‘ttb reserve’ จัดสัมมนาวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมโซลูชันการเงิน ต่อยอดสู่ความสำเร็จที่ไปได้ไกลกว่า เพื่อลูกค้าคนสำคัญ

เพราะ ‘การศึกษา’ เป็นหนึ่งในรากฐานของความสำเร็จ การลงทุนในด้านการศึกษาของบุตรหลานจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการวางแผนและเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ ล่าสุด ttb reserve (ทีทีบี รีเซิร์ฟ) ร่วมกับพันธมิตร สถาบันวางแผนการศึกษาต่อต่างประเทศ EduSmith จัดสัมมนาพิเศษ ‘Overseas Education Powerhouse Forum’ ณ ห้องฉัตรา โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน roadmap ที่ธนาคารตั้งใจจัดเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมการศึกษาต่อต่างประเทศ ทั้งด้านการสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำและการบริหารจัดการด้านการเงิน สำหรับผู้ปกครองที่กำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศให้กับบุตรหลาน

ภายในงานมี คุณเอกรัศมิ์ มนธาตุผลิน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าการตลาดธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต, Mr. Rod Bugarin ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำและการรับสมัครเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยระดับโลก และ คุณอริสา กนกวัฒนาวรรณ ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนการศึกษาต่อต่างประเทศจากสถาบัน EduSmith ร่วมให้ความรู้

คุณเอกรัศมิ์ มนธาตุผลิน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการเงินระหว่างประเทศและการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน กล่าวว่า “สำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศ นอกจากเตรียมความพร้อมด้านการเรียน อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘การวางแผนทางการเงิน’ ซึ่งต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ตลอดระยะเวลาในการศึกษา เช่น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่าเงินเยนในญี่ปุ่นถูกลงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับการเล่าเรียนลดลงตาม ในขณะที่ประเทศแคนาดาค่าเงินขึ้นถึง 8 เปอร์เซ็นต์, สหรัฐอเมริกาค่าเงินสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนประเทศอังกฤษค่าเงินสูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายระหว่างการศึกษาต่อปีในอเมริกาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.4 ล้านบาท และอังกฤษราว 1.8 ล้านบาท”

การวางแผนการเงินสำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศของบุตรหลานสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ‘ช่วงวางแผนการศึกษา’ เป็นช่วงที่ควรมีการวางแผนการลงทุนที่ดี เพื่อให้เงินที่มีอยู่เกิดดอกออกผลมากที่สุด ดังนั้นจึงอยากเสนอตัวช่วยสำหรับการลงทุนที่มีโอกาสต่อยอดให้เงินงอกเงย มี 3 แนวทาง ได้แก่

บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) สกุลเงิน US Dollar ซึ่งสามารถเปิดในชื่อผู้ปกครองไว้ก่อนได้เลย หลักการของ FCD คล้ายกับ Travel Card คือสามารถซื้อเงินตราต่างประเทศเก็บไว้ได้ในช่วงที่ค่าเงินต่ำ แต่ต่างกันตรงที่ FCD ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยสูงถึง 4.35% ต่อปี ช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน นอกจากนี้ยังได้ความสะดวกสบายเพราะสามารถโอนจ่ายชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ทันที ผ่านแอป ttb touch เหมาะกับผู้ปกครองที่มีแผนจ่ายค่าเทอมต่างประเทศที่แน่นอนอยู่แล้ว

ตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Bond) เป็นหุ้นกู้ที่ออกโดยสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แต่มีระยะเวลาในการลงทุน ซึ่งปัจจุบันหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้นที่สุดอยู่ที่ 1.9 – 2.5 ปี เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่บุตรหลานกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน

หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Notes) ข้อดีคือให้ผลตอบแทนในระยะสั้น โดยระยะเวลาที่สั้นที่สุดคือ 1 เดือน ได้รับผลตอบแทนสูง ซึ่งมาพร้อมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น สามารถหาจังหวะในการลงทุน หรือสอบถามที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลของธนาคารที่คอยให้บริหารลูกค้าได้

มาถึง ‘ระยะที่ 2 การเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปศึกษาต่อ’ เป็นช่วงที่ต้องมีการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าเล่าเรียน และค่าที่พักอาศัย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ครั้งละ 1,200 – 1,500 บาท เพื่อให้การดำเนินการโอนค่าใช้จ่ายระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุด ttb reserve ได้คิดค้นโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความอุ่นใจให้กับผู้ปกครอง อาทิ ที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคล ที่สามารถให้คำปรึกษาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและการโอนเงินในระยะเวลาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด, ฟีเจอร์ใหม่บนสมาร์ทโฟนให้ลูกค้าสามารถโอนเงิน 6 สกุลเงิน (USD, EUR, GBP, AUD, HKD, SGD) ไปยัง 36 ประเทศปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน และมีค่าธรรมเนียมเพียง 150 บาท, บริการตรวจสอบสถานะการโอนเงินไปต่างประเทศ และสามารถโอนเงินได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด เป็นต้น

พร้อมกันนี้สำหรับผู้ถือบัตร ttb reserve ยังได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% เมื่อจ่ายค่าเทอมเป็นสกุลเงินต่างประเทศ และรับคะแนน 2 เท่า เมื่อจ่ายค่าเทอมผ่านออนไลน์ (5 บาทรับ 1 คะแนน) และยังรับความคุ้มครองทั้งครอบครัวสำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ เมื่อต้องไปส่งลูกเรียน

ระยะสุดท้ายคือค่าใช้จ่าย ‘ระหว่างศึกษาในต่างประเทศ’ ซึ่งตามปกติเมื่อน้อง ๆ เดินทางไปถึงประเทศที่ไปศึกษาต่อ จะต้องเปิดบัญชีในต่างประเทศเพื่อรับเงินจากผู้ปกครองมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต โดยมีค่าธรรมเนียมราว 2.5 – 3.5 % แต่สำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต ttb reserve และบัตรเดบิต ttb all free จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย และยังสามารถเปิดบัตรเสริมให้ลูกใช้จ่ายในต่างประเทศ สะดวก ไม่ต้องโอน ไม่ต้องแลก และรับสิทธิพิเศษจากบัตร ttb reserve อาทิ รับ 1 คะแนน ทุกการใช้จ่าย 10 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% เป็นต้น

ด้าน Mr. Rod Bugarin ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำและการรับสมัครเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยระดับโลก ซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายรับสมัครนักศึกษาของมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย, มหาวิทยาลัยบราวน์ และ มหาวิทยาลัยเวสเลียน (Former Assistant Director of Admission & Financial Aid for the Columbia University, Brown University and Wesleyan University) เล่าว่า ช่วง 3 ปีหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 การศึกษาต่อต่างประเทศมีระดับความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในอเมริกา รวมถึงกลุ่ม Ivy League มีอัตราในการรับจำนวนนักศึกษาน้อยลง แต่มีนักศึกษายื่นแอดมิชชั่นยังมหาวิทยาลัยมากขึ้น สาเหตุหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ทำให้นักเรียนไม่สามารถเดินทางไปยังศูนย์สอบได้ หลายมหาวิทยาลัยจึงยืดหยุ่นให้นักเรียนสามารถเลือกได้ว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นคะแนน SAT/ACT ก็ได้ จึงมีจำนวนนักเรียนจากทั่วโลกส่งใบสมัครเข้ามายังมหาวิทยาลัยมากขึ้น

นอกจากนี้เหตุการณ์ทางสังคมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีเด็ก ๆ สนใจการศึกษาในมหาวิทยาลัยมากขึ้น โดยไม่ได้มองแค่ในเรื่องของวุฒิการศึกษาและโอกาสทางอาชีพเท่านั้น แต่ยังเห็นถึงความสำคัญในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ เพื่อให้ตัวเองมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม ซึ่งจุดนี้ได้กลายเป็นหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยนำมาใช้ในการเลือกรับนักศึกษา

อีกหนึ่งองค์ประกอบเข้ามามีความสำคัญในการรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาคือ ‘ความหลากหลาย’ เนื่องจากที่สหรัฐฯ เชื่อว่าการที่มีนักเรียนที่มีแบ็กกราวด์ต่างกันจะช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนการสอนได้มากขึ้น โดยอนาคตอันใกล้สหรัฐฯ จะมีการออกกฎหมายไม่ให้มหาวิทยาลัยเลือกรับนักเรียนจากเหตุผลทางด้านเชื้อชาติ ทำให้มหาวิทยาลัยต้องพิจารณาความหลากหลายจากบริบทอื่น ซึ่งหนึ่งในวิธีค้นหาความหลากหลายจากนักเรียนทั่วโลก คือการให้นักเรียนเล่าถึงภูมิหลังของตัวเองผ่านเรียงความ เพื่อดูทัศนคติ ตลอดจนความมุ่งมั่น และเป้าหมายในชีวิต

ดังนั้นกลยุทธ์ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในปัจจุบันจึงต้องคำนึงถึงทั้งเรื่องคะแนนสอบ และความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล เช่น แพสชัน ประสบการณ์ หรือความท้าทายต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบทำให้เรามีความพิเศษกว่าคนอื่น ตลอดจนทักษะที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปต่อยอดในสายอาชีพได้ รวมถึงการมีบทบาทและส่วนร่วมในสังคมที่ตัวเองอาศัยอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ต้องใช้โอกาสต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากมีปัญหาและประเด็นทางสังคมให้เข้าไปมีส่วนร่วมมากมาย

สำหรับคณะที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ บริหารธุรกิจ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยได้รับความนิยมและมีความยากง่ายต่างกัน ดังนั้น ก่อนยื่นสมัครมหาวิทยาลัย ผู้ปกครองและนักเรียนควรหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน เช่น มหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวี่ลีกส์มีเพียง 2 มหาวิทยาลัยเท่านั้นที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีบริหารธุรกิจ ส่วนการศึกษาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี กลุ่มมหาวิทยาลัยไอวี่ลีกส์อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะมีสถิติที่แสดงให้เห็นว่านักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยอื่นที่มีความโดดเด่นในด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี จะมีโอกาสเข้าทำงานในบริษัทชั้นนำ รวมถึงได้รับค่าตอบแทนหรือเงินเดือนที่สูงกว่า เป็นต้น

ทั้งนี้ภายในงานมีลูกค้า ttb reserve ที่สนใจส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ ให้ความสนใจทั้งด้านวางแผนการศึกษาต่อ และการวางแผนด้านการเงินที่ช่วยวางแผนการลงทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน ลดค่าใช้จ่าย และได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร ttb reserve รับส่วนลดพิเศษ 7% เมื่อเข้ารับบริการโปรแกรมสมัครเรียนต่อ หรือคอร์สเรียนกลุ่ม/เดี่ยว กับ EduSmith ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2566.