพฝันของส้มคืออยากมีบูทีกโฮเต็ลเล็กๆ แค่สัก 10 ห้อง และให้บริการเขาเหมือนเป็นแขก VIP ของบ้านเรา เพราะโรงแรมของครอบครัวเป็นโรงแรมใหญ่ที่มีถึง 250 ห้องทั้งนั้น ซึ่งส้มหาทำเลที่จะใช่มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เจอที่เป็นของเราสักที จนสุดท้ายป่าป๊ากับหม่าม้า (จินตนา จิตรสกุล) ชี้เป้ามาที่โรงแรมสุขนิรันดร์ โรงแรมที่อากง (ประเสริฐ จิตรสกุล) เป็นผู้ก่อร่างสร้างขึ้นมาและมีอายุเกือบ 60 ปีแห่งนี้ แต่ว่าเล็กสุดก็มีจำนวนห้องถึง 100 ห้อง โอเค! 100 ห้องก็ได้ ส้มลุยเลย จากจำนวนห้องหลักร้อย merge เหลือเพียง 52 ห้อง รีโนเวตใหม่ กลายเป็น Sooknirund Hotel ในบรรยากาศ Luxury Boutique ที่มีกลิ่นอายเมืองเหนือ กลิ่นอายล้านนา ให้ความรู้สึกหรูหราแต่อยู่สบายในโรงแรมของเรา”
‘สุขนิรันดร์’ คะแนนโลเคชั่นเต็ม 10
นอกจากจะมีไฮไลต์ในการชมความงามของหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติได้อย่างใกล้ชิดแล้ว Sooknirund Hotel ยังเนรมิตด้านหลังโรงแรมให้เป็นมุม ‘บ้านดำของ อ.ถวัลย์ ดัชนี’ และยังใกล้กับถนนคนเดินกับไนท์บาซาร์
“การมีผลงานของอาร์ติสต์ 2 ท่านทั้งหน้าโรงแรมและหลังโรงแรม ทำให้ทำเลของ Sooknirund Hotel ถือว่า ยูนีกมากๆ มีคนบอกว่ามานั่งอยู่ในโรงแรมเราเหมือนได้มานั่งเสพงานศิลป์ และได้ทั้งบรรยากาศ local และ culture เพราะเชียงรายเป็นเมืองศิลปะ เมืองแห่งศิลปิน เพราะมีอาร์ติสต์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านมาอยู่กันที่เชียงราย นอกจากนี้ Sooknirund ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีร้านอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อรายล้อมให้เลือกสรรมากมาย
“ส้มอยากให้ทุกคนที่มาเชียงรายต่อจากนี้ ไม่ใช่แค่ไปอินกับธรรมชาติเท่านั้น แต่คุณสามารถเข้ามาพักผ่อน ใช้ชีวิตสโลไลฟ์ได้ในเมืองเชียงรายที่มีวัฒนธรรมงดงามน่าค้นหา มีเสน่ห์ของความเป็นพื้นถิ่นแท้แห่งล้านนา ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตร หรือจะเดินทางไหว้พระ 9 วัด กราบพ่อขุนเม็งราย สร้างสิริมงคลให้ชีวิต คุณจะเห็นการใช้ชีวิตคนท้องถิ่น ได้อารมณ์สโลไลฟ์ที่ไม่ต่างจากเมืองน่านหรือเมืองลาว”
‘สุขนิรันดร์’ กลิ่นอายล้านนา เซอร์วิสมาตรฐานยุโรป
ดั้งเดิมของโรงแรมสุขนิรันดร์คือโรงแรมยุค 60’s ที่มีการออกแบบโครงสร้างอาคารไว้ร่วมสมัย ทำให้คุณส้มยังคงเก็บโครงสร้างเดิมไว้แทบทั้งหมด เพื่อคงกลิ่นอายคลาสสิกสไตล์ contemporary และเริ่มรีโนเวตมาตั้งแต่ ปี 2016 จนเสร็จสิ้นในปีนี้ ซึ่ง Sooknirund (Est.1962) Hotel เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
“ยอมรับว่าแพลนแรกๆ มีการจะทุบอาคารเดิมค่ะ แต่สุดท้ายพวกเราวกกลับมาคิดว่า ‘ไม่เอาดีกว่า’ เพราะอยากเก็บสิ่งที่อากงสร้างไว้และมันเป็น story ของจังหวัดเชียงราย เป็น history ของที่นี่ เลยจบที่เก็บโครงสร้างเดิมไว้ แต่ข้างในถูกปรับเปลี่ยนให้มีความหรูหราขึ้น โดยเป็นความหรูหราที่มีความ homey ไม่อยากให้รู้สึกว่าเป็นโรงแรมจ๋า แต่อยากให้รู้สึกเป็นบ้านพักตากอากาศ ง่ายๆ ก็คืออยากให้ Sooknirund ใหม่มีความ luxury มีความเป็นตัวเรา มีความเก่าแก่และความขลังที่เป็นมนต์เสน่ห์มีความเป็นพื้นถิ่นสไตล์ล้านนา ความเป็นชาวเหนือ
“การตกแต่งภายในของโรงแรมหลายๆ อย่าง เรา apply จากประสบการณ์ดีๆ เมื่อครั้งที่ไปพักโรงแรมต่างประเทศ กลับมา add on กับสิ่งที่มีทั้งตัวห้องและฟังก์ชั่นต่างๆ งานออกแบบเป็นการ combined หลายๆ อย่างมารวมกัน”
ผ่อนคลายในห้องพักสไตล์ luxury boutique
“ห้องพักทุกห้องจะมีเฮดบอร์ดรูปนาฬิกา ซึ่งด้านหลังเป็นข้อความภาษาเหนือ เป็นเพลงกล่อนนอนเด็ก ซึ่งเป็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ในบรรยากาศพื้นถิ่นชาวเหนือที่แต่งเติมในห้องพัก โดยรูปแบบห้องพักถ้าเป็นห้องสแตนดาร์ดที่ขนาดเล็กกว่าห้องอื่นๆ จะให้อารมณ์ compact cozy สบายๆ ไม่อึดอัด ส่วนห้อง Suite มี 2 แบบ คือ มี bathtub กับที่นั่งริมหน้าต่าง ซึ่งด้านหนึ่งเห็นวิวหอนาฬิกา ส่วนอีกด้านจะเป็นวิวบ้านดำ โดยวิวแบบนี้จะมีในห้อง Deluxe เช่นกัน แต่ถ้าหากมากันเป็นครอบครัวหรือคู่รักที่ต้องการ space หน่อย ส้มแนะนำห้อง Loft ขนาด 2 ชั้นครึ่งที่ให้อารมณ์เหมือนบ้านเลยทีเดียว สำหรับราคาพิเศษในช่วงโปรโมชั่นตอนนี้ ห้องพักของเราเริ่มต้นที่ 3,500 บาท/คืนค่ะ
“ไฮไลต์อีกอย่างของโรงแรมคือร้านอาหาร 2 ร้าน 2 สไตล์ คือ ‘ความทรงจำ’ เสิร์ฟเมนูจานอร่อยในสไตล์ยุโรปทั้งมื้อเช้า กลางวัน และมื้อเย็น แต่ถ้าใครอยากมีโมเมนต์จิบชาแบบอยู่เมืองนอกช่วงบ่ายๆ ที่นี่เปิด tea room ให้มานั่งชิลล์กันด้วย ส่วนร้านอาหารอีกร้านคือ ‘นิรันดร’ เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองรสชาติชาวเหนือแท้ๆ ค่ะ”