อินโดนีเซียไม่ได้มีแค่บาหลี! รู้หรือยังคะว่าประเทศแห่งหมู่เกาะนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ ทั้งทะเล แม่น้ำ ภูเขา และเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่จะมาอยู่ในเฟรมของคุณอย่างเป็นมิตร ถ้ายังไม่รู้ว่าวันหยุดยาวครั้งหน้าจะไปเที่ยวไหนดี ขอให้ดู 10 รูปนี้แล้วรีบจองตั๋วไปลงอินโดฯ ได้เลย!!

ถ้ากรุงเทพฯ คือประตูสู่เมืองไทย จาการ์ต้าก็คือหน้าบ้านของประเทศอินโดนีเซียที่มีทุกอย่างครบอย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน บินตรงจากสุวรรณภูมิด้วยสายการบินแห่งชาติโดยใช้ระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเศษ ก็ถึงจุดหมายปลายทาง พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิสสุดประทับใจ บรรยากาศโดยรวมของเมืองจาการ์ต้าจะคล้ายกรุงเทพฯ มาก คือเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และแสงสีในยามค่ำคืนซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ สำหรับทริปเมืองชวาในครั้งนี้

ที่นี่คืออเมซอนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม่น้ำ Cokel อยู่ในจังหวัด East Java ไม่ไกลมากจากจาการ์ต้า อีกหนึ่งสถานที่อันซีนซึ่งเชื่อเลยว่าคุณจะหารีวิวเป็นภาษาไทยจากที่ไหนไม่ได้! การผจญภัยจะเริ่มเมื่อลงเรือไม้ลำเล็ก แล้วค่อยๆ ล่องไปในแม่น้ำ ล้อมรอบด้วยความเขียวของป่ามะพร้าวและเสียงนกร้อง แม่น้ำใสสะอาดมากๆ ไม่มีขยะลอยมากวนใจแม้แต่ชิ้นเดียว

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าทริปอินโดฯ ครั้งนี้จะขาดบาหลีไป! เพราะทัศนียภาพอันงดงาม บวกกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง จะเติมจิตวิญญาณแห่งนักเดินทางได้อย่างเต็มเปี่ยม เราแนะนำให้เที่ยวแบบชิลล์ๆ เช่น ไปถ่ายรูปกับน้องลิง ภาวนาในบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิที่วัดเทมภัคสิริงค์ หรือถ่ายรูปกับเจดีย์ทรงสูงพร้อมทิวเขา ก็ดูจะเหนื่อยน้อยกว่าถือแผ่นเซิร์ฟกระโจนลงทะเล!

แสวงบุญกับพุทธสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก (นิกายมหายาน) ที่ ‘บุโรพุทโธ’ เดินทางง่ายๆ ด้วยการต่อเครื่องจากจาการ์ต้าเพียง 50 นาที สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะจากสถาปัตยกรรม และเรื่องราวทางศาสนาที่คนไทยไม่ควรพลาดไปเยือนสักครั้งในชีวิต บุโรพุทโธยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้วด้วย!

โอเค คุณอาจจะอยากยืนห่างจากเจ้ามงกรโคโมโดซักหน่อย ไม่ว่าจะเพื่อความปลอดภัยหรือความสบายใจก็ตาม แต่สิ่งที่อยากบอกคือ ในแถบที่ตั้งของอุทยานแห่งชาตินี้ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติซึ่งแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าอยู่ในทวีปเดียวกับเรา! ผืนแผ่นดินอันเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนี้ มีแอคทิวีตี้สุดฮิตทั้งกิจกรรมดำน้ำ และเส้นทางสำรวจธรรมชาติ จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติยุคใหม่อีกเลยทีเดียว

‘ยอกยาการ์ต้า’ คืออยุธยาแห่งอินโดนีเซีย ซึ่งเดิมเคยมีชื่อว่า ‘อโยธยา’ !! เป็นศูนย์กลางของงานโบราณ และศิลปะ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายอาร์ทผู้อยากผจญภัยไปพร้อมเรื่องราวอันน่าสนใจ อย่างเช่น Situs Warungboto โบราณสถานซึ่งเคยเป็นบ้านพักตากอากาศของเหล่าราชวงศ์ สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 มีทั้งบ่อน้ำ สปา และร่องรอยความหรูหราของไลฟ์สไตล์สุดลักชัวรี่จากคนสมัยก่อน

สวยจนลืมหายใจ กับสายน้ำตกที่โปรยลงมาจากยอดเขาความสูง 200 เมตร!!! เมื่อน้ำกระทบหินจนเกิดเป็นละออง รุ้งกินน้ำก็จะตามมาพร้อมด้วยความเขียวขจีจากธรรมชาติซึ่งโอบล้อมน้ำตกแห่งนี้ไว้ อ้อ แถมอยู่ไม่ไกลจากภูเขาโบรโม่ด้วยนะ แพลนดีๆ จะได้เที่ยวให้ครบไปเลย

หลายคนยังไม่รู้ว่าอินโดนีเซียมีชายหาดสีชมพู ซึ่งมีเพียง 7 แห่งบนโลกนี้เท่านั้น!! ตั้งอยู่แถวๆ อุทยานแห่งชาติโคโมโด เงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวายและนักท่องเที่ยวอันพลุกพล่าน เหตุผลที่ทำให้ทรายที่นี่เป็นสีชมพูนั้นเกิดจากโพรโตซัวชนิดหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในทะเล เปลือกของมันมีสีแดง และเมื่อเกิดการลอกคราบ เปลือกเหล่านั้นจะลอยมาอยู่ที่หาดทรายบริเวณนี้ จนกลายเป็นสีชมพู ตัดกับสีฟ้าจากน้ำทะเลได้อย่างสวยงาม

อีกหนึ่งเกาะลับซึ่งอยู่เลยบาหลีออกไปอีก ใครชื่นชอบกีฬาทางน้ำต้องหลงรักที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะน้ำสวย ฟ้าใส และคลื่นลูกใหญ่มาก ส่วนคนไหนไม่ถนัดเรื่องกีฬา บอกเลยว่าบนเกาะนี้เงียบสงบมากๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความห่างไกล แต่รับรองว่าวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา และอากาศอันบริสุทธิ์นั้นคุ้มค่ากับการเดินทางมามากๆ

ปิดท้ายด้วยการเดินทางบนโต๊ะอาหาร ร้านเดียวจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งติดหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของทวีปเอเชีย คอนเซ็ปต์ของร้านคือใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และปรุงโดยใช้ขั้นตอนแบบสมัยใหม่ เพื่อเปลี่ยนความรับรู้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นความซับซ้อน ที่ช่วยชูรสชาติของอาหารได้ดียิ่งขึ้น อีกหนึ่งจังหวะของอินโดนีเซียที่จะช่วยเติมเต็มทริปนี้ให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่คุณจะเสาะหาได้
Credit: Instagram: indtravel, restaurantlocavore