Home > Lifestyle > Travel > คุณจ้อ อทิตา สุธาดารัตน์ ชวนแก๊งค์เซเลบริตี้สาวมาแอ่วเหนือ

“เชียงราย” ที่อยู่เหนือสุดแดนสยาม หลบซ่อนสายตาผู้คนอยู่ในทิวเขาอันเขียวขจี เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติและขนบธรรมเนียมประเพณีล้านนาแสนงดงาม ทั้งวัดวาอาราม ศิลปะแห่งล้านนา ป่าเขา เมืองแห่งดอกไม้ อาหารเหนืออร่อยๆ และที่นี่ยังเป็นเมืองของศิลปิน ทั้งศิลปินระดับชาติ และศิลปินรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์งานศิลปะมากมายที่รอให้เราไปชื่นชม

เมื่อ ททท.มาจุดประกายภาพเมืองในหมอกอย่าง “เชียงราย” ให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น นิตยสาร HELLO! ไม่รอช้า ขอตามรอย ททท. พร้อมชวนแก๊งค์เซเลบทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก ได้แก่ คุณจ้อ – อทิตา สุธาดารัตน์, คุณรุ่งทิพย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, คู่แม่ลูกสุดสวย คุณแม่น้ำอ้อย พิมพวรรณ และ คุณลูกแอ้ม – ปวีณลักษณ์ ลิมปิชาติ , ดีไซเนอร์สาวเก๋ ข้าวโพด – มัญชุมาศ นำเบญจพล, คุณโสรัส อมาตยกุล, คุณภริดา ลิมปานนท์,คุณพรรณิภา ปวนะฤทธิ์, คู่เพื่อนซี้ คุณจันทรา จันทร์พิทักษ์ชัย และ คุณกัญญ์วรา วิจักษณ์วิชชากร ไปเยือนภาคเหนือด้วยกันในธีมเก๋ๆ ว่า “เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ”

กำหนดการของเราเดินทางกันแต่เช้าตรู่ ผู้ร่วมทริปทุกท่านมาพร้อมเพรียงกันด้วยใบหน้าสดใส สนุกสนานเดินทางไปพร้อมกันด้วยสายการบินบางกอกแอร์แวร์เพื่อบินลัดฟ้าไปจ.เชียงราย หลังจากนั้นเดินทางต่อเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงจุดหมายปลายทางแรกที่ “ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน” เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ศูนย์วิปัสสนาแห่งนี้ก่อตั้งโดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่านว.วชิรเมธี) พระนักคิด นักเขียน นักเทศน์ และนักพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น “ศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก” นอกจากนั้นที่นี่ยังมีผลงานศิลปะโชว์อยู่ที่หอศิลป์โดยเฉพาะผลงานล้ำค่าของศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี

“ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค” จุดหมายต่อไปของเราเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนพื้นที่นับพันไร่ โอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติ ภายในไร่บุญรอดปลูกพืชทำการเกษตรหลายชนิด เช่น ไร่ชาอู่หลง, พุทราไต้หวัน, สตรอเบอร์รี่,มัลเบอร์รี่, ยางพารา, ฟักทองยักษ์, ผัก – ผลไม้เมืองหนาว, ข้าวบาร์เลต์, รวมทั้งฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม ฯลฯ ช่างเป็นโอกาสเหมาะที่คณะได้เดินทางไป เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต เจ้าภาพไร่บุญรอดจึงพาไปเก็บเมลอนและชิมกันสดๆ รสชาติชื่นใจ

ต่อด้วยเวิร์คช้อปเรียนรู้การชงชาสุดพิถีพิถันสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนสาวๆ ที่ชอบ adventure ก็ยกขโยงกันไปขี่จักรยานชมไร่แบบชิลๆ แล้วไปต่อกับกิจกรรมเรียกอะดีนาลีนสุดตื่นเต้น “Zip Line” ที่สูงระดับ 8 ชั้น โรยตัวผ่านลวดสลิงชมไร่ชาแบบ 360 องศา เมื่อใช้พลังเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค ก็จัดดินเนอร์มื้อพิเศษอาหารเมืองเหนือแสนอร่อยพร้อมด้วยไวน์ที่รสชาติไม่แพ้ประเทศอื่นๆที่ห้องอาหารภูภิรมย์ เรียกว่ามื้อนี้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มตากับทัศนียภาพสุดประทับใจ แล้วจึงกลับโรงแรมมาพักผ่อนกันอย่างอิ่มเอมหัวใจ

เช้าวันใหม่เราได้สบตากับภูเขาและแม่น้ำกกให้ได้สดชื่นยามเช้า จากนั้นเราเดินทางออกมาใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึง “โครงการพัฒนาดอยตุง” (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการต้นแบบการพัฒนาทางเลือกในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พวกเราเข้าไปชม “พระตำหนักดอยตุง” ที่ประทับของสมเด็จย่า เป็นเรือนไม้ 2 ชั้นบนเนินต่างระดับ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างบ้านปีกไม้ ศิลปะล้านนากับชาเลต์แบบสวิส (Swiss Chalet) สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อน

ส่วนกลางห้องเป็นที่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์เพื่อผู้มาเยือนได้สักการะ   นอกจากนั้นยังมีเพดานดาวเป็นภาพระบบสุริยะและกลุ่มดวงดาวอยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่เคยปรากฎ ณ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ  อีกทั้งยังได้ชมห้องบรรทมและห้องทรงงานที่สะท้อนพระราชจริยวัตรอันงดงามเรียบง่าย ขณะที่รอบๆ พระตำหนักก็ประดับด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์หลากสีบนพื้นที่กว่า 14 ไร่ ให้ความรู้สึกสดชื่นและสวยงาม

ไปหาอินสไปเรชั่นต่อที่ “หอแห่งแรงบันดาลใจ” ที่จัดแสดงนิทรรศการถ่ายทอดพระราชจริยวัตรในการทำงานและพระวิริยะอุตสาหะที่มุ่งพัฒนาความเป็นอยู่ของคนไทย  โดยหวังให้ผู้เข้าชม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวดอยตุง ได้เกิดแรงบันดาลใจ ยึดมั่นในความดี คิดดี และประพฤติปฏิบัติดี

นอกจากนั้นเรายังเราได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานมือ โรงงานเซรามิก โรงงานกระดาษสา โรงงานทอผ้าและเย็บผ้า และโรงงานคั่วกาแฟ นอกจากได้เห็นวิถีอาชีพที่น่าสนใจของชาวบ้านแล้ว ยังได้เรียนรู้ว่าโรงงานเหล่านี้นอกจากสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่แล้ว ที่สำคัญยังสร้างความสุขให้พวกเขาอีกด้วย

“หอคำ ไร่แม่ฟ้าหลวง” ทุกคนพร้อมใจกันมาสักการะพระพระพุทธรูปองค์สำคัญกลางหอคำ  คือพระพร้าโต้  เป็นพระพุทธรูปไทยใหญ่  แกะสลักจากไม้สักทองท่อนเดียวด้วยมีดอีโต้ด้ามเดียว มีอายุกว่า 300 ปี ภายในหอคำนี้ เป็นที่เก็บรวบรวมศิลปะวัตถุและงานไม้พุทธศิลป์ ที่มีมากที่สุดคือสัตภัณฑ์หรือเชิงเทียนไม้ที่ใช้ในวัดเก่าแก่ รวมทั้ง ตุงกระด้าง (ตุงหรือธงไม้)และขันดอก (ภาชนะที่ใช้ใส่ดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ)แต่ละชิ้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี

ภายในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ ท่านผู้ว่า ททท นาย ยุทธศักดิ์ สุภสร และทางไร่แม่ฟ้าหลวงได้จัดนำร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดเชียงรายมาให้เราได้ทาน พร้อมนำการแสดงชุด “น้อยใจยา” แบบล้านนาดังเดิมมาให้เราได้ชมกัน ถือเป็นวันที่น่าประทับใจที่ทำให้ทุกคนกลับไปด้วยรอยยิ้ม

เพียงแค่เราได้มาลองใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ สัมผัสวิถีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม พูดเลยว่า “ติดใจ” และสัญญาจะกลับมาแอ่วเมืองเจียงฮายอีกแน่นอน

Tags
travel
Never miss an update

Subscribe to our newsletter to get the latest updates.

No Thanks
You’re all set

Thank you for your subscription.