Home > Lifestyle > Travel > รวม 7 สถานที่เที่ยวธรรมชาติใน Australia เซเลบริตี้สายลุยห้ามพลาด!

ออสเตรเลียหลังจากที่ปิดประเทศมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 วันนี้ Australia ได้ออกมาประกาศเปิดประเทศให้เหล่านักท่องเที่ยวได้กลับมาเดินทางปัดฝุ่นพาสปอร์ตอีกครั้ง หลังจากที่หายไปเกือบ 2 ปี ในวันนี้ HELLO! ได้รวบรวม 8 สถานที่เที่ยวธรรมชาติใน Australia ที่หลายๆ ท่านอาจลืมระหว่างอยู่บ้านกักตัว

หาดไวท์เฮเวน (Whitehaven Beach)

บอกเลยว่าสำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติต้องมาซักครั้งที่ Whitehaven Beach ซึ่งตั้งอยู่บนหมู่เกาะ Whitsunday Island รัฐควีนส์แลนด์ จุดเด่นของที่หาดนี้คือความขาวสะอาดที่ทอดยาวไปกว่า 7 กิโลเมตร นอกจากชายหาดแห่งนี้จะมีน้ำทะเลใสสะอาด สวยงาม ดูแล้วสบายตา แถมที่นี่ยังได้รับรางวัลการันตีว่าเป็น “ชายหาดที่ขาวที่สุดในโลก” ถึง 2 ปีซ้อน เป็นชายหาดที่มีลักษณะ Silica ระยิบระยับมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และเม็ดทรายที่ละเอียด ไม่เก็บความร้อน ทำให้เราสามารถเดินบนชายหาดด้วยเท้าเปล่าได้อย่างสบายๆ เลย

แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef)

มาต่อกันที่ Great Barrier Reef ที่นักดำน้ำรู้จักกันดีเพราะที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมานาน 40 ปีแล้ว “มีความสำคัญทางธรรมชาติและทางวิทยาศาสตร์อย่างยิ่ง” ครอบคลุมความยาวกว่า 2,300 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ความสวยงามของแนวปะการังที่มีปะการังอาศัยอยู่มากกว่า 400 ชนิด มีปลาราว 1,500 สายพันธุ์ และมีสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์หลายชนิดอย่างเต่าตนุยักษ์ แต่ด้วยเหตุการณ์โลกร้อน ทำให้ปะการังบางส่วนฟอกขาวไปแล้ว หากใครมีโอกาสได้ไปก็ควรจะรีบไปดูก่อนสายเกินไป

โขดหินอุลูรู (Uluru)

ขึ้นมาบนฝั่งกันบ้างกับที่ Uluru หินสีแดงขนาดใหญ่กลางทะเลทรายของออสเตรเลีย นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ Iconic ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นจุดที่สะกดสายตานักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพ Landscape มากๆ สำหรับใครที่ตั้งใจขับรถหลายชั่วโมงเพื่อมาชมต้องร้องว้าวทุกราย ก้อนหินที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากปลายขอบฟ้าเปล่าๆ รูปร่างเกลี้ยงๆ แต่แฝงไปด้วยความสวยงาม อูลูรูนับเป็นสถานที่ที่สวยงามไม่ว่าจะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ด้วยแสงที่ตกกระทบหินนั่นเอง

ยอดเขาสามพี่น้อง (Three Sisters)

เดินขึ้นที่สูงกันบ้าง! พบกับจุดชมวิว Echo Point ที่มี Landmark ชื่อดังอย่าง Three Sisters ตั้งอยู่ ซึ่งมันดังมาจากรูปร่างภูเขาหินสูงรูปร่างแปลกประหลาดตั้งอยู่สามอันเรียงกันด้วยความสูงประมาณ 900 เมตร แต่ถ้าวัดจริงๆ จากระดับน้ำทะเล ตรงนี้จะมีความสูงอยู่ที่ 3,000 กว่าเมตรเลย อากาศหนาวมากๆ เตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อม อีกทั้งที่นี่ยังมีตำนานเล่าขานต่อๆ กันมาอีกด้วย

หุบเขาบารอสซา (Barossa Valley)

เดินกันเหนื่อยๆ แล้วอยากมาชมไร่ไวน์ก็แนะนำให้มาที่ Barossa Valley เลย เมื่อปลายศตวรรษที่ 20 ไร่ไวน์จิ๋วหลายแห่งเริ่มได้รับคำชมว่าผลิตไวน์ได้ดีและรสชาติอร่อยจนทำให้ไวน์ชีราซจากบารอสซา (Barossa Shiraz) กลายเป็นชื่อเสียงโด่งดังไปไกลระดับโลก ได้กลายเป็นถิ่นที่รวมเอาวิถีความเป็นยุโรปมานำเสนอและเฉลิมฉลองผ่านอาหารและการกินดื่มที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีหมู่บ้านอายุกว่า 160 ปี มีชาโตและโบสถ์หินอันงดงาม รสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ของไวน์แดงชีราซ พร้อมทิวทัศน์สวยงามที่เต็มไปด้วยต้นยูคาลิปตัสและสวนองุ่นกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาทั่วทั้งเมือง

ทะเลสาบฮิลเลียร์  Lake Hiller

Cr. Getty Image

สำหรับใครที่ชอบความแปลกใหม่ ทะเลสาบฮิลเลียร์ (Lake Hillier) ทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนเกาะ Middle Island เป็นที่รู้จักด้วยน้ำสีชมพูสดใสที่ดูเด่นเป็นสง่าท่ามกลางสีเขียวชอุ่มของป่าโดยรอบ ที่ปกคลุมด้วยเนินทรายและต้นไม้ที่แยกทะเลสาบออกจากทะเลด้านนอก สิ่งที่น่าสนใจคือ ภายใต้ทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเกลือและสาหร่ายสีแดงทำให้สีของน้ำกลายมาเป็นสีชมพูเย็นสวยงาม สามารถชมทะเลสาบสีชมพูได้ตลอดปี แนะนำช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือตอนที่พระอาทิตย์ตกลงบนผิวน้ำ ดังนั้นวันที่ฟ้าเปิด แดดออก ตอนกลางวัน ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์หรือเดินทางทางน้ำบนเรือ cruise เพื่อชมความงามเท่านั้น เพราะเข้าไปใกล้ๆ ทะเลสาบไม่ได้

Coala and Kangaroo

ปิดท้ายด้วยสัตว์ประจำประเทศออสเตรเลียอย่างน้องจิงโจ้และน้องโคอาลา สัตว์ประจำท้องถิ่นที่มีความน่ารัก ซึ่งตอนนี้จิงโจ้มีมากถึง 40 ล้านตัว กระจายตัวอาศัยอยู่รอบ ๆ ประเทศ ทำให้ออสเตรเลียถูกขนานนามว่าแดนจิงโจ้ ในส่วนของโคอาลาขี้เซาตัวนี้ ปกติมันจะนอนถึง 16-18 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว ปัจจุบันจะพบได้ในรัฐควีนส์แลนด์ รัฐนิวเซาท์เวลส์  รัฐวิกตอเรีย และรัฐเซาท์ออสเตรเลีย สามารถไปแวะเวียนชมความน่ารักกันได้เลย

Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.