Home > Lifestyle > Travel > พาสำรวจ The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงที่เคยเป็นที่ตั้งของวังคันธวาสมาก่อน

ช่วงปีที่ผ่านมาการไปเที่ยวพักผ่อนแบบ Staycation ใช้เวลากับตัวเองในที่พักอย่างเต็มอิ่มเริ่มกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ล่าสุด HELLO! ได้มีโอกาสไปเข้าพักที่ The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว ที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุอันร่มรื่น จึงไม่พลาดเก็บบรรยากาศสวยๆ และประสบการณ์เหนือระดับมาฝากทุกคน โดยสถานที่ตั้งของโรงแรมนั้นแวดล้อมไปด้วยสถานทูตนานาประเทศและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มอบทั้งความสะดวกสบายและความรู้สึกเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน ขนาดที่ว่าทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรมจะรู้สึกเหมือนตัดขาดจากความวุ่นวายของเมืองกรุงเลยทีเดียว

โรงแรมระดับห้าดาวในเครือ Marriott ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบนถนนวิทยุ

โรงแรม The Athenee Hotel: a Luxury Collection Hotel นั้นถือเป็นโรงแรมระดับท็อปของเครือ Marriott โดยสถานที่เดิมก่อนจะมาเป็นโรงแรมอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ เคยเป็น วังคันธวาส ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และยังถือเป็นพระอัยยิกาของในหลวงรัชกาลที่ 10 อีกด้วย

The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว
โรงแรม The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel ชนะรางวัลสุดยอดโรงแรมห้าดาวแห่งปี 2015-2016 หมวดตกแต่งภายในยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศไทย

ด้วยเรื่องราวอันยาวนานของสถานที่ตั้งโรงแรม ทำให้การออกแบบตกแต่งทั้งหมดล้วนผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปกับความเป็นยุโรป เพื่อสะท้อนคุณค่าของประวัติศาสตร์ รวมถึงหลายจุดยังได้แรงบันดาลใจการตกแต่งมาจากประวัติของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร จนตัวโรงแรมได้รับรางวัลสุดยอดโรงแรม 5 ดาวแห่งปี 2015-2016 หมวดการตกแต่งภายในยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศไทย

ด้านหน้าทางเข้าโรงแรม The Athenee Hotel หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Plaza Athenee

ห้องพัก

ภายในโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีทรวมทั้งหมด 374 ห้อง โดยทุกห้องได้รับการออกแบบตกแต่งภายในอันมีแรงบันดาลใจจากพระตำหนักฤดูร้อนของเจ้าฟ้าหญิงวไลยอลงกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิก โทนสีห้องพักที่มอบความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย ไปจนถึงการใช้ลวดลายไทยประณีตงดงามบนผืนผ้าม่าน นอกจากนี้ในห้องพักยังคำนึงถึงผู้เข้าใช้ในทุกจุด ทั้งเตียงนอนขนาดใหญ่และหนาเป็นพิเศษ หรือโต๊ะทำงานที่ออกแบบให้ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์

ห้องพักของโรงแรม The Athenee Hotel นั้นมีทั้งหมด 11 ประเภทด้วยกัน ตั้งแต่ห้องแอทธินีที่มีพื้นที่ 38 ตารางเมตร ไล่ไปจนถึงห้องไฮไลต์อย่าง รอยัลพิมาย ธีม สวีท ที่ออกแบบตกแต่งภายในโดยมีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะแบบเขมรและปราสาทหินพิมาย , ห้องเรือนไทย ธีม สวีท ขนาดกว้างกว่า 190 ตารางเมตรที่ตกแต่งภายในให้ได้กลิ่นอายของบ้านไทยแท้สมัยอยุธยา และห้องไฮไลต์สุดท้ายอย่าง วิมานสยาม ธีม สวีท ที่ได้แรงบันดาลใจจากออกแบบจากพระที่นั่งวิมานเมฆ พระตำหนักฤดูร้อนของรัชกาลที่ 5 นั่นเอง

และห้องพักที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้ก็คือ ห้องรัตนโกสินทร์ ธีม สวีท พื้นที่กว้างขวางขนาด 350 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้นที่ 28 มาพร้อมห้องนอน 2 ห้องสำหรับเข้าพัก 4 คน ทันทีที่เดินเข้ามาจะพบกับความตระการตาของแชนเดอร์เลียคริสตัลที่ดีไซน์รูปทรงเหมือนพระอาทิตย์ทรงกลด ด้านล่างรองรับด้วยพรมที่เป็นลวดลายพระอาทิตย์ทรงกลดเช่นเดียวกัน

The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว
ห้องรัตนโกสินทร์ ธีม สวีท ขนาดกว่า 350 ตารางเมตรที่โดดเด่นด้วยส่วนห้องรับแขก ประดับแชนเดอเลียร์คริสตัลและพรมรูปพระอาทิตย์ทรงกลด

สำหรับใครที่เข้าพักในห้อง รอยัล คลับ และห้องสวีทต่างๆ ยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้บริการ รอยัล คลับ เลาจน์ อีกด้วย โดยเลาจน์นี้จะตั้งอยู่บนชั้น 26 มาพร้อมบริการเครื่องดื่มตลอดวัน น้ำชายามบ่าย และค็อกเทลยามเย็น โอบล้อมไปด้วยวิวใจกลางกรุงจากถนนวิทยุ ไม่ว่าจะมานั่งทำงานหรือพูดคุยผ่อนคลายก็ตอบโจทย์ทั้งสิ้น

ห้องอาหาร

นอกจากห้องพักที่มอบความผ่อนคลายและตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามแล้ว บรรดาห้องอาหารที่ตั้งอยู่ภายใน The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว ของเครือ Marriott นี้ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะมีหลากหลายสัญชาติ แถมยังการันตีความอร่อยด้วยเชฟมากฝีมืออีกด้วย

The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว
ห้องอาหาร Rain Tree Café ที่เปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์นานาชาติตั้งแต่มื้อเช้า มื้อสาย มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ

เริ่มกันที่ห้องอาหารแรก Rain Tree Café เปิดให้บริการบุฟเฟ่ต์นานาชาติตลอดทั้งวัน ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ โดยซิกเนเจอร์ประจำห้องอาหารนี้ที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ Sunday Brunch หรืออาหารมื้อสายวันอาทิตย์ ที่รวบรวมความอร่อยจากอาหารหลากหลายสัญชาติมาให้ลิ้มลองกันแบบบุฟเฟ่ต์

ถัดมาที่ The House of Smooth Curry นำโดย เชฟมนตรี จิรฐิติกาลกิจ ที่นำเสนอรสชาติดั้งเดิมของอาหารไทยแท้สี่ภาค แต่ละเมนูล้วนนำสูตรต้นตำรับชาววังมารังสรรค์ใหม่ ทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นของดีจากจังหวัดต่างๆ เป็นการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นภายในประเทศอย่างยั่งยืน

ขยับมายังประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาหารจีนกวางตุ้งสไตล์คลาสสิกที่ เชฟเชง กัม ซิง คอยดูแลห้องอาหาร The Silk Road โดยเชฟได้แทรกความทันสมัยเข้าไปในขั้นตอนปรุงอาหาร โดยที่ยังคงรสชาติและสูตรของต้นตำรับไว้ได้อย่างครบถ้วน และเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องไปลองเลยคือ กระเพาะปลาสดน้ำซุปกวางตุ้ง

ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ติดลิสต์มิชลินไกด์ปี 2022 อย่าง Kintsugi (คินสุกิ) ที่แปลว่า เชื่อมต่อด้วยทอง อันเป็นศิลปะของญี่ปุ่นที่ซ่อมแซมเครื่องเคลือบแตกหักด้วยการใช้ทองเชื่อม ห้องอาหารคินสุกินี้นำโดยหัวหน้าเชฟหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน เชฟเจฟ แรมซีย์ ผู้ตั้งใจที่จะนำเสนอรสชาติอาหารญี่ปุ่นสุดละเมียดละไมในรูปแบบใหม่

ปิดท้ายกันไปด้วยห้องอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งจากฝั่งตะวันตก The Allium Bangkok ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ เชฟโจโจ้-จารุวัฒน์ อู๋ประเสริฐ ที่ตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากยุโรปมาผสมผสานกับผลผลิตเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ ใครที่ตามหาสถานที่สำหรับดินเนอร์สุดโรแมนติกหรือร้านอาหารสำหรับใช้เวลากับคนพิเศษ บอกเลยว่าห้องอาหารแห่งนี้ควรเป็นหนึ่งในลิสต์ของคุณเลย

สระว่ายน้ำที่สวยที่สุดในโลก สปา และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับห้าดาว

นอกจากห้องพักและห้องอาหารที่โดดเด่นแล้ว จุดไฮไลต์ของโรงแรมคือบริเวณสระว่ายน้ำ ที่เปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางกรุง โอบล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวขจี ทั้งยังเป็นสระดีไซน์แบบฟรีฟอร์มชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้สระว่ายน้ำของ The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว แห่งนี้ยังติดอันดับสระว่ายน้ำที่สวยที่สุดในโลก 16 แห่ง ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes อีกด้วย

The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว
สระว่ายน้ำที่ติดอันดับสวยที่สุดในโลก 16 แห่ง จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes

ภายในโรงแรมยังมีสปาที่พร้อมให้คุณมาใช้เวลาผ่อนคลายให้รางวัลตัวเอง รวมไปถึงการบริการระดับห้าดาวที่จะทำให้คุณประทับใจตั้งแต่วินาทีที่จอดรถเทียบหน้าทางเข้า ตลอดการเข้าพัก จวบจนวินาทีที่เช็กเอ้าท์ก็จะมีพนักงานและบัทเลอร์คอยพร้อมรอบริการตลอด

สปาภายใน The Athenee Hotel โรงแรมห้าดาว
Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.